“ไหม ศิริกัญญา” แนะรัฐบาลเศรษฐา จัดการความหวังคนไทยที่ลงทะเบียนร่วมโครงการดิจิทัล วอลเลต แจงให้ได้ว่าที่มาของเงินมาจากไหน ได้เมื่อไหร่ หวั่นอาจมีปัญหาเชิงข้อกฎหมาย หลังไม่ได้ชงเรื่องเข้า ครม.เพื่อขอมติ เผย! กว่าประชาชนจะได้รับเงินต้องรออย่างน้อย 5 เดือน เชื่อ! แม้ “นายกรัฐมนตรี” จะตกเก้าอี้ ก็ไม่กระทบกับโครงการนี้ ด้าน “จุลพันธ์” ระบุ! ถึง 6 โมงเย็นวานนี้ (2) ยอดลงทะเบียนทะลุ 21 ล้านคนแล้ว

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงการเปิดลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ตเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2567 ว่า ภาพรวมถือเป็นความสำเร็จ แม้ว่ามีขรุขระและช้าเล็กน้อย เนื่องจากคนเข้าไปลงทะเบียนพร้อมกัน เป็นจำนวนมาก แต่จุดข้อสังเกตหนึ่งคือเป็นการลงทะเบียนที่ตัวเนื้อหาของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ยังไม่ได้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอมติ ตนจึงไม่แน่ใจว่าสุดท้ายจะมีปัญหาในเชิงข้อกฎหมายหรือไม่อย่างไร เพราะมติ ครม.ครั้งสุดท้ายที่มีการเห็นชอบในหลักการ เกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นยังพูดถึงแหล่งที่มาของเงินว่า จะมาจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ดังนั้น คงต้องรอดูกันต่อไป

ทั้งนี้ จำนวนผู้ลงทะเบียนร่วมโครงการฯที่มีจำนวนมากยังเป็นแค่ก้าวแรก โดยที่ประชาชนยังต้องรอรับเงินต่อไปอีกอย่างน้อย 5 เดือน รัฐบาลจะต้องจัดการกับความคาดหวังของประชาชนที่ได้ลงทะเบียนไปแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเงินจะมาเมื่อไหร่ และต้องตอบคำถามกับประชาชนให้ได้ว่าเงินจะได้เมื่อไหร่ และจะได้เงินตามที่รัฐบาลได้มาให้ความหวังกับพวกเขาหรือไม่ เพราะการรอคอยค่อนข้างที่จะยาวนาน

“หากเกิดเหตุการณ์ที่ระบบชำระเงินไม่สามารถเริ่มดำเนินการได้ภายในเดือนธันวาคมปีนี้ แล้วจะต้องหลุดไปถึงปีหน้า ความคาดหวังของประชาชนก็จะยิ่งสูงขึ้น และอาจเกิดมีความผิดหวังขึ้นมาได้ ดังนั้นเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องสร้างความมั่นใจ และให้ความชัดเจนในรายละเอียดในเรื่องต่างๆ ด้วย” น.ส.ศิริกัญญา ย้ำและว่า หากวันที่ 14 สิงหาคมที่จะถึงนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีอันเป็นไปในทางการเมืองแล้วนั้น ส่วนตัวเชื่อว่าโครงการดิจิทัล วอลเล็ต  ก็ไม่น่าจะถึงขั้นที่ต้องหยุดลง แต่อาจจะมีสะดุดไปบ้างหากมีการปรับเปลี่ยน ครม.หรืออะไรต่างๆ ก็ตาม แต่ท้ายที่สุดก็คงจะกลับมาเดินหน้าต่อได้ไป

สำหรับข้อมูลการลงทะเบียนร่วมโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ล่าสุด เมื่อเวลา 18:00 น. ของวันที่ 2 สิงหาคม 2567 นั้น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง แจ้งว่า มีผู้ลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ digital wallet 10,000 บาท รวมสะสม จำนวน 21 ล้านคน.