นายกฯ นั่งรถไฟสีชมพู ปลื้มโครงสร้างพื้นฐานไทยพัฒนาไกล ขอบคุณ ‘บีทีเอส’ ช่วยให้เรามีวันนี้ เล็งเจรจาภาคเอกชน ขายเวลาวิ่งฟรีถึงปีใหม่ พร้อมเห็นใจ หนี้สินของบีทีเอสที่ยังคาราคาซังอยู่ โดยรัฐบาลกำลังหาทางช่วยเหลือ

วันที่ 21 พ.ย.2566- เวลา 11.30 น. ที่อาคารศูนย์ควบคุมการเดินรถ รถไฟฟ้ามหานครสายสีชมพู – สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (PK16) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ร่วมทดสอบการเดินรถเสมือนจริง และเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี

โดยนายเศรษฐา เยี่ยมชมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ณ ห้องศูนย์ควบคุมการเดินรถ จากนั้นได้ทดลองการออกบัตรโดยสารผ่านเครื่องจำหน่ายบัตรโดยสารอัตโนมัติ และทดลองใช้บัตรโดยสารเพื่อเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าผ่านประตูจัดเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ ที่สถานีมีนบุรี (PK30)ก่อนชมนิทรรศการโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู และร่วมโดยสารรถไฟฟ้าขบวนพิเศษ ออกเดินทางจากสถานีมีนบุรี (PK30) ไปยังสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (PK16) พร้อมรับชมวีดิทัศน์ภาพรวมโครงการฯ

ต่อมาเวลา 12.20 น. ที่รถไฟฟ้ามหานครสายสีชมพู – สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (PK16) นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์หลังร่วมทดสอบการเดินรถเสมือนจริง โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี ว่า วันนี้ได้ขึ้นรถไฟฟ้ามา และ สื่อมวลชนก็ได้ขึ้นมาด้วยกันถือเป็นขบวนพิเศษที่ไม่มีการจอด ธรรมดาแล้ววิ่ง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งวันนี้มีช่างภาพเยอะ ก็เกรงว่าจะสะดุด จึงใช้เวลาการวิ่ง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงใช้เวลานิดหนึ่งในการเดินทาง ทั้งนี้ถือเป็นการลงทุนทางด้านโครงสร้างพื้นฐานที่มีประโยชน์ต่อประชาชน ดีใจที่ได้มีการเปิดอย่างเป็นทางการ

ผู้สื่อข่าวถามว่า รถไฟฟ้าสายสีชมพูซึ่งเวลานี้ ให้บริการฟรีไปถึงวันที่ 17 ธันวาคม โดยวันที่ 18 ธันวาคม เอกชนจะเริ่มเก็บค่าโดยสาร จะมีการหารือกับภาคเอกชนให้ขยายเวลาบริการฟรีไปจนถึงหลังปีใหม่หรือไม่ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ นายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยวจะมีการพูดคุยกัน ซึ่งก็ต้องดูความเหมาะสมด้วย ทั้งนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเป็นเรื่องสำคัญ ต้องขอบคุณ นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) และประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ในฐานะผู้รับสัมปทาน โครงการรถไฟฟ้ามหานครสายสีชมพู ที่ช่วยให้มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีสะดวกสบายแก่พี่น้องประชาชนที่อยู่ชานเมือง และเกิดสายสีเขียวที่ได้ทำมา

“หากย้อนหลังไป 20 ปีก่อน เราก็ไม่คิดว่าจะมีโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่ดีๆอย่างนี้ จึงต้องขอขอบคุณทางบีทีเอส ที่ช่วยให้เรามีวันนี้ ก็เป็นเรื่องที่ดีของประเทศไทยที่ได้มีโครงสร้างพื้นฐานที่ให้ความสะดวกสบายต่อพี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาก็ได้รับอานิสงส์ด้วย การที่เราจะดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาสร้างสำนักงาน หรือย้ายสำนักงานใหญ่เข้ามาทำงานในประเทศไทย เรื่องการเดินทางโดยรถฟ้าถือเป็นปัจจัยสำคัญในการที่จะเข้ามาตรงนี้”

เมื่อถามถึงกรณีหนี้สินของบีทีเอสที่ยังคาราคาซังอยู่ นายกฯ กล่าวว่า ก็เห็นใจครับ พยายามอยู่ครับ.