‘ชัยธวัช’ ชี้! การเมือง เหมือนช่วงรัฐประหาร ลั่น ยุบพรรค กก. ไม่ใช่ทางออก
หัวหน้าพรรคก้าวไกล ชี้ บรรยากาศการเมืองไทย เหมือนช่วงรัฐประหาร ลั่นยุบพรรคก้าวไกลไม่ใช่ทางออก อัด กกต.ดูแค่เอกสารชิ้นเดียว เชื่อ 44สส.มีโอกาสสู้คดีจริยธรรม
วันที่ 15 มิ.ย.2567 นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึง ข้อกังวลการทำรัฐประหารหลัง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกลและพรรคก้าวไกลมีคะแนนความนิยมต่อเนื่องว่า ไม่เป็นห่วง ต่อให้ยุบเราก็ยังโตได้ ที่มีคนประเมิน ว่าถ้ายุบพรรคก้าวไกล อาจได้คะแนนสงสาร ปรากฏการณ์นี้ มีนัยสำคัญมาก มองแค่แบบสายตาสั้นไม่ได้คิดไกลในอนาคตไม่ได้ มันอันตรายกับทุกฝ่ายในระบบการเมืองไทย อาจจะผลักให้สังคมการเมืองไทยมันเขม็งเกลียวมากขึ้น เราอุตส่าห์มีการเลือกตั้งเป็นโอกาสที่สังคมจะค่อย ๆ เปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบการเมืองปกติมากขึ้นเรื่อย ๆ เรากำลังทำลายโอกาสนี้
ดูเหมือนตอนนี้บรรยากาศสังคม มันไม่รู้สึกว่าเราอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่ดีขึ้นเลย รู้สึกกลับไปเป็นบรรยากาศเหมือนปี 2548, 2549 หรือ 2557 คิดว่าอันนี้เป็นประเด็นสำคัญว่าจริง ๆ ต้องทบทวนแล้วการยุบพรรคไม่ใช่ทางออก แต่เราต้องหาฉันทามติใหม่ของสังคมไทยให้ได้ ทุกฝ่ายอย่าไปจินตนาการถึงการเมืองไทย ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหายออกไป มันต้องเป็นฉันทามติ ที่อยู่บนจินตนาการว่าทุกฝ่ายมีที่อยู่ที่ยืน ผลัดกันแพ้ ผลัดกันชนะ ผลัดกันมีอำนาจภายใต้กฎกติกา และระบบที่เรายอมรับร่วมกันได้ อันนี้สำคัญ
เมื่อถามว่า กรณี 44 สส.พรรคก้าวไกล โดนเรื่องจริยธรรมและโยงคดียุบพรรค เตรียมรับมืออย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า ตามกระบวนการ ป.ป.ช.ต้องสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้ามีน้ำหนักเพียงพอ ถึงต้องไปยื่นให้ศาลฎีกานักการเมืองตัดสิน นี่แค่ตัดสิทธิ์พิจารณาจริยธรรมนักการเมือง ยังต้องมีกระบวนการเบื้องต้น กกต.เป็นใครอยู่ดีๆ บอกดูเอกสารหนึ่งชิ้น แล้วบอกมีหลักฐานอันควรเชื่อได้แล้ว ยื่นร้องยุบพรรคเลยมันง่ายไปหน่อย
นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า แต่อันนี้เราก็จะได้เห็นว่า กระบวนการไม่ได้ปุ๊บปั๊บเร็ว ต้องไปในชั้นป.ป.ช.ก่อน มีหลักฐานพยานอะไรแบบชัดเจน แล้วถึงจะส่งศาลฎีกานักการเมือง ความอันตรายของสิ่งที่เรียกว่าจารีตจริยธรรม มันไม่มีความชัดเจนแน่นอน เป็นเรื่องทัศนะ รสนิยมแต่ละคน มันถึงมีปัญหามาก เวลาเอาเรื่องนี้มาพิจารณาตัดสิทธิ์ทางการเมือง เป็นโทษร้ายแรงเหมือนประหารชีวิต ถามว่ามีโอกาสแค่ไหนที่ป.ป.ช.จะเห็นว่า ผิดจริยธรรมขั้นร้ายแรง ตนยังคิดว่า ป.ป.ช.ไม่มีเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้น ที่จะบอกว่าการกระทำที่พูดถึงกันในคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนหน้านี้ จะมากล่าวหาว่าสส.พรรคก้าวไกลผิดจริยธรรมขั้นรุนแรง ไม่สมเหตุสมผลอย่างยิ่ง และมันยังต้องสู้ในชั้นศาลด้วย ตนคิดว่ามันไม่ใช่แค่ป.ป.ช.อย่างเดียว ศาลฎีกาก็ต้องเห็นตรงกันด้วย ซึ่งยังมีโอกาสที่จะต่อสู้คดีอยู่
“คดียุบพรรคร้ายสุด แน่นอนถ้าร้ายสุดไม่มีทางอื่น ก็คือยุบพรรค แต่คดีจริยธรรม 44 สส.ร้ายสุดยังไงผมก็มั่นใจว่าไม่มีทางโดนป.ช.ช. ยื่นคำร้อง ยื่นฟ้องทุกคน ไม่มีทางที่จะไม่มีเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้นนี่ร้ายสุดเลย พูดง่าย ๆ ว่า ซีนาริโอที่ 44 สส.โดนหมด ไม่มีไม่มีทางเกิดขึ้น 0% เพราะงั้นผมคิดว่าปปช.ไม่มีคำอธิบาย ผมว่าอันนี้ แล้วก็ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แน่นอนเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินหน้าต่อไป” นายชัยธวัช กล่าว.