นายกฯนำถกนัดแรก ‘ครม.เศรษฐกิจ’ ชู! คนละครึ่งพลัส ผลงานเด่น ‘รัฐบาล 4 ด.’

“นายกฯอนุทิน” นำประชุม ครม.เศรษฐกิจนัดแรก โชว์สัญลักษณ์ “คนละครึ่งพลัส” กลางรัฐสภา ชี้ให้ภาพเล่าเรื่อง ปัดตอบประเด็นกัมพูชา–สแกมเมอร์ ลั่นรัฐบาลมีผู้รับผิดชอบชัดเจน ด้าน “รองนายกฯเอกนิติ” ลงพื้นที่เปิดลงทะเบียนวันแรกคึกคัก ย้ำ! กระตุ้นสั้นแต่ได้ผลยาว ดันเศรษฐกิจฐานรากเดินหน้า

วันนี้ (15 ต.ค.2568) เวลา 10.20 น. ที่อาคารรัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เดินทางเข้าประชุม คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจนัดแรก พร้อมด้วย ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง และ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มนาคม ก่อนที่คนอื่นๆ จะตามกันมา
โดยการประชุมครั้งนี้ มีวาระสำคัญ เพื่อประเมินเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี และ กำหนดแนวทางแก้ปัญหาเร่งด่วนในระยะสั้นและกลาง โดย นายอนุทิน กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนเข้าประชุมว่า “ระยะยาวไม่ต้องถาม เพราะอยู่แค่ 4 เดือน เอาแค่เราจะแก้ปัญหาให้ประชาชนได้จริงในตอนนี้”
ระหว่างการให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรีได้ชี้ให้ ดร.เอกนิติ เปิดเสื้อสูทเผยให้เห็นเสื้อยืดสีขาวสกรีนคำว่า “คนละครึ่งพลัส” พร้อมพูดว่า “ให้ภาพเล่าเรื่อง” สร้างรอยยิ้มในหมู่นักข่าวและผู้ติดตาม ถือเป็นการส่งสัญญาณถึงโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเรือธงของรัฐบาลที่เริ่มต้นในวันเดียวกัน

เมื่อถูกถามถึงกรณีที่ ทางการเกาหลีใต้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือพลเมืองของตนในกัมพูชา ท่ามกลางกระแสข่าวแก๊งสแกมเมอร์ นายกรัฐมนตรี เพียงยิ้มและกล่าวสั้น ๆ ว่า “เรามีคนรับผิดชอบอยู่” โดยไม่ได้ขยายความเพิ่มเติม และปฏิเสธตอบคำถามกรณีที่ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล โพสต์ตามหาตนในเฟซบุ๊ก รวมถึงประเด็น แรงกดดันจากเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ที่ขอให้ไทยร่วมมือกัมพูชาปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวทิ้งท้ายก่อนขึ้นห้องประชุม ครม.เศรษฐกิจ ว่า “วันนี้เราจะคุยกันทุกเรื่อง แต่ไม่ต้องคาดหวังว่าจะมีอะไรใหญ่โต แค่ขอให้ทุกมาตรการลงถึงประชาชนได้จริง แค่นั้นก็พอ”
วันเดียวกัน ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. ดร.เอกนิติ พร้อมคณะ และสื่อมวลชน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการเปิดรับลงทะเบียนร้านค้าเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่งพลัส” เป็นวันแรก บริเวณตลาดนัดหลังกระทรวงการคลัง และได้พบพ่อค้าแม่ค้าที่ให้ความสนใจเข้าร่วมจำนวนมาก สะท้อนความเชื่อมั่นต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

ดร.เอกนิติ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นกลไกสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจตามแนวทาง “กระตุ้นสั้น ได้ผลยาว กระจายตัวทั่วถึง” ช่วยลดภาระค่าครองชีพและเพิ่มกำลังซื้อในระดับฐานราก โดยเน้นให้เงินหมุนเวียนในท้องถิ่นอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ รัฐบาลจะอำนวยความสะดวกให้ร้านค้าทุกกลุ่มสามารถลงทะเบียนได้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป ร้านนวด สปา ทำผม ทำเล็บ ร้านค้าธงฟ้า วิสาหกิจชุมชน หรือกองทุนหมู่บ้าน รวมถึง นิติบุคคลขนาดเล็กที่มีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี โดย ผู้ค้ารายเดิมสามารถลงทะเบียนผ่านแอปฯ “ถุงเงิน” ได้ทันที ส่วนผู้ค้ารายใหม่สามารถสมัครผ่านธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อมูลกิจการก่อนอนุมัติสิทธิ์
ขณะที่ ประชาชนสามารถเริ่มลงทะเบียนรับสิทธิผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” ได้ระหว่างวันที่ 20–26 ตุลาคม เวลา 06.00–22.00 น. และใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม ถึง 31 ธันวาคม 2568
รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ระบุว่า รัฐบาลตั้งเป้าให้ “คนละครึ่งพลัส” สานต่อความสำเร็จของโครงการเดิมที่ช่วยหมุนเวียนเงินกว่าแสนล้านบาทในระบบเศรษฐกิจ และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อธุรกิจขนาดเล็กทั่วประเทศ โดยคาดว่าจะเป็นเครื่องมือหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีและเสริมภาพลักษณ์ผลงานเด่นของรัฐบาลในรอบ 4 เดือนแรกอย่างเป็นรูปธรรม.