“ภูมิธรรม” โต้แทน “นายกฯอิ๊ง” เผยสปีดของผู้นำทั่วโลกล้วนมีสาระสำคัญ ทุกคนก็อ่านชี้แจงไม่มีใครพูดสด วอนอย่าใช้อคติจับผิด ส่วนปมตอบกลับความเห็นในโลกโซเชียล ถือเป็นเรื่องดีที่รัฐบาลจะได้ชี้แจงทำความเข้าใจ ยืนยันไม่ใช่การตอบโต้

กรณีดราม่าที่มีคนบางกลุ่มตำหนิ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดอ่านไอแพดระหว่างการร่วม ประชุมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย (Asia Cooperation Dialogue: ACD) ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 2 – 3 ต.ค. 67 ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ระบุว่า อยากให้สังคมสนใจสาระมากกว่ารูปแบบ เพราะสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ที่แต่ละประเทศจะต้องต่อรองกัน มันอยู่ที่สาระ ไม่ได้อยู่ที่ใช้หรือไม่ใช้ไอแพด จะเปิดดูหรือไม่เปิดดู ที่จริงแล้วตามวัตรปฏิบัติที่ทำกันมาก็ไม่ได้มีปัญหา ปกติสปีดหรือการพูดที่เป็นทางการมากๆ ไม่มีใครพูดสด อ่านกันทั้งนั้น บางทีเห็นผู้นำระดับโลกยืนพูดมีพร๊อมเตอร์ (prompter)ให้เห็นก็มีมาแล้ว

ทั้งนี้ ตนไม่อยากให้ใครใช้อคติ มาจ้องเล่นในเรื่องรูปแบบ เพราะมันไม่เกิดประโยชน์กับประเทศ สิ่งที่น่าสนใจคือมันมีสาระของการไปเจรจาหรือไม่ เจรจาแล้วได้เปรียบหรือเสียเปรียบ เป็นประโยชน์ต่อประเทศหรือเปล่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่น่าพูดคุยกันมากกว่า    

ส่วนภาพรวมของการเดินทางไปประชุมในต่างประเทศเป็นครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีนั้น ตนมองว่าเป็นสิ่งที่น่าพอใจ สามารถสร้างสายสัมพันธ์ที่ดี สร้างข้อตกลงร่วมกัน เพื่อเชื่อมโยงถึงกัน และมีการที่จะคุยกันต่อในอนาคตอีกหลายเรื่อง นับเป็นเรื่องดีที่นายกรัฐมนตรีจะต้องเดินทางไปประชุมในต่างประเทศ ถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้กับประเทศไทย ตอนนี้ไม่ใช่แค่นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว แต่รัฐมนตรีทุกคน กำลังจะต้องเดินทางไปต่างประเทศตามหน้าที่ของตนเองในการพูดคุยปัญหาและเจรจาเรื่องโอกาสการค้าและการลงทุนร่วมกัน

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี นายกรัฐมนตรี ไม่ควรไปตอบคอมเมนต์กับชาวโซเชียลมีเดียจนทำให้ถูกวิจารณ์ทั้งขึ้นทั้งร่อง เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า มันไม่ใช่สังคมส่วนใหญ่ เป็นแค่บางส่วนที่วิพากษ์วิจารณ์ แต่พูดว่าสังคม เหมือนกับว่าทั้งหมดรู้สึกแย่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้ตอบโต้ แต่เป็นการชี้แจงว่ามันเป็นอย่างนี้ ทุกคนก็ทำ และนายกรัฐมนตรีก็ทำ มีอะไรอยากให้คุยในสาระมากกว่า ซึ่งยืนยันว่ามันไม่ใช่การตอบโต้ แต่เป็นการชี้แจงทำความเข้าใจ และเป็นการเสนอความเห็น ซึ่งไม่ใช่สังคมทั้งหมด ก็มีหลายส่วนวิพากษ์วิจารณ์ไป ถือเป็นสิทธิที่สามารถวิพากษ์วิจารณ์กันได้ แต่รัฐบาลก็ต้องมั่นคงแน่วแน่ อย่างไรก็ตาม ถือเป็นเรื่องที่ดีกว่าถ้าทำความเข้าใจกับประชาชนส่วนใหญ่.