“อนุทิน” ยื่นดาบ “ชาดา” ขึ้นบัญชีดำ “ผู้มีอิทธิพล” ลั่นมหาดไทยยุคนี้ไม่มีเส้นสาย
ปฏิบัติการเกลือจิ้มเกลือ “อนุทิน” สั่ง “ชาดา” ขึ้นบัญชีผู้มีอิทธิพลทั่วประเทศ บ้านเมืองมีขื่อมีแป ลั่น มหาดไทย ไม่มีเส้นสาย ใครมีผลงาน คนนั้นเส้นใหญ่ โอดเจ็บปวด “ปู่จิ้น” อดีต มท.1 ผู้พ่อ ถูกกล่าวหาคดีทุจริตสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ
วันที่ 8 ก.ย. 2566 ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงข้อสั่งการทำบัญชีผู้มีอิทธิพลว่า เป็นสิ่งที่เราจะต้องคัดกรองคนที่จะมาดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ต้องมีคุณธรรม ต้องไม่ใช้อิทธิพล ปกครองดูแลชาวบ้าน
แต่ถ้าเป็นผู้ปกครองที่มีอิทธิพลมาดูแลชาวบ้าน ก็จะเกิดเหตุการณ์เหมือนที่จังหวัดนครปฐม ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยิงในบ้าน “กำนันนก” ไม่พอใจก็ข่มขู่ นี่ขนาดลูกน้องนะ แล้วถ้าลูกพี่จะขนาดไหน ลูกน้องมันไม่มี ไม่ทำตามลูกพี่หรอก ตัวอย่างที่เลว ๆ แบบนี้ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัด หรือ กระทรวงมหาดไทยก็ต้อง โดย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทยต้องไปขึ้นทะเบียน ไปคัดกรองคนแบบนี้ ให้อยู่ในสังคม อยู่ในบ้านเมืองไม่ได้ ประชาชนเดือดร้อน เอากันถึงชีวิตแบบนี้ไม่ได้ บ้านเมืองมีขื่อมีแป
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องการครอบครองอาวุธปืนต้องเข้มข้นขึ้นใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ต้องเข้มข้นขึ้น แม้จะมีใบอนุญาตแต่ห้ามพกพาไปในที่สาธารณะ ประเทศเราไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อน ทำไมเราต้องมีปืน ตนคิดว่าพี่น้องประชาชนคงไม่ต้องการอยู่ภายใต้การนำของอันธพาลอย่างนี้
ต่อข้อถามว่าการทำงานของกระทรวงมหาดไทยในยุคนี้ จะไม่มีเรื่องเส้นสายเป็นทางลัดเข้าสู่ตำแหน่งใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เป็นสไตล์การทำงานของตน ตนเชื่อมั่นว่า ถ้าเราให้ความเป็นธรรมกับทุกคนได้ เส้นสายจะเปลี่ยนเป็นผลงาน ใครมีผลงานคนนั้นเส้นใหญ่ ใครรักประชาชน ใครที่ได้รับความชื่นชอบกับประชาชน ยังไงก็เข้าตาผู้บริหาร เข้าตารัฐมนตรี
“ไม่มีสิงห์ดำสิงห์แดงสิงห์ทอง พิสูจน์มาแล้ว สมัยที่คุณพ่อของผม (นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) เป็น รมว.มหาดไทย เราเอาผลงานเป็นที่ตั้ง ระบบเส้นสายใครหมดไปตั้งนานแล้ว ผมจะพยายามทำให้มันไม่มีการแบ่งขั้ว แบ่งฝ่าย กระทรวงมหาดไทยต้องเป็นกระทรวงที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชน ไอ้สี หรือ ไอ้ขั้ว มันไปช่วยให้ประชาชนคลายทุกข์ไม่ได้หรอก จิตใจ ความสามารถ ประสบการณ์ ความตั้งใจต่างหากที่จะทำให้ประชาชนมีความสุขและคลายทุกข์ได้ คนไหนที่ทำได้ คือ คนนั้น” นายอนุทิน กล่าว
โดยก่อนหน้าการให้สัมภาษณ์นั้น นายอนุทินมอบนโยบายต่อผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศในการประชุมขับเคลื่อนภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ว่า ขอให้ท่านสบายใจ ทำหน้าที่ให้เต็มที่ มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความแน่วแน่มั่นคง เป้าหมายเดียวกัน ใครก็ทำลายความเจริญก้าวหน้าของท่านไม่ได้ ขอให้มั่นใจ
“เรื่องตำแหน่งแห่งหน เรื่องผลประโยชน์ พวกเราไม่มี ไม่ต้องกังวล แล้วอย่าไปเชื่อใครด้วยนะ ทำโน่นทำนี่ ถ้าเกิดใครบอกว่า เป็นตัวแทนของคนนั้นคนนี้ ถ้าเป็นตัวแทนจริง ขอเค้าถ่ายวิดีโอไลฟ์มาเลย แล้วส่งให้ผม แล้วมาดูซิว่าอะไรจะเกิดขึ้น อย่าไปเชื่อใครเป็นอันขาด ท่านดิวโดยตรงกับผม ท่านทรงศักดิ์ ท่านชาดาเท่านั้น ตรง ๆ” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า สมัยคุณพ่ออยู่กระทรวงมหาดไทยเมื่อ 10 ปีที่แล้ว มีความเจ็บปวด ถูกกล่าวหาเรื่องโรงเรียนนายอำเภอ สตางค์เก๊หนึ่งยังไม่ได้เห็นเลย เจ็บปวดมาก มีแต่ผมอยากจะซื้อรองเท้าคู่ใหม่ให้ปลัดอำเภอ โอ้โห้ ฝุ่นตลบมาเลย ใส่ชุดสีกากีมา รองเท้าฝุ่นเกาะเขรอะไปหมด คนนี้น่ะหรือที่จะมาจ่าย 7 หมื่น แสนหนึ่งเพื่อมาเรียนโรงเรียนนายอำเภอ รองเท้าใหม่ยังซื้อไม่ได้เลย มีแต่เราอยากจะซื้อให้เค้าด้วยซ้ำ
“ผมเคยพบความเจ็บปวดมา ยิ่งตอนนั้น พ่อโดนด้วย คนเป็นลูกก็รู้สึกเจ็บปวด ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง หรือไม่ได้ไปรู้เห็นอะไรเลย แต่สุดท้ายโดนโจมตี ลงหน้า 1 แต่พอแก้ไขได้ ชี้แจงได้ ลงหน้า 17 คอลัมน์เล็ก ๆ แต่ว่าตราบาปกว่าจะแกะได้ หรือบางทีก็แกะไม่ได้ คุณพ่อผมตอนนี้อายุ 87 ปี คดีสุดท้ายที่เพิ่งแก้จบไปเมื่อ 3-4 ปีที่แล้วนี่เอง ทั้งที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ได้รู้ ไม่ได้เห็นอะไรเลย” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวทิ้งท้ายว่า อย่ารังแกประชาชน และอย่าให้ประชาชนถูกรังแก ต้องกำจัดคนที่ชอบรังแกประชาชน ไม่ใช่เฉพาะบุคคล ปัจเจกบุคคล แต่รวมถึงนิติบุคคล กลุ่มคน ใครก็ตามจะถูกรังแกภายใต้อำนาจและขอบข่ายที่เรามีอยู่ไม่ได้.