UAE เล็งลงทุน Data Center ในไทย หลังมองเห็นศักยภาพเทคโนโลยีดิจิทัล – AI มากสุดในภูมิภาคนี้
“พิชัย นริพทะพันธุ์” กล่อมนักธุรกิจสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์สำเร็จ หลังร่วมหารือ เห็นตรงกัน! ไทยมีศักยภาพรับการลงทุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ แถมมีระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมสูง ทั้งระบบไฟฟ้าและน้ำที่มีความเสถียรและเพียงพอ ที่สำคัญมีเครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง 5G ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ อีกทั้งยังเป็นแหล่งความมั่นคงทางอาหาร พร้อมเร่งสรุปผลเจรจา CEPA ไทย – ยูเออี
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในโอกาสที่ ดร.ธานี บิน อาเหม็ด อัล เซยูดี รัฐมนตรีแห่งรัฐประจำกระทรวงเศรษฐกิจ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) รับผิดชอบด้านการค้าต่างประเทศ นำคณะนักธุรกิจ UAE ที่มีศักยภาพสูงในการลงทุนเดินทางเยือนไทย เพื่อเชิญชวนมาลงทุนในประเทศ ทั้งด้านเทคโนโลยีและอาหาร สร้างเศรษฐกิจให้เติบโตไปด้วยกัน
ทั้งนี้ ได้เชิญชวนฝ่าย UAE เข้ามาลงทุนจัดตั้ง Data Center ในไทย ซึ่ง UAE ก็มองเห็นถึงศักยภาพของไทยในด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และปัญญาประดิษฐ์ อีกทั้งไทยยังมีระบบนิเวศด้านเทคโนโลยีที่ดีมาก อาทิ ระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่มีความพร้อมสูง โดยเฉพาะไฟฟ้าและน้ำที่มีความเสถียรและมีปริมาณเพียงพอ เครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง 5G ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจด้านเทคโนโลยีในระดับที่ดี และทำเลที่ตั้งซึ่งเป็นศูนย์กลางของอาเซียน UAE จึงสนใจเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมดังกล่าวตลอดห่วงโซ่ธุรกิจเช่น การพัฒนาซอฟท์แวร์ และการบริการ เพื่อต่อยอดให้ไทยเป็น “Hub”ของภูมิภาค โดยขอให้รัฐบาลไทยช่วยสนับสนุน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนฝ่าย UAE และจะช่วยแนะนำผู้ร่วมทุนที่น่าเชื่อถือให้ UAE นอกจากนี้ UAE ยังมองหานักลงทุนเข้าไปช่วยพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานใน UAEเพื่อเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนระยะยาว
นายพิชัย กล่าวอีกว่า ด้วยความพร้อมด้านการผลิต และแปรรูปสินค้าเกษตรและอาหารของไทยที่ส่งเสริมให้ไทยเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารรายใหญ่ของโลก อาทิ ข้าว ไก่ และปลาทูน่ากระป๋อง ตนจึงได้เสนอไทยเป็นแหล่งสนับสนุนความมั่นคงทางอาหารให้ UAE และเพื่อต่อยอดความร่วมมือที่ยั่งยืนที่สองฝ่ายจะได้ประโยชน์ร่วมกัน จึงได้เชิญชวน UAE เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร ขณะเดียวกัน UAE ก็มีความสนใจที่จะร่วมมือกับไทยเป็นอย่างยิ่ง โดยเห็นว่า ความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการน้ำ และการจัดการขยะของ UAE จะช่วยส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมและสิ่งแวดล้อมของไทย ทั้งนี้ UAE ได้เชิญชวนให้ไทยส่งออกสินค้าดังกล่าวมายัง UAE เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นที่ต้องการของตลาด UAE อีกทั้ง ยังเสนอให้ไทยใช้ UAE ที่มีความพร้อมด้านโลจิสติกส์ เป็นจุดกระจายสินค้าไปยังภูมิภาคใกล้เคียง อาทิ แอฟริกา และยุโรปด้วย โดยตนได้มอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศหารือกับบริษัทของ UAE ในรายละเอียดต่อไป
นอกจากนี้ UAE มีความต้องการแรงงานคุณภาพจากไทย รวมทั้งวิศวกรจำนวนมาก เพื่อเข้าไปช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของ UAEโดยกระทรวงพาณิชย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยสนับสนุนประเด็นดังกล่าว อีกทั้ง ตนยังได้พูดคุยกับ ดร. ธานีฯ เกี่ยวกับแนวทางการสรุปผลการเจรจา FTA ระหว่างไทยกับ UAE หรือที่เรียกว่า CEPA ซึ่งเราเห็นตรงกัน ที่จะผลักดันให้การเจรจาฯ สรุปผลได้โดยเร็วที่สุด เพื่อให้เกิดประโยชน์ในวงกว้างต่อภาคธุรกิจของสองฝ่ายต่อไป.