เกมด่วน! ศึกแก้ รธน. ปมเสี่ยง? ซ่อนเร้น – เดิมพันศรัทธาของการเมืองไทย

ความพยายามปิดดีลแก้รัฐธรรมนูญในสิ้นปี 2568 กำลังกลายเป็น “สมรภูมิรบ” ที่ทุกพรรคต่างเดิมพันความน่าเชื่อถือของตน สูตร “20 หยิบ 1” ที่ควรเป็นกลไกเปิดพื้นที่ กลับถูกตั้งคำถามว่าอาจเป็นการจัดโผอย่างแนบเนียน โอกาสสำเร็จยังมี? แต่ต้องอาศัยความโปร่งใส! และการร่วมมือกันในระดับที่ “การเมืองไทย” ไม่ค่อยทำได้มาก่อน

การเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2568 เป็นมากกว่า…กระบวนการทางกฎหมาย แต่มันคือ “เกมกลยุทธ์” ที่ ทุกพรรคการเมือง กำลังเล่นอยู่ในจังหวะเดียวกัน นั่นคือ…

“เร่ง กดดัน และระมัดระวัง!!!”

โดยมี “เส้นตาย” เช่นคำประกาศของ นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ในฐานะ กรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม รัฐสภา ที่ย้ำชัดว่า “ต้องจบในเดือนธันวาคม”

ทั้งการ…เปิดสมัยวิสามัญ และ การลงมติวาระสาม ประโยคนี้…ไม่ใช่แค่ “ไทม์ไลน์” แต่คือ…หมุดหมายเชิงยุทธศาสตร์…ที่กดดันสภาทั้ง 2 ฝั่งให้เดินหน้าโดยไม่มีสิทธิพลาด!!!

ในขณะที่ “สาระสำคัญ” ของร่างแก้รัฐธรรมนูญ ถูกเคลียร์ไปแล้ว เหลือเพียง…คุณสมบัติของกรรมาธิการยกร่าง และ รูปแบบการทำงานร่วมกัน ของ “ชุดร่าง” กับ “ชุดรับฟังความคิดเห็น”

แม้ พรรคประชาชน จะผลักดัน การแก้รัฐธรรมนูญ อย่างจริงจัง! แต่ก็ยังมีความกังวล ไม่ได้สบายใจหรือมั่นใจเต็มร้อยว่า…ทุกอย่างจะเป็นไปตามแผน

เรื่องนี้ นายภัณฑิล น่วมเจิม ส.ส.กทม.ของพรรคฯ ยอมรับตามตรงว่า…

แม้ภาพรวม “บวก 60–70%” แต่ทุกอย่างยังอาจพลิกได้? โดยเฉพาะบทบาทของ สมาชิกวุฒิสภา…ตัวแปร และเขาเรียกมันว่า “อาจควบคุมไม่ได้”

ความจริง! อาจหนักกว่า…คำพูด เพราะต่อให้หลายฝ่ายยืนยันว่า ส.ว.ส่วนใหญ่ “คุมได้” ทุกคนก็รู้ดีว่า…ยังมี ส.ว.อิสระ ที่พร้อมจะขัดคอ พูดนอกสคริปต์ หรือเทน้ำหนักอีกฝั่งในจังหวะไม่คาดคิด

และเพียงเท่านั้น…ก็อาจพลิกทิศของรัฐธรรมนูญทั้งฉบับได้แล้ว!!!

ที่สำคัญที่สุด! ความขัดแย้ง…ไม่ได้อยู่แค่ในสภาฯ แต่อยู่ใน “แบบร่าง” เอง

สูตร “20 หยิบ 1” ที่ควรเป็นเครื่องมือถ่วงดุล กลับถูกตั้งคำถามตั้งแต่ยังไม่เริ่มใช้งาน เมื่อ นายจาตุรนต์ ฉายแสง จากพรรคเพื่อไทย ออกมาเตือนว่า…

การตัดขั้นตอนเลือกตั้ง 70 คน โดยประชาชนออกไป แล้วให้…รัฐสภาคัดผู้สมัครทั้งหมดด้วยสูตร 20 หยิบ 1 ตั้งแต่ต้น กำลังทำให้…โมเดลที่ควรเปิดกว้าง กลายเป็น 20 เสนอ 1 เหมือนการจัดโผกรรมาธิการตามปกติ”

นายจาตุรนต์ ใช้คำที่แรงและตรง! จนสังคมต้องหันกลับมามอง คำที่ว่า ก็คือ “หวยล็อก” และคำนี้…กำลังกลายเป็น “เงา” ที่ทาบทับ…กระบวนการยกร่าง แม้จะยังไม่เริ่มร่างสักมาตราเดียว???

เสียงคัดค้านนี้…ไม่ได้พูดถึงความผิดของใคร? โดยตรง! แต่กำลังเตือนว่า…หากรายชื่อกรรมาธิการยกร่าง 35 คน ถูกมองว่า “กำหนดไว้ล่วงหน้า” ต่อให้เนื้อหารัฐธรรมนูญดีเพียงใด? ก็จะขาดความชอบธรรมทันที!

เพราะ…ไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับไหนในโลก? ที่เริ่มต้นด้วยความรู้สึก…ไม่ไว้ใจแล้วจะยืนยาวได้!!??

ในบรรยากาศกดดันนี้ พรรคต่าง ๆ ต้องเดินบนทางแคบ…ที่เต็มไปด้วย “กับดัก!”

การเร่งรัด…อาจทำให้เกิดช่องโหว่ทางกฎหมาย ความขัดแย้งทางการเมืองอาจทำให้เกิดแรงต้าน  และ ความไม่โปร่งใสในการคัดกรรมาธิการอาจทำลายภาพลักษณ์ที่พยายามสร้าง

แต่ กระบวนการครั้งนี้ ก็ “เปิดโอกาสทอง” ให้ สภาฯไทย ได้ฟื้นศรัทธาที่หายไปนาน? หากเลือกเดินอย่างถูกจังหวะและปร่งใส

เปิดเผยและยึดหลักความร่วมมือ! ไม่ใช่…ความได้เปรียบ!

หากทำได้ตามนี้…พรรคการเมืองอาจสามารถ “พลิกสถานการณ์!” จาก…ข้อครหา ให้กลายเป็น “จุดเริ่มต้น!” ของการสร้างความไว้วางใจใหม่ได้…

และ เพื่อไม่ให้ความพยายามครั้งนี้ กลายเป็นเพียงอีกหนึ่งบทผิดพลาดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ทุกพรรค…จำเป็นต้องเลือกเดินบนเส้นทางที่ทำให้ “ทุกฝ่ายรอดไปด้วยกัน” ไม่ใช่ “พังพร้อมกัน!”

โดยเริ่มจาก…การเปิดเผยข้อมูลของผู้สมัครกรรมาธิการ ทุกขั้นตอนและทำอย่างโปร่งใส เพื่อให้สาธารณชนเห็นตั้งแต่กระบวนการเสนอชื่อ จนถึง…การคัดเลือกภายใต้สูตร 20 หยิบ 1

เพื่อ…สลายข้อครหา ในเรื่องการจัดโผล่วงหน้า

พร้อมกันนั้น ต้องประกาศ “จุดร่วม” ขั้นต่ำ! ต่อหน้าประชาชน ว่า…รัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ จะไม่ถูกใช้เป็นเกมของพรรคใดพรรคหนึ่ง

แต่เป็นความพยายามร่วมกันของทั้งสภาฯ!!!

ในจังหวะเดียวกัน “การเมืองแบบหลังฉาก?” กับ ส.ว. ควรถูกแปรเปลี่ยนเป็นการ “พูดคุย” บนหลักการ!

ไม่ใช่ “ดีล” หรือการ “แบ่งผลประโยชน์” ที่อาจทำให้การลงมติวาระ 3 ถูกตีตรา ว่า…

“มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล???”

และ เหนืออื่นใด? การสื่อสารกับประชาชน…ต้องเป็น “หัวใจสำคัญ” ไม่ใช่แค่…ขั้นตอนตกแต่งภายนอก???

เพราะความชอบธรรมของกระบวนการนี้…ไม่ได้เกิดขึ้นในห้องประชุมสภาฯเท่านั้น แต่เกิดจาก “สายตา” ของประชาชนคนไทย…ที่เฝ้ามองอยู่นอกห้อง

ท้ายที่สุด! การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้…จะกลายเป็น “ก้าวแรกของยุคใหม่” หรือเพียง “หลักฐานยืนยันวัฏจักรการเมืองเก่า” ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ…ตัวบทกฎหมายเพียงอย่างเดียว!!!

แต่ขึ้นอยู่กับ…ความซื่อสัตย์ต่อหลักประชาธิปไตยของทุกพรรค และความกล้าที่จะวางผลประโยชน์เฉพาะหน้าเอาไว้ข้างหลัง

หากพลาดเพียงก้าวเดียว…สังคมไทย อาจไม่เปิดโอกาสให้ครั้งที่ 2 อีกต่อไปแล้ว!!!.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password