นักวิชาการ ม.บูรพา เปิดชื่อ “เศรษฐา-อนุทิน-พีระพันธุ์” เป็น 3 รมต.ที่ทำงานสอบผ่านในรอบ2เดือน พร้อมเตือน “ชลน่าน-ประเสิรฐ-เสริมศักดิ์” ต้องปรับปรุง เร่งกู้ชื่อ สร้างผลงาน อย่าให้เป็น “รมต.โลกลืม”

วันที่ 11 พ.ย.2566 รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อ.ประจำคณะรัฐศาสตร์ และนิติศาสตร์ ม.บูรพา ได้ให้ความเห็นต่อการทำงานของ รัฐมนตรี รายบุคคล ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ว่า
ภาพรวม 2 เดือนรัฐบาล และ รัฐมนตรีที่เห็นความมุ่งมั่น ตั้งใจ ทุ่มเท มีความมุ่งมั่น เรียนรู้การทำงาน มีการวางแนวทางการดำเนินการในการขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชนที่ชัดเจน ดังนี้

1.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

แม้ว่าผลงานนโยบายหลักๆ ของรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี จะไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร มีข้อวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางเรื่องไม่ตกปก ไม่เหมือนกับตอนหาเสียงในการเลือกตั้งกับประชาชน ฯลฯ

แต่ถ้าพิจารณาจากความตั้งใจ ความมุ่งมั่น ทุ่มเท การแสดงภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรี ก็น่าชื่นชม สอดคล้องกับคำพูดที่ท่านบอกว่า “จะทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย”

2.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในตำแหน่ง มท. 1 ถือว่าเป็นตำแหน่งใหม่ของท่าน ถือว่าท่านก็ทุ่มเทเต็มที่ มีความพยายามเรียนรู้

มีภาวะผู้นำสูง มีการวางกรอบการเดินการเพื่อการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ เช่น นโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพล นโยบายครอบครองอาวุธปืน

หรือการวางกรอบการทำงาน ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างรายได้ โดยน้อมนำแนวพระราชดำริมาประยุกต์ใช้ ด้านน้ำดื่มสะอาดฟรี ลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน ด้านการลดค่าใช้จ่ายพลังงานไฟฟ้าและน้ำมันขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ด้านพลังงานสะอาด ด้านการจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล ด้านบริการประชาชนแบบ One Stop Service อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ด้านการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก การผลิต การตลาดและการจำหน่าย ด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติดและการสนับสนุนการพัฒนาระบบสาธารณสุขปฐมภูมิและการเตรียมความพร้อมท้องถิ่น รองรับสังคมผู้สูงอายุ

ในรอบ 2 เดือนกับภารกิจที่ค่อนข้างมากของกระทรวงมหาดไทย อย่างน้อย นายอนุทินทำให้ประชาชนได้เห็นความมุ่งมั่น ตั้งใจ เข้าใจงาน เรียนรู้ และวางแผนการดำเนินงานอย่างชัดเจน

3.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

ความสำเร็จของนโยบายลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ราคาน้ำมัน แกส ก๊าซ ฯลฯ ผลงานของรัฐบาลเป็นผลงานโดยตรงของ รมต.พีระพันธ์ุ แม้ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าแต่เป็นรูปธรรม

น่าสังเกตว่า รมต.ที่มีผลงานมีความทุ่มเท มีความมุ่งมั่น ต่างมาจากรัฐบาล พล.อ ประยุทธ์ทั้งสิ้น

นอกจากนี้ในรอบ 2 เดือนเรายังมี รมต. โลกลืม ไม่มีผลงาน เป็นตัวตลกใน ครม. มีความสามารถต่ำ ถูกมองว่าได้รับตำแหน่งจากโควต้า การตอบแทนทางการเมือง ไม่มีความรู้ความสามารถ

ศักยภาพ รมต.ทำได้รับเพียงแค่เปิดงาน ลงพื้นที่ตามกำหนดการ ฟังรายงานสรุปของข้าราชการ ไม่มีวิสัยทัศน์ ในการบริหารทั้งที่กระทรวงที่รับผิดชอบเต็มไปด้วยปัญหาและความท้าทาย เป็นตัวถ่วงของ ครม. ทำให้ภาพลักษณ์รัฐบาลตกต่ำ

รมต.โลกลืม มีดังนี้

1.นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก่อนหน้านี้เคยวิจารณ์การทำงานของ รมต.สธ.ในรัฐบาลประยุทธ์ อย่างกว้างขวาง

แต่พอตนเองมาดำรงตำแหน่งกลับบริหารแย่กว่าอดีต รมต. แนวนโยบายแต่ละอย่างที่ออกมาในรอบ 2 เดือน เรียกเสียงหัวเราะให้ประชาชนอย่างต่อเนื่องเหมือน รมต.ตัวตลก ของรัฐบาล

เรื่องที่สำคัญกลับไม่เดินการ เช่น อัตราข้าราชของแพทย์ พยาบาล ความมั่นคงของบุลคลากรทางการแพทย์

คุณภาพการรักษาของโรงพยาบาลรัฐ ราคาค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลโรงพยาบาลเอกชนที่สูงเกินไป เอื้อประโยชน์ให้นายทุนที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาล

หรือเรื่องการวางแนวทางการออก กม.ควบคุมการใช้กัญชาทางการแพทย์ก็ไม่ความชัดเจนทั้งที่มีความจำเป็น

แต่กลับดำเนินการในเรื่องที่ไม่สมควรดำเนินการ เช่น การครอบครองยาบ้าต่ำกว่า 5 เม็ด ให้ถือเป็นผู้เสพ นโยบายสาธารณสุขเหมือนเอื้อประโยชน์ให้ผู้ค้ายา

2.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) 2 เดือนที่ประชาชนไม่รู้ว่าเขา คือ รมต. ไม่ผลงานอะไรเลย อย่างน้อยที่จะให้สังคมหวังใจได้บ้างจากปัญหาเทคโนโลยี การก่ออาชญากรรมออนไลน์ การพนันออนไลน์ ฯลฯ แต่ไม่มีอะไรที่ชัดเจน หรือแนวทางการวางกรอบนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิตอลซึ่งเป็นวาระสำคัญของประเทศ แต่ รมต.เจ้ากระทรวงไม่ได้แสดงความรู้ ความสามารถ ศักยภาพ อะไรเลย น่าเสียดายโอกาสของประชาชน และประเทศชาติ ปัญหาของเทคโนโลยีจะคงอยู่ต่อไปกับ รมต.ที่ถูกจัดสรรจากระบบ โควต้า แต่ไร้ศักยภาพในการบริหาร

3.นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ตำแหน่ง: รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นอีกผู้หนึ่งที่เป็น รมต. โลกลืม ไร้ผลงาน ทั้งที่กระทรวงสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์รัฐบาลเรื่อง solf power แต่ 2 เดือนไม่เคยเห็น รมต. ขับเคลื่อนอะไรทึ่ชัดเจน หรือ สะท้อนความรู้ความเข้าใจเรื่องยุทธ์ศาสตรการขับเคลื่อน solf power กับขับเคลื่อนวัฒนธรรมในมุมมองต่างๆ เห็นเพียงกล่าวเปิดงาน ไปดูหนังกับนายกรัฐมนตรีท่านคงคิดว่าเป็นผลงานที่โลกจะจดจำ แต่หารู้ไม่ว่าเป็นผลงานที่เปลืองภาษีประชาชนมากที่สุด

รมต.โลกลืม ทำให้เห็นว่าการจัดสรรตำแหน่งแบบตอบแทน โควต้า ของผู้มีอำนาจมันล้มเหลวในการบริหาร ทำลายอนาคต และโอกาสประชาชน และที่สำคัญเปลืองภาษีประชาชน.