“จตุพร” เปิดเบื้องลึก ศึกชิง ปธ.สภา ดัน “บิ๊กป้อม” นั่งนายกฯ พา “ทักษิณ”กลับบ้าน
โลกไม่สวยอย่างที่คิด! “จตุพร” เปิดเบื้องลึก ศึก ชิง ปธ.สภา “พ่อมดดำ” มาแรง เป้าหมาย ดัน “บิ๊กป้อม” นั่งนายกฯนำ “ทักษิณ” กลับบ้าน ด้าน “อานนท์” อ่านทางฝ่ายเผด็จการเล่นเกมยาว ยอม “พิธา” เป็นนายกฯ ลดกระแสมวลชน
วันที่ 21 มิ.ย. 66 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน โลกสวย? ระบุว่า การเมืองแบบโลกสวยของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) จะได้ตั้งรัฐบาลนั้น อาจไม่เกิดขึ้นจริง เพราะพรรคเพื่อไทย (พท.) ซุกซ่อนเกมปั่นปัญหาในพรรคแล้วเร่งระอุความขัดแย้งแตกแยกเพื่อเปิดโอกาสให้ นายสุชาติ ตันเจริญ เป็นประธานสภา เพื่อปูทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ก้าวข้ามความขัดแย้งมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้สะดวกขึ้น
“จตุพร” กล่าวถึงการเลือกประธานสภาวันที่ 6 ก.ค.นี้ ว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค พท.เป็นคนเดินตามเข็มทิศชี้นำเสมอ จึงมีท่าทีเปลี่ยนกลับไปกลับมาอยู่เรื่อยๆ แม้ล่าสุดยกหลักการเลือกตำแหน่งประธานสภาเป็นของพรรคอันดับหนึ่ง ซึ่งคือ พรรคก้าวไกล แต่ถูกนายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ต่อต้านอย่างแข็งขัน
“นายภูมิธรรม กับ นายอดิศร เป็นเพื่อนร่วมรุ่นคนเดือนตุลาด้วยกัน ต้องบอกได้เลยว่า เขาทั้งคู่ไม่มีวันทะเลาะกัน แต่สิ่งที่แสดงออกแตกต่างกันเป็นเพียงการแต่งตัวให้เกิดปัญหาในพรรคเพื่อไทยที่เปิดทางโหวตลับเลือกประธานสภาเท่านั้น”
“จตุพร” กล่าวว่า ขณะนี้ชื่อ นายสุชาติ ฉายาทางการเมืองเรียก พ่อมดดำ มาแรงอย่างยิ่งในตำแหน่งประธานสภา โดย นายสุชาติเป็นรองประธานมาแล้วถึง 2 ครั้ง ย้ายจากพรรค พปชร.มาสังกัดพรรค พท. และถูกหมายมั่นปั้นมือให้เป็นประธานสภาในคราวนี้ หากพลาดยังมีสำรองไว้อีกคนหนึ่งที่มีปัญหาเกี่ยวกับที่ดิน ซึ่งไม่สามารถระบุชื่อได้ ดังนั้น ตำแหน่งประธานสภาจะเป็นของพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่คนจากพรรคก้าวไกล และการเลือกตำแหน่งประธานสภาในวันที่ 6 ก.ค.นี้ สิ่งที่เกมการเมืองเตรียมการไว้คือ ให้ ส.ส.พปชร. หรือจากพรรคเล็กฝ่าย 188 เสียง เสนอชื่อนายสุชาติขึ้นมาแข่งขันกับตัวแทนพรรค ก.ก. โดยนายสุชาติจะไม่อยู่ในห้องประชุมสภา เพื่อหลีกเลี่ยงถูกกดดันให้ประกาศถอนตัวได้
“อย่าลืมว่า การโหวตประธานสภาเป็นการลงมติลับ จะไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่า ใครเลือกใคร แต่ผลออกมาพรรคเพื่อไทยจะได้ตำแหน่งประธานสภา พร้อมรองประธานอีก 2 คนมาครองเบ็ดเสร็จ แล้วความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับก้าวไกลจะก่อตัวขึ้น ขณะที่มวลชนภายนอกสภาจะไม่พอใจ เกิดอารมณ์เดือดระอุถาโถมขึ้นในวันเลือกนายกฯ”
“จตุพร” ชี้ว่า การกลับหลังหันของแกนนำพรรคเพื่อไทย ทั้งนายภูมิธรรม, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ที่ยอมรับหลักการยกประธานสภาให้พรรคก้าวไกลนั้น ในทางการเมือง คือ การแต่งตัวให้เกิดความขัดแย้ง เพื่อนำไปสู่การเลือกนายสุชาติ เพราะเกมนี้ดันไปสู่การเลือกนายกฯ เพื่อแลกเปลี่ยนกลับบ้านของนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งครั้งนี้ย่อมเป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว
ส่วนการโหวตนายกฯ คาดเป็นวันที่ 13 ก.ค.นี้ “จตุพร” เชื่อว่า เมื่อพรรคก้าวไกลถูกหักในตำแหน่งประธานสภา ย่อมสะสมความขัดแย้งให้ฝังลึก ในวันนั้นอารมณ์ระอุเดือดของมวลชนอาจหนาแน่นตรึงกดดันหน้าสภา สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลจึงก่อตัว แล้วจะถึงเวลาของ พล.อ.ประวิตร ผู้มาก้าวข้ามความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทย กับพรรคก้าวไกล แต่ในวันโหวตเลือกเป็นนายกฯ มวลชนอาจไม่พอใจถึงขั้นปิดล้อมสภาหรือไม่ให้แถลงนโยบาย เหตุการณ์เช่นนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้
“จตุพร” เห็นว่า ขณะนี้สถานการณ์มองโลกสวยทางการเมืองอุบัติขึ้นกับพรรคก้าวไกล โดยพรรคเพื่อไทยกลับใจดีเปิดทางให้ตำแหน่งประธานสภา อีกทั้งพรรคก้าวไกลยังมั่นใจ ส.ว.นับร้อยคนจะโหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ แต่อาการฝันเคลิ้มแบบโลกสวยสดนี้จะจบลงในวันเลือกนายกฯ
“นายกฯ จะเป็นใคร เสียง ส.ว.นับร้อยจะมาหนุนนั้นมีจริงหรือไม่ และรายชื่อในมติลับกับการโหวตประธานสภาจะเปิดเผยตัวตน ด้วยการไปสำแดงในวันโหวตเลือกนายกฯ ฉากการเมืองที่เป็นจริงถูกออกแบบจัดวางไว้เช่นนี้ คงต้องรอพิสูจน์กัน”
ขณะเดียวกัน นายอานนท์ นำภา แกนนำคณะราษฎร ทนายประจำศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “ดูทรง ฝ่ายเผด็จการจะเล่นเกมยาว ยอมให้พิธาเป็นนายกฯ เพราะต้านกระแสไม่ไหว จากนั้นใช้กลไก ส.ว. องค์กรอิสระ ทำให้ก้าวไกลทำอะไรไม่ได้เลย ระหว่างนี้ก็ทำลายความชอบธรรมให้มวลชนค่อยๆ ถอยห่าง ฟื้นฝ่ายขวาให้แข็งแรง แล้วเด็ดฝ่ายก้าวหน้าทีละคน”