โพลล์ยก ‘เศรษฐา’ ครองใจคนไทย – ชี้! อาจส่งผลดีต่อคดียุบพรรคก้าวไกล 7 ส.ค.นี้
นักวิเคราะห์การเมือง ชี้! ผลสำรวจ Line Today ยก “เศรษฐา – เพื่อไทย” ขึ้นอันดับ 1 ครองใจชาวไทย ในฐานะ นักการเมืองที่มีบทบาท ผลงานโดดเด่น ถูกใจที่สุด เหนือ “พิธา – ก้าวไกล” อาจช่วยลดแรงกดดันจาก “กลุ่มอำนาจเก่า” เชื่อ! อาจมีผลถึงคดียุบพรรค 7 ส.ค.2567
สำนักข่าว Line Today รายงานผลสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองของนักการเมืองในปัจจุบัน ประจำเดือนกรกฎาคม โดยเปิดโหวตในห้วข้อ “คุณคิดว่าใครมีบทบาท ผลงานโดดเด่น หรือถูกใจคุณที่สุด” ตั้งแต่วันที่ 1 – 20 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ปรากฎผลการสำรวจ 10 อันดับแรก ดังนี้ อันดับ 1 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้คะแนน 8,742 คะแนน หรือคิดเป็น 40.13% อันดับที่ 2 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้คะแนน 7,427 คะแนน คิดเป็น 34.09% อันดับที่ 3 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ได้1,966 คะแนน หรือ 9.02% และอันดับ 4 น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ได้ 565 คะแนน คิดเป็น 2.59% อันดับที่ 5 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน มีคะแนน 479 คะแนน คิดเป็น 2.2%
อันดับที่ 6 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ได้ 471 คะแนน คิดเป็น 2.16 % อันดับที่ 7 น.ส.จิราพร สินธุไพร ได้ 204 คะแนน คิดเป็น 0.94% อันดับที่ 8 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ได้ 191 คะแนน คิดเป็น 0.88 % อันดับที่ 9 นายชวน หลีกภัย ได้ 190 คะแนน คิดเป็น 0.87 % และ อันดับที่ 10 นายรังสิมันต์ โรม ได้ 182 คะแนน คิดเป็น 0.84%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นักวิชาการและนักวิเคราะห์การเมืองหลายคน ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดทำโพลล์ในประเทศไทย โดยระบุว่า มีบางสำนักโพลล์ที่รับจ้างจัดทำโพลล์เพื่อให้ผู้ว่าจ้างได้รับการจัดอันดับในเรื่องต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ที่ดี หรือเหนือกว่าคู่แข่งในทางการเมือง
สำหรับกรณีของ แอปพลิเคชั่น Line Today ที่ได้จัดทำผลสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองของนักการเมืองในปัจจุบัน ประจำเดือนกรกฎาคมนั้น นักวิเคราะห์การเมืองรายหนึ่ง ระบุว่า การที่ นายเศรษฐา จากพรรคเพื่อไทย ได้รับคะแนนนิยมเป็นอันดับ 1 เหนือ นายพิธา จากพรรคก้าวไกล ถือเป็น “ภาพบวก” ต่อพรรคก้าวไกล ในสถานการณ์ที่ “กลุ่มอำนาจเก่า” รู้สึกไม่สบายใจในทุกครั้งที่ผลโพลล์ออกมาในลักษณะที่แกนนำและพรรคการเมือง ซึ่งอยู่ระหว่างการถูกวินิจฉัยในเรื่องการยุบพรรคฯจากศาลรัฐธรรมนูญ มีคะแนนนำเหนือพรรคการเมืองอื่นๆ ดังนั้น เมื่อผลโพลล์ของ Line Today ออกมาในลักษณะนี้ ก็น่าจะลดแรงกดดันต่อความวิตกกังวลใจของ “กลุ่มอำนาจเก่า” ลงได้บ้าง และอาจเป็นผลดีต่อการพิจารณาในคดียุบพรรคของพรรคก้าวไกลในวันที่ 7 สิงหาคม 2567 ที่จะถึงนี้.