คุกคามทางเพศ!!!

(เมาไม่ใช่เกราะ แซวไม่ใช่สิทธิ์: กฎหมายใหม่…เขย่าวัฒนธรรมการคุกคาม!)

กรณี “โดม–จินนี่” ไม่ใช่แค่ดราม่าคนดัง แต่คือบททดสอบแรกของกฎหมายคุกคามทางเพศฉบับใหม่ ที่กำลังเปลี่ยนเส้นแบ่งอำนาจ วัฒนธรรม และความรับผิดชอบในโลกการเมือง–โซเชียล จาก “แค่แซว” สู่ “ความผิดทางกฎหมาย” สังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่ศักดิ์ศรีไม่ใช่เรื่องต่อรอง

กฎหมายคุกคามทางเพศ กับสนามการเมืองใหม่ของสังคมไทย

กรณีที่ โดม ปกรณ์ ลัม นักร้องชื่อดังยุค 90 เข้าไปแสดงความคิดเห็นในลักษณะคุกคามทางเพศใต้ภาพของ จินนี่ ยศสุดา บนโซเชียลมีเดีย ก่อนออกมายอมรับภายหลังว่า เป็นการกระทำในภาวะมึนเมา ได้ลุกลามจากเหตุการณ์ส่วนบุคคล กลายเป็นประเด็นสาธารณะในระดับ “การเมืองเชิงโครงสร้าง” อย่างรวดเร็ว

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วง “หัวเลี้ยวหัวต่อ” สำคัญของสังคมไทย เมื่อ กฎหมายคุกคามทางเพศฉบับใหม่เพิ่งเริ่มบังคับใช้อย่างจริงจัง และมีผู้แทนจาก พรรคประชาชน เป็นหนึ่งในกลไกผลักดันหลัก จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่กรณีดังกล่าว จะถูกอ่านและตีความในมิติทางการเมือง มากกว่าเป็นเพียงดราม่าในแวดวงบันเทิง!!!

ดราม่าคนดัง กับบททดสอบของกฎหมาย

หากมองผิวเผิน เหตุการณ์นี้ อาจไม่ต่างจากกรณี “คอมเมนต์ไม่เหมาะสม” ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งในโลกออนไลน์ แต่สิ่งที่ทำให้เคสท์ “โดม – จินนี่” แตกต่างออกไปอย่างมีนัยสำคัญ นั่นคือ…

“บริบททางกฎหมาย” ที่เปลี่ยนไป!!!

กฎหมายคุกคามทางเพศฉบับใหม่ ได้ขยับ “จุดศูนย์กลาง” ของการพิจารณาความผิด จากเจตนาของผู้กระทำ ไปสู่ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ถูกกระทำ นั่นทำให้คำอธิบายที่สังคมไทยคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็น…

“ไม่ได้ตั้งใจ” “ไม่รู้ว่าเป็นใคร” หรือ “ทำไปเพราะเมา”

สิ่งนี้…ไม่สามารถทำหน้าที่เป็นเกราะคุ้มกันทางสังคมได้อีกต่อไป!!!

กรณีนี้ จึงเป็น การปะทะกันโดยตรง ระหว่าง…วัฒนธรรมการสื่อสารแบบเดิม ที่เคยถูกมองว่า…เป็นเรื่องหยอกล้อ กับมาตรฐานทางกฎหมายใหม่ ที่ยกระดับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ขึ้นมาเป็นแกนกลาง

เมื่อกฎหมายแตะโครงสร้างวัฒนธรรม

สาระสำคัญของกฎหมายคุกคามทางเพศ ไม่ได้มุ่งเพียงการลงโทษเชิงอาญา แต่เป็นความพยายามของรัฐในการออกแบบ “โครงสร้างความปลอดภัยทางสังคม” ใหม่ กฎหมายฉบับนี้ยอมรับอย่างชัดเจนว่า…การคุกคามทางเพศไม่จำเป็นต้องเกิดจากการสัมผัสร่างกายเท่านั้น แต่รวมถึงถ้อยคำ การสื่อสาร และพฤติกรรมใด ๆ ที่มีนัยทางเพศและไม่พึงปรารถนา

ในโลกที่โซเชียลมีเดีย กลายเป็นพื้นที่สาธารณะ การคุกคามผ่านช่องทางออนไลน์ จึงถูกมองว่า…มีผลกระทบรุนแรงกว่าเดิม เพราะสร้างความอับอาย เสื่อมเสียชื่อเสียง และทิ้งบาดแผลทางสังคมไว้ในวงกว้างและยาวนาน

การที่กฎหมายกำหนดโทษหนักขึ้น! สำหรับ…การคุกคามออนไลน์ จึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการส่งสัญญาณทางนโยบาย ว่า พื้นที่ดิจิทัลไม่ใช่พื้นที่นอกกฎหมาย และศักดิ์ศรีของบุคคลต้องได้รับการคุ้มครองไม่ต่างจากโลกออฟไลน์

ทำไมการเมืองต้องออกมาพูด

เสียงวิพากษ์จาก นักการเมืองและผู้แทนราษฎรต่อกรณีนี้ ไม่ได้เป็นเพียง…การตำหนิพฤติกรรมของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หากแต่เป็นการสื่อสาร “เจตนารมณ์ของกฎหมาย” ต่อสังคมในวงกว้าง

ในเชิงการเมือง นี่คือ…การประกาศอย่างไม่เป็นทางการ ว่า…รัฐไทยกำลังขยับจากการปล่อยให้บรรทัดฐานทางสังคมคลุมเครือ ไปสู่การใช้กฎหมายกำหนดเส้นแบ่งที่ชัดเจนมากขึ้น ใครที่ยังยึดติดกับวัฒนธรรมการสื่อสารแบบเดิม ย่อมต้องเผชิญต้นทุนทางสังคมและกฎหมายที่สูงขึ้น

เสียงของผู้ถูกกระทำ กับการเมืองของศักดิ์ศรี

การที่ “จินนี่” เหยื่อ…ที่ได้รับการปกป้องจากกฎหมายใหม่นี้ ได้เลือกที่จะออกมาพูด ไม่ได้เป็นเพียงการแสดงความรู้สึกส่วนตัว แต่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของสังคมไทยอย่างชัดเจน จากเดิมที่ เหยื่อ…มักถูกคาดหวังให้เงียบ! เพื่อรักษาความสงบ หรือภาพลักษณ์ของผู้อื่น

ดังนั้น ที่เจ้าตัวออกมาพูดในวันนี้ จึงถูกมองว่าเป็น…การยืนยันศักดิ์ศรีของตนเอง! และเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาในระดับสังคม

กรณีนี้…จึงไม่ได้เป็นเรื่องของการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หากแต่เป็นการเมืองของศักดิ์ศรี ที่กำลังกลายเป็นสนามใหม่ของการถกเถียงในสังคมไทย

บทสรุป: การเมืองเริ่มต้นที่ปลายนิ้ว

กรณี “โดม – จินนี่” ไม่ใช่เรื่องเล็ก และไม่ใช่ดราม่าชั่วคราว หากแต่เป็นสัญญาณเตือนเชิงโครงสร้าง ว่า…สังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ที่ภาษา พฤติกรรม และท่าทีในโลกออนไลน์ ล้วนมีความหมายทางการเมืองและกฎหมายมากกว่าที่เคยเป็น

ในยุคที่ โซเชียลมีเดีย คือ เวทีสาธารณะ การพิมพ์เพียงหนึ่งประโยค อาจไม่ต่างจากการกระทำต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก และในยุคของกฎหมายคุกคามทางเพศ “เมา” ไม่ใช่ข้ออ้าง “แค่แซว” ไม่ใช่คำอธิบาย และ “ขอโทษภายหลัง” อาจไม่เพียงพออีกต่อไป

เพราะ…การเมืองแบบใหม่ของสังคมไทย อาจเริ่มต้นง่าย ๆ เพียงแค่การรู้จักยั้งคิด ก่อนปลายนิ้วจะกดลงไปบนแป้นพิมพ์!!!.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password