เมื่อ ‘บิ๊กป้อม’ พยัคฆ์บ้านป่าฯ จาก บูรพาพยัคฆ์ ถูก ‘คลิปลับ’ ต้อนจนสิ้นลาย

จะเรียกว่า “เกม” ก็เป็นเกมที่สุดโหดกันเลยทีเดียว ยิ่งหากเป็น “เกมการเมือง” ด้วยแล้ว ก็ยิ่งโหดกว่าหลายเท่า ยิ่งเป็นช่วงเข้าด้ายเข้าเข็มกำลังลุ้นได้เสียกันแบบนี้มันก็ยิ่งพลาดไม่ได้เป็นอันขาด

หากโฟกัสไปที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ “ป.” คนสุดท้าย ที่กำลังรวบรวมกำลังเท่าที่มีเพื่อตอบโต้และเอาคืนฝ่ายตรงกันข้าม แต่ด้วยศักยภาพที่กำลังถดถอย ทำให้ไม่อาจระคายผิวอีกฝ่ายได้เลย ประกอบกับมีลูกน้องที่ไม่เอาไหน ทุกอย่างก็ยิ่งดำดิ่งลงไปอีก

“คลิปเสียง” ที่กำลังแพร่กระจายกันแบบไฟลามทุ่งเวลานี้ ทำให้ “ในวงการ” พูดถึงกันไม่ขาดปาก แม้ว่าเนื้อหาในคลิปดังกล่าว อาจจะไม่ถึงขั้นทำร้ายจนจบชีวิต แต่มันก็สะท้อนให้เห็นถึงบุคลิกและตัวตนของคนๆ นั้น ในวงการเมือง และเชื่อมโยงไปถึงระบบราชการไทย

ตัวอย่างคลิปเสียงที่มีการเผยแพร่ในรายการ “เจาะลึกทั่วไทยฯ” ดำเนินรายการโดย ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ หรือ “หมาแก่” มีการเผยแพร่คลิปเสียง จำนวน 4 คลิป ดังนี้

โดยคลิปแรก อ้างเป็นบทสนทนาระหว่างชาย 4 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นบอกกับวงสนทนาว่า “ผมเป็นรอง ทำงานให้กับท่านนายกฯ มานาน ทำสำเร็จหลายเรื่อง ต่อไปนี้ผมอยากจะขอให้ประชาชนให้ผมได้ลองนั่งเบอร์ 1 ดูบ้างนะ ผมจะขอ” ขณะที่มีเสียงชายคนหนึ่งหัวเราะ พร้อมกล่าวเสริมขึ้นมาว่า “ก็สื่อออกไปบ้าง”

ขณะที่คลิปที่ 2 เป็นสนทนาระหว่างผู้ชาย 2 คน ที่คาดว่าจะเป็น “บิ๊กป้อม” กับ “โอ๋” ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ โทรศัพท์พูดคุยกัน โดยชายคนแรก ระบุว่า “ไอ้โอ๋ จะให้กูออกจากหัวหน้าพรรคหรือ” ด้านปลายสายตอบกลับว่า ผมไม่ได้พูดครับ ผมไม่ได้พูดครับนาย”

“ไม่มีออกเลยนะ มึงจำไว้”
“ผมไม่ได้พูดครับนาย ผมไม่ได้พูด”
“แล้วแบ่งเงิน แบ่งทองกันยังไง”
“ผมไม่ทราบครับนาย”
“แล้วรับเงินมาแล้วไม่จ่ายไง”
“ครับ”
“แล้วเงินจ่ายที่ไหน บอกว่าเอามาให้กูจ่ายไง แล้วไง”
“วันจันทร์ผมเข้าไปเล่าให้ฟังครับ”
“โอเค”

ส่วนคลิปที่ 3 เป็นเสียงสนทนาของผู้ชาย 2 คน คล้ายเป็นการรายงานให้อีกฝ่ายทราบ เรื่องการจัดทัพของกระทรวงหนึ่ง มีการกล่าวถึงชื่อ “รองชัยวัฒน์” รวมทั้ง “ขจร” โดยการสนทนากันระบุ “ขจรเนี่ยดีแล้ว พูดรู้เรื่อง” นอกจากนี้ ยังกล่าวถึง “อยู่กับ….” แล้วหัวเราะ ซึ่งคลิปที่ 3 ทางผู้ดำเนินรายการระบุว่า อาจเป็นกระทรวง กรม หรือหน่วยงาน ที่อยู่บริเวณถนนราชดำเนิน ไปทางคลองหลอด

คลิปที่ 4 เป็นการสนทนาระหว่างชาย 2 คน คนแรกรายงานผลงานของตัวเองที่เคยยื่นยุบพรรคการเมืองหนึ่งมาแล้ว ให้ชายอีกคนทราบ โดยเสียงช่วงหนึ่งระบุว่า “เพื่อจะเป็นบรรทัดฐาน ใครจะเอาเรื่องสถาบันมาก็มัดคอได้ เดี๋ยวผมร่าง ส่วนของเรืองไกร เป็นแค่เรื่องคุณสมบัติเฉพาะที่ทำขึ้น ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ไว้ก็ยากที่จะตัดข้อวินิจฉัยของศาล ของเรืองไกรก็ได้ข่าวดี แต่ถ้าร้องเอาเรื่องในอดีตที่เคยวินิจฉัย เช่น 112 ก็จะค่อยๆ บั่นทอน ซึมซับ สุดท้ายก็มีปัญหากับท่าน เดี๋ยวผมทำก็เหมือนตอนที่ยุบไทยรักษาชาติ เพราะคนที่ทำก็ไม่รู้ว่าจะมีข้อกฎหมายใดเล่นงานได้ขอให้ผมช่วยคิดสุดท้าย จึงจัดการไทยรักษาชาติ”

แน่นอนว่า บุคคลหลักที่อยู่ในคลิปเสียงดังกล่าว คล้ายกับเสียงของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และบางคลิปก็น่าจะเป็นเหตุการณ์ในช่วงรัฐบาลก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะที่ระบุว่า น่าจะเป็นกระทรวงแถวคลองหลอด มีการเอ่ยชื่อ “รองชัยวัฒน์” เพราะเวลานี้ คนที่ชื่อชัยวัฒน์ ดังกล่าวถูกย้ายไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดใหญ่แห่งหนึ่งในภาคอีสานแล้ว

ในเรื่องหลังนี้ ต่อมานายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยอมรับว่า 1 ใน 4 คลิป เป็นเสียงของตัวเอง สมัย พล.อ.ประวิตร กำกับดูแลฝ่ายความมั่นคง และดูแลกระทรวงมหาดไทย เป็นการรายงานเพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยเสนอชื่อแต่งตั้ง นายขจร ชวโนทัย เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กับ นายอรรถษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ซึ่งขณะนั้น ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย จึงเสนอแต่งตั้งเพื่อเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ต้องให้ความเห็นชอบจึงต้องนำเรียน ซึ่งท่านก็เมตตาไม่ก้าวก่าย ให้ความเห็นชอบให้เสนอเข้า ครม.เพื่อเห็นชอบ

หลังจากมีการเผยแพร่คลิปเสียงออกมาแล้ว ทางโฆษกพรรคพลังประชารัฐ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ปฏิเสธว่า ไม่ใช่คลิปเสียงของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และว่า ได้มีการสอบถามข้อเท็จจริงไปยังพล.อ.ประวิตร และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยืนยันว่า ไม่ใช่เสียงการพูดคุยของตัวเอง เพราะไม่ได้เคยมีการพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าวตามที่คลิปเผยแพร่ออกมา จึงเชื่อมั่นว่าเป็นคลิปเสียงปลอม ที่ทำขึ้นจากเทคโนโลยีทางดิจิทัล ด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่จะเห็นว่าสามารถทำลอกเลียนแบบได้เสมือนจริง ทั้งเสียง และภาพ ซึ่งที่ผ่านมา มักจะพบเห็นการทำคลิปในรูปแบบต่างๆ และล้อเลียน พล.อ.ประวิตร เล่นการเมืองต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง

“การนำคลิปเสียงออกมาสู่สาธารณะครั้งนี้ ควรมีการตรวจสอบก่อนเผยแพร่ และวอนให้สื่ออย่าตกเป็นเครื่องมือหลงเชื่อ ของนักการเมืองที่ไร้จริยธรรม ที่สร้างเรื่องมาเพื่อทำลาย ความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อพรรคพลังประชารัฐ เป็นการใช้วิธีชั่วร้ายเก่ามาทำลายระบอบประชาธิปไตย ผมคิดว่าในปีนี้ เป็นปี 2567 แล้ว ไม่ใช่ปี พ.ศ.2539 ยังมีการเล่นการเมืองที่สาดน้ำเน่าสิ่งสกปรกใส่กัน ยังมีการเลี้ยงงูเห่าไทยสร้างไทย งูเห่า ปชป. งูเห่า พปชร. แล้วการเมืองของไทยจะพัฒนาใสสะอาด ประชาชนเชื่อมั่นในระบอบพรรคการเมือง ได้อย่างไร ที่ชอบเล่นใส่ร้ายป้ายสีใส่กัน” พล.ต.ท.ปิยะ กล่าว

แน่นอนว่า หากพิจารณากันตามความเป็นจริงแล้วนี่คือเกมทำลายกันทางการเมือง แต่ขณะเดียวกันภาพที่ออกมาทำให้เห็นภาพลบของ พล.อ.ประวิตร อย่างชัดเจน และในท่ามกลางความเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ของเขาที่กำลังรวบรวมกำลังลุกขึ้นสู้กับ “ระบอบทักษิณ” ที่พยายามกำจัดเขาออกไปให้พ้นทาง ถึงขนาดที่ว่า “ลุงป้อม” กำความลับสำคัญ เช่น มี “คลิปเสียง” ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ของ นายทักษิณ ชินวัตร เหมือนกัน แต่กลายเป็นว่าเวลานี้ “คลิปเสียง” กำลังกลับมาเล่นงาน พล.อ.ประวิตร เสียเอง

อีกทั้งภายในพรรคพลังประชารัฐเอง ก็กำลังเกิดปัญหาอย่างรุนแรง ทั้งความแตกแยก การ “หัก” กันทางการเมือง จนมีการแยกทางกันกับกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จนทำให้ ทีมของลุงป้อม ต้องพ้นจากการร่วมรัฐบาล และเป็นรัฐมนตรี ออกมาเป็นฝ่ายค้านอย่างเจ็บปวด รวมทั้งมีสมาชิกคนสำคัญทยอยลาออกมา อย่างล่าสุดเพิ่งมีกลุ่ม “รัตนเศรษฐ” บ้านใหญ่โคราช ก็ไขก๊อก ยกก๊วนออกไปแล้ว หลังจากไม่พอใจที่มีการเปลี่ยนแปลงการบริหารภายในพรรค

ภาพที่เห็นในวันนี้หาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ก่อนหน้านี้เคยเป็น “บูรพาพยัคฆ์” แต่เวลานี้ไม่ต่างจาก “เสื้อสิ้นลาย” แทบจะยันกายไม่ขึ้นแล้ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะประเมินสถานการณ์ผิด ประเมินตัวเองผิด และที่สำคัญยังมีลูกน้องใกล้ตัวที่ไม่เอาไหน มันก็ยิ่งเข้ารกเข้าพงไปกันใหญ่ ส่วนที่หวังว่าจะกลับมาเป็น “เบอร์หนึ่ง” อย่างที่หลุดออกมาจากคลิปดังว่านั้น คงต้องรอชาติหน้าตอนบ่ายๆ.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password