สแกมเมอร์ – ซักฟอก – ชิงยุบสภาฯ – เกมเลือกตั้ง!!??

เมื่อปม “สแกมเมอร์ – ปอยเปต – ชายแดน” กำลังกลืนความน่าเชื่อถือของรัฐบาล??? ความเคลื่อนไหวเรื่อง “ยุบสภาฯ” ก่อนที่ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ!!! จึงกลายเป็นเกมที่ “เดิมพัน” สูงสุด! ของ “นายกฯอนุทิน”  ไม่ใช่เพียงเพื่ออยู่รอดทางการเมือง แต่ต้อง “ซื้อเวลา” เพื่อจัดวางยุทธศาสตร์ใหม่ในศึกเลือกตั้งที่กำลังใกล้เข้ามา

ในช่วงที่ “รัฐบาลอนุทิน” กำลังถูกกระแสโจมตีจากปัญหา “สแกมเมอร์และคอลเซ็นเตอร์ต่างชาติ” โยงใยไปถึง ขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ในกัมพูชา!!!

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ที่เลือกจะวาง…น้ำเสียงนิ่ง เงียบ! แต่กลับแสดงจังหวะ “เชิงกลยุทธ์” อย่างชัดเจนด้วยการยืนยันว่า “กรอบเวลายุบสภายังเป็นไปตามเดิม”

พร้อมเผยว่า…ได้หารือกับ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว ในประเด็น…กำหนดวันเลือกตั้ง!

นี่คือ…สัญญาณแรก ของเกม “รีเซ็ตสนามแห่งอำนาจ” ก่อนจะ “ถูกบีบ” เข้าสู่เวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือ “ศึกซักฟอกแรก!” ของรัฐบาลชุดนี้ เช่นที่…ฝ่ายค้าน พรรคประชาชน และพรรคเพื่อไทย กำลังรอจังหวะ…ยื่นเรื่องต่อ…ประธานสภาผู้แทนราษฎร

ในเชิงยุทธศาสตร์การยุบสภาก่อนการอภิปราย มีความหมายมากกว่า…การหนีแรงซักฟอกอย่างสูง!!!

เพราะมันคือ…การ “แย่งเวลา” และ “แย่งพื้นที่ทางการสื่อสาร” กลับคืนมา

หากปล่อยให้….การอภิปรายเกิดขึ้น! รัฐบาลอนุทิน…จะกลายเป็น “ฝ่ายตั้งรับ” ในทันที! และ ถูกลากเข้าสู่สนามที่ฝ่ายค้านเป็นคนคุมจังหวะ

ประเด็น…สแกมเมอร์และสิ่งที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง??? ย่อมกลายเป็น “แกนหลัก” ของการโจมตี ทั้งในแง่…การบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนแอ ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน และข้อสงสัยเรื่องผลประโยชน์ที่แฝงอยู่ในระบบไซเบอร์อาชญากรรม

ซึ่งเป็น ภาพที่ รัฐบาลอนุทิน….ไม่อาจแบกรับได้ในช่วงใกล้เลือกตั้ง!!??

การชิงประกาศ “ยุบสภาก่อน” จึงเท่ากับการ “หักมุม” ในทางยุทธศาสตร์???

เปลี่ยน…สถานการณ์ก่อนถึงวันลง “สนามอภิปราย” ให้กลายเป็น “เวทีเลือกตั้ง” ในทันที!!! แทนที่จะต้อง “ตั้งรับ” กับสารพัดคำถามมากมายในสภาผู้แทนราษฎร

ดังนั้น การชิงยุบสภาฯ ก่อนที่ฝ่ายค้านจะยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ นั้น นายกฯอนุทิน…จะได้สิทธิ์พูดก่อน, การลงพื้นที่ก่อน และชูผลงานด้านเศรษฐกิจ…ความมั่นคง

แทนที่จะต้อง…ชี้แจงปัญหา

นี่คือ…เทคนิคในทางการเมือง ที่เคยมีการใช้มาแล้วหลายยุคสมัย ตั้งแต่…ยุค “จอมพล ป. พิบูลสงคราม” จนถึงยุค…นายทักษิณ ชินวัตร

การยุบสภาฯ ในจังหวะที่ยังพอ “คุมอารมณ์…สาธารณะ” ได้ จึงมักถูกเรียกว่า “Soft Exit” หรือการถอนตัวเชิงรุก!!!

ในอีกด้านหนึ่ง ฝ่ายค้านเอง โดยเฉพาะ กลุ่มที่นำโดย นายจาตุรนต์ ฉายแสง มองว่า…การเร่งยุบสภาฯ อาจไม่ใช่เพียงการหลบซักฟอก แต่คือ การหลีกเลี่ยงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่อยู่ในขั้นตอนรอการพิจารณาวาระสาม เพราะหากผ่านไปก่อนยุบสภา ระบบเลือกตั้งใหม่อาจส่งผลเสียต่อโครงสร้างอำนาจของรัฐบาลชุดนี้

อย่างไรก็ดี การประเมินนี้ แม้มีน้ำหนักเชิงตรรกะ แต่ยังไม่มี “สัญญาณ” จากฝั่งรัฐบาลที่ยืนยันว่า…การตัดสินใจยุบสภาฯ….เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญโดยตรง!!??

แรงกดดันจากภายนอก อย่างกรณี “คำพูดคลาดเคลื่อน”เรื่องไทย–กัมพูชา ที่ถูกตีความว่า “ไทยรุกดินแดนเขมร” ยิ่งทำให้ รัฐบาลชุดนี้…พึงต้องระมัดระวัง!!! เพราะ ข้อผิดพลาดเชิงการทูต สามารถขยายผลสู่ การโจมตีทางการเมือง ได้ทันที!

ประเด็นนี้ บวกเข้ากับปัญหา “เปิดแดน – เร่งเจรจากัมพูชา” มิต่างจากการ “ล้ม” กระบวนการในการสกัดกั้น! แก๊งสแกมเมอร์ ไปโดยปริยาย

สิ่งนี้…ย่อมจะทำให้ภาพลักษณ์ความมั่นคงของ “รัฐบาลอนุทิน” อาจเริ่มสั่นคลอนได้???

ในทางยุทธศาสตร์ การ “รีเซ็ต…ด้วยการยุบสภาฯ” จึงไม่เพียง…ลดแรงกดดัน แต่ยัง “เปลี่ยนโฟกัส” จาก “ปัญหา” ไปสู่ “อนาคต” ได้อีกทางหนึ่งด้วย…

ดังนั้น สถานการณ์ในวันนี้…จึงมีโอกาสสูง! ที่ “รัฐบาล ภายใต้การนำของ นายกฯอนุทิน” อาจตัดสินใจ “ชิงยุบสภาฯ!!!” ก่อนการยื่นของเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ…

แถมมีสัดส่วนในระดับสูง ประเมินได้ถึง 60–70 เปอร์เซ็นต์ เลยทีเดียว

นั่นเพราะ…เงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญระบุชัด ว่า หากฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายอย่างเป็นทางการแล้ว นายกรัฐมนตรีจะไม่สามารถยุบสภาได้

แนวคิดเรื่อง “ชิงยุบสภาฯจึงเป็นการแข่งกับเวลา???

ใครยื่นก่อน…คนนั้นได้คุมเกม!!!

หาก ฝ่ายค้าน…ยื่นช้า แม้เพียงวันเดียว??? นายกฯอนุทิย ก็สามารถจะประกาศยุบสภาฯ ได้

ถือเป็นการ “ตัดจบ!” ในทันที!!??

เกมนี้…จึงเป็น “สงครามไทม์ไลน์” ที่เดิมพันด้วยศักดิ์ศรีและอนาคตทางการเมืองของทั้งสองขั้ว

ฝ่ายค้าน…ต้องเร่งรวบรวมเสียงและข้อมูลเพื่อยื่นอภิปรายให้ทัน

ขณะที่ รัฐบาลเอง ก็จะต้อง “รักษาจังหวะ” ให้ดี เพื่อไม่ให้ “ถูกลาก” เข้าสู่ “กับดักการเมือง” เชิงตั้งรับ!

ทุกการเคลื่อนไหวในช่วงนี้…จึงถูกจับตาอย่างใกล้ชิด นั่นเพราะ…ทันทีที่ นายกฯอนุทิน ชิงประกาศยุบสภาฯ!!!

เสียงในสภาฯ…จะกลายเป็น “เสียงในสนามเลือกตั้ง” และข้อกล่าวหาเรื่อง “สแกมเมอร์” จะถูกกลบด้วยเสียงนโยบายและการหาเสียงของทุกพรรคการเมือง…

ถึงบรรทัดนี้….การยุบสภาฯในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่ใช่การหนี? แต่มันคือ “การย้ายสมรภูมิ” จากห้องประชุมสภาฯ ที่ฝ่ายค้านคุมเกม ไปสู่ “สนามเลือกตั้ง” ที่รัฐบาลอนุทิน เลือกได้ว่า…

จะเล่นอย่างไรในการหาเสียงรอบใหม่นี้???  

ยุทธศาสตร์นี้…อาจไม่รับประกันถึง “ชัยชนะ” ในระยะยาว แต่ในทาง…ยุทธวิธี สิ่งนี้…มันคือ การรอดอย่างมีศักดิ์ศรี…ในระยะสั้น

ทั้งยังเป็นการ “ซื้อเวลา!!!” เพื่อจัด “กระบวนทัพใหม่” ในเกมที่ใหญ่กว่า นั่นคือ…ศึกเลือกตั้งแห่งปี 2569!!!.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password