“ไพบูลย์ นิติตะวัน” บอก “บิ๊กป้อม” มีความสุข ห่วง “อุ๊งอิ๊งค์-พแทองธาร” มากกว่า ลืมสัญญาประชาคมร่วมตั้งรัฐบาล งัดกฎหมายแพ่งฯ เปรียบคำมั่นให้รางวัล จำต้องให้

วันที่ 29 สิงหาคม ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เพื่อกำหนดท่าทีการทำงานของพรรคในบทบาทของฝ่ายค้าน และการประชุมใหญ่พรรคเพื่อปรับโครงสร้างการทำงานของพรรค ภายหลังพรรคเพื่อไทย (พท.) ไม่ให้พรรค พปชร.เข้าร่วมรัฐบาล

ผู้เข้าร่วมประชุมเป็นกลุ่มที่อยู่ฝั่งของ พล.อ.ประวิตร อย่างพร้อมเพรียง อาทิ นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค นายอภิชัย เตชะอุบล นายอัครวัฒน์ อัศวเหม น.ส.กาญจนา จังหวะ เป็นต้น

ต่อมา นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พปชร. แถลงว่า ที่ประชุม กก.บห. มีมติเห็นชอบกำหนดการประชุมใหญ่สามัญของพรรค พปชร. ครั้งที่ 2/2567 ในวันที่ 6 กันยายน เวลา 10.30-13.00 น. ที่ห้องประชุมใหญ่ อาคารสำนักงานใหญ่พรรค พปชร. วาระพิจารณาคือ แต่งตั้ง กก.บห.เพิ่มเติม และแต่งตั้งกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งเพิ่มเติม

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคจะขับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า จะไม่มีมติขับ ร.อ.ธรรมนัส เพราะเป็นครอบครัว ใครจะขับคนในครอบครัวตัวเอง มีความสุขที่จะอยู่ด้วยกัน ส.ส.พรรค พปชร.ยังกินข้าวด้วยกันมีความสุขปกติ เป็นหนึ่งเดียวกันหมด ไม่รู้ทำไมคนนอกชอบมอง ประสงค์ร้ายกับเราหรือไม่

นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้รับทราบมติพรรคเพื่อไทยไม่ให้ร่วมรัฐบาล โดยตนแจ้งเพิ่มเติมว่าเรื่องนี้ เกี่ยวโดยตรงกับนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเคยมีสัญญาประชาคม หรือ ข้อตกลง เสมือนเป็นคำมั่นกับพรรค พปชร.ว่าให้พรรค พปชร.ลงมติเห็นชอบเป็นนายกฯแล้ว จะให้ พปชร.มีที่นั่งในคณะรัฐมนตรีตามสัดส่วนเดิม ซึ่ง พปชร.ให้ ส.ส.ลงมติสนับสนุน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ 39 คน เว้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ที่ติดภารกิจ แสดงว่าพรรค พปชร.ได้ทำตามคำมั่น

ดังนั้น นายกฯควรต้องทำตามคำมั่นเช่นกัน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 362 บัญญัติว่า “บุคคลออกโฆษณาให้คำมั่นว่าจะให้รางวัลแก่ผู้ซึ่งกระทำการอันใด จำต้องให้รางวัลใดใดผู้ได้กระทำการอันนั้น ถึงแม้ไม่ใช่ว่าผู้นั้นจะกระทำการโดยเห็นแก่รางวัล” ยืนยันว่าไม่ใช่การกดดันเป็นเพียงการพูดข้อกฎหมาย และครั้งหลังสุดนายกฯออกมายืนยันว่าพรรค พปชร.เป็นพรรคร่วมรัฐบาล

นายไพบูลย์กล่าวว่า สำหรับพรรค พปชร.สบายมาก หัวหน้าพรรคมีความสุข มีความเข้มแข็งและแน่วแน่ที่จะดูแล พปชร.ในฐานะหัวหน้าพรรคไปตลอดจนกว่าจะไม่ไหว เรื่องที่เกิดขึ้นหากเป็นไปตามนั้นถือว่าเฉยๆ ไม่ถือว่าต้องเป็นห่วง แต่คนที่ควรเป็นห่วงคือนายกฯ คนปัจจุบันมากกว่า การให้คำมั่นสัญญาครบถ้วนสมบูรณ์แบบแล้ว แต่ไม่ปฏิบัติตามคำมั่นวิญญูชนโดยทั่วไปจะว่าได้ว่านายกฯขาดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่

เพราะหลักการความซื่อสัตย์สุจริต เป็นที่ประจักษ์มีความสำคัญ ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่บอกว่าการพิจารณาเจตนารมณ์ ของ รัฐธรรมนูญตามคำปรารภที่รัฐธรรมนูญวางไว้กลไกป้องกันตรวจสอบการทุจริตประพฤติมิชอบที่เข้มงวดเด็ดขาด เพื่อไม่ให้ผู้บริหารที่ปราศจากคุณธรรมจริยธรรมและธรรมาภิบาลเข้ามามีอำนาจในการปกครองบ้านเมืองหรือใช้อำนาจตามอำเภอใจ แม้จะต้องกลายเป็นฝ่ายค้านจะไม่ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี เพียงแค่ต้องการบอกว่าเป็นเรื่องของคำมั่น ไม่ต้องมีสัญญาหรือลงลายมือชื่อ เพราะเป็นเรื่องของการแสดงเจตนา อยากถามกับนายกรัฐมนตรี ว่ามีคำมั่นแล้วไม่ปฏิบัติตามจะกลายเป็นข้อครหา ศาลรัฐธรรมนูญวางบรรทัดฐานไว้ชัดเจน

ผู้สื่อข่าวถาม กรณีที่มีกระข่าวว่าคนบ้านป่ามีคลิปวิดีโอของคนบ้านจันทร์ส่องหล้า เรียกรัฐมนตรีหารือวันที่นายเศรษฐา ทวีสิน หลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายไพบูลย์กล่าวว่า ไม่ทราบ ต่อให้รู้ ก็ไม่รู้จะพูดทำไม.