‘พิชัย’ บินด่วน! ถกทีมญี่ปุ่น โปรโมท ‘ซอฟต์พาวเวอร์สินค้า-บริการไทย’ – ดึงกลุ่มทุนใหญ่ขยายตลาดลงทุนในไทย
“รมว.พาณิชย์” นำคณะไทยบินเปิดดีลญี่ปุ่น 20-23 ธ.ค.นี้ ลุยโปรโมท “ซอฟต์พาวเวอร์สินค้า-บริการไทย” ตั้งเป้าชวนนักธุรกิจรายใหญ่ขยายตลาดลงทุนไทย ชี้! ญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรการค้าสำคัญของไทย ขึ้นแท่นคู่ค้าอันดับ 3 เผย! มูลค่าการค้าไทยและญี่ปุ่นในปี 2566 พุ่งถึง 55,789 ล้านเหรียญสหรัฐ
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 20-23 ธันวาคม 2567 ตนมีกำหนดการนำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์เดินทางเยือนกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ร่วมกล่าวเปิดงาน ASEAN-Japan Economic Co-Creation Forum 2024 ในห้วข้อ “ยานยนต์ยุคใหม่ ดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ และการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่พลังงานสีเขียว” ตามคำเชิญของ Mr. MUTO Yoji (มูโตะ โยจิ) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (METI) อาเซียนและญี่ปุ่น โดยจะกระชับความสัมพันธ์และขยายโอกาสทางการค้าการลงทุนไทย-ญี่ปุ่น รวมไปถึงการจัดกิจกรรมสำคัญในการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศและส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ของไทยให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นในประเทศญี่ปุ่น
ทั้งนี้ ตนมีกำหนดการหารือกับภาคเอกชนบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่น อาทิ GS Yuasa International, Extrabold Corporation, Hitachi, Scheme Verge, SIIX, Mitsubishi Electric Corporation และ Softbank รวมถึง JETRO JICA แบงค์กรุงเทพในญี่ปุ่น สำนักงาน BOI โตเกียว ผู้บริหาร NIPPON STEEL Corporation ผู้บริหาร NTT Data Corporation มีเป้าหมายจะเชิญชวนให้มาขยายตลาดการค้าและการลงทุนในไทย ซึ่ง มหาวิทยาลัยโตเกียวได้ตนเชิญมาบรรยายเรื่องสถานการณ์การเมืองเศรษฐกิจในประเทศไทยที่ญี่ปุ่น ให้กับนักลงทุน สมาคมที่เกี่ยวข้องกับการค้า การลงทุน นักวิชาการ นักศึกษาญี่ปุ่น และสื่อมวลชนด้วย
รมว.พาณิชย์ ย้ำว่า แล้วตนจะถือโอกาสนี้ในการประชุมมอบนโยบายให้กับทูตพานิชย์ในประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์การค้าและผลักดันการส่งออกของประเทศให้เป็นบวกต่อไปหลังจากที่ได้ประชุมกับภาคเอกชนในการประกาศเป้าส่งออกในปีหน้าที่ 2-3% ทำเงินเข้าประเทศเกินกว่า 10 ล้านล้านบาทในปี 2568 และที่สำคัญจะจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยยกระดับแบรนด์สินค้าและบริการของไทย Think Thailand – Next Level ณ ห้าแยกชิบูย่า ที่เป็นย่านที่มีผู้คนพลุกพล่านที่สุดในญี่ปุ่น ให้คนญี่ปุ่นได้สัมผัสถึงอัตลักษณ์เสน่ห์ของซอฟต์พาวเวอร์ไทยด้วย
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่า ประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในพันธมิตรทางการค้าที่สำคัญยิ่งของไทยด้วยขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก และเป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของไทย ในปี 2566 ไทยและญี่ปุ่นมีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 55,789 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็นการส่งออกจากไทยไปญี่ปุ่น 24,594 ล้านเหรียญสหรัฐ (สินค้าส่งออกสำคัญของไทย ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไก่แปรรูป เครื่องจักร แผงวงจรไฟฟ้า) และ การนำเข้าของไทยจากญี่ปุ่นมูลค่า 31,195 ล้านเหรียญสหรัฐ (สินค้านำเข้าสำคัญของไทย ได้แก่ เครื่องจักรกล เหล็ก เคมีภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า).