“จักรพงษ์ คงปัญญา” ผู้สมัครสว. ยื่นเอกสารเพิ่มเติมให้กกต. ตั้งข้อสังเกต ฮั้วเลือกสว. ใบสมัครไม่มีลายเซ็นต์ คุณสมบัติไม่ครบ การลงคะแนนแต่ละกลุ่ม มีลักษณะเดียวกัน จัดตั้งคนมาสมัคร ระบุ เข้าข่ายทุจริต วอนกกต. ตรวจสอบให้ชัด เปิดให้สื่อมีส่วนร่วม ก่อนประกาศรับรองผล

วันที่ 4 ก.ค. 2567 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายจักรพงษ์ คงปัญญา ผู้สมัครสว. เข้ายื่นหลักฐานการทุจริตเลือกสว. เพิ่มเติมให้กกต. ความผิดปกติของผลคะแนนการเลือกสว.ในแต่ละกลุ่ม พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่า การลงคะแนนของแต่ละกลุ่มมีลักษณะเดียวกัน ขอเรียกร้องให้กกต.หยุดประกาศรับรองผลก่อน และตรวจสอบการทุจริตให้สิ้นกระแสความก่อน และเสนอว่า ระหว่างตรวจสอบควรให้สื่อมวลชนมีส่วนร่วม เพื่อความโปร่งใส หากพบว่าผู้ที่ได้รับเลือกเข้ามาขาดคุณสมบัติ ต้องไม่ประกาศรับรอง

การทุจริตที่เกิดขึ้น มีการจัดคนให้มาสมัครในกลุ่มต่างๆ คุณสมบัติตรวจสอบไม่ละเอียด ใบสมัครไม่มีลายเซ็นต์ ของผู้สมัคร มีการบริหารจัดการคะแนนอย่างมีประสิทธิภาพมากของผู้จัดการเลือก เช่น เอาคนมา10 คน แล้วมีการคละคะแนน ลงคะแนนซ้ำกันเป็นชุดๆ ทั้งๆ ที่ไม่เคยเห็นการแนะนำตัวในใบ สว.3 อะไรเลย

ตนแนะนำตัวเป็นระดับต้นๆ ของประเทศ แต่กลับไม่มีคะแนนสักคะแนนเดียว คะแนนถูกยิงไปยังผู้ที่มีคะแนนสูง เป็นรูปแบบเดียวกันทุกกลุ่ม เพราะเป็นวัตถุพยานที่สำคัญ ที่จะบอกกระบวนการของกลุ่มที่จะเรียกว่าฮั้ว หรือกลุ่มจัดตั้งก็ได้ กกต.รู้แล้ว ยังจะประกาศอีกอย่างนั้นหรือ ต้องตรวจสอบเรื่องนี้ มีสื่อมวลชนร่วมตรวจสอบด้วย

นายจักรพงษ์กล่าวอีกว่า กกต.ติดกระดุมเม็ดแรกผิดคือ การรับสมัครจัดคนไปอยู่ในกลุ่มวิชาชีพต่างๆ จัดไปลงในกลุ่มที่มีคู่แข่งน้อย กลุ่มไหนที่มีนักวิชาการ หรือผู้มีความรู้ มีคุณสมบัติ ถ้าอยากให้คนนี้หลุดง่ายมาก จะจัดคนมาสมัครในกลุ่มนี้ให้มีเสียง 5-10 เสียง และไม่เลือกในที่มีความรู้ในรอบแรก ไม่ผ่านรอบแรกก็จบ ทำให้เป็นเหตุ ผู้มีความรู้ ความสามารถ ตกรอบแรกจำนวนมาก

การติดกระดุมผิดเม็ดแรกนี้อธิบายได้เยอะว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้ากกต.ประกาศรับรองไปทั้งที่เกิดปัญหาแบบนี้ เท่ากับว่า จะทำให้เม็ดสุดท้ายติดผิดไปด้วย ทั้งนี้จะไปยื่นต่อศาลปกครอง ป.ป.ช. และจะยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การจัดเลือกสว.67 ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่.