กฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ข้าราชการซี 11 ที่เกษียณแล้วเริ่มงานใหม่ทันที ในกระทรวงเดิม จากข้าราชการสู่ตำแหน่งการเมือง ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

กฤษฎา จีนะวิจารณะ นับว่าจังหวะชีวิตและประวัติที่โดดเด่น น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง เขาเพิ่งก้าวขึ้นอยู่ในโผ ครม. ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังป้ายแดง ในโควตาของ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ซึ่งอยู่ในยุคของรัฐบาลผสม ที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ และ “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกรัฐมนตรี ควบเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

แม้ “กฤษฎา จีนะวิจารณะ” จะมีตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในโควตาพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่เขาใกล้ชิด-วงในประมุขตึกไทยคู่ฟ้า ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีรักษาการ และ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนใหม่

หลังนายเศรษฐา ทวีสิน ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรี เพียง 7 วัน “กฤษฎา จีนะวิจารณะ” ก็ถูกเชิญเข้าหารือเรื่องนโยบาย ที่พรรคเพื่อไทย เพื่อร่วมพิจารณาเนื้อหานโยบายหัวหอกของรัฐบาล แน่นอนว่า 1 ในนั้นคือ นโยบายที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการคลังโดยตรง คือ การแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท

ประวัติส่วนตัว
“กฤษฎา” เกิดเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2506 ปัจจุบันอายุ 60 ปี ชีวิตครอบครัวสมรสกับ “สิริมงคล โชติกเสถียร” มีทายาทร่วมกัน แต่ปัจจุบันสถานะ “หย่า”

นอกจากนี้ “กฤษฎา” ยังเป็นญาติกับ “เฉลิมชัย จีนะวิจารณะ” อดีต สส.กรุงเทพมหานคร พรรคไทยรักไทยอีกด้วย

การศึกษา
กฤษฎา เป็นศิษย์เก่าวชิราวุธวิทยาลัย รุ่น “OV 53” ระดับปริญญาตรี จบการศึกษา จากคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่วนระดับปริญญาโท บริหารธุรกิจ (M.B.A.) จากมหาวิทยาลัยนิวเฮเวน (New Haven) ประเทศสหรัฐอเมริกา

การทำงาน
เมื่อจบการศึกษาระดับปริญญาโทจากสหรัฐอเมริกา “กฤษฎา” ได้เข้ารับราชการในกระทรวงการคลัง ชีวิตราชการก้าวหน้าต่อเนื่องเป็นลำดับ เคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และก้าวขึ้นเป็นรองผู้อำนวยการ สศค. ในยุคต้นรัฐบาล คสช.

จากนั้นก็ได้ขึ้นเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง ก่อนที่เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2557 จะได้ขึ้นเป็นผู้อำนวยการ สศค. ต่อจาก “สมชัย สัจจพงษ์” ที่โยกไปเป็นอธิบดีกรมศุลกากร

ต่อมา เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2560 “กฤษฎา” ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอธิบดีกรมสรรพสามิตต่อจาก “สมชาย พูลสวัสดิ์” ที่เกษียณอายุราชการ และเพียงแค่ปีเดียว “กฤษฎา” ก็ได้ย้ายไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศุลกากร เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2561 แทน “กุลิศ สมบัติศิริ” ที่ข้ามห้วยไปเป็นปลัดกระทรวงพลังงาน

เส้นทางเติบโตยังก้าวหน้าต่อเนื่อง ต่อมา “กฤษฎา” ก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นปลัดกระทรวงการคลัง ต่อจาก “ประสงค์ พูนธเนศ” ที่เกษียณอายุราชการ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 กระทั่งปัจจุบันที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2566

และล่าสุด กำลังจะก้าวขึ้นเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาล “เศรษฐา 1” ที่มี “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกรัฐมนตรี ควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

นอกจากนี้ “กฤษฎา” ยังเคยดำรงตำแหน่งสำคัญ ๆ อื่น ๆ ได้แก่ อดีตเลขานุการเอก (ฝ่ายเศรษฐกิจและการคลัง) สำนักงานที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจและการคลัง ประจำสหราชอาณาจักรและยุโรป สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน, อดีตกรรมการในคณะกรรมการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย, อดีตกรรมการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์, อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ

อดีตกรรมการ บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), อดีตกรรมการบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด, อดีตกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร, อดีตกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย, อดีตกรรมการบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน),

หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการด้านมาตรการให้ความช่วยเหลือเยียวยาในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019, ประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง และ อุปนายกสมาคมนิสิตเก่าคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

และอีกหลายตำแหน่งก่อนจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้แก่ ประธานกรรมการ บริษัท ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), ​กรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), กรรมการ บริษัท ท่าอากาศยาน จำกัด (มหาชน), กรรมการ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน)​

ชีวิตหลังเกษียณของ กฤษฎา จีนะวิจารณะ นับว่าก้าวกระโดดยิ่งกว่าเส้นทางราชการที่เขามีความรุ่งโรจน์โดดเด่นเสมอมา !!!