“ภูมิธรรม” ต่อยอดข้อเสนอ ปชน. เสนอทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ พ่วงยกเลิก MOU 43 และ 44 ย้ำ! ระหว่างทาง แนะเสนอให้ใช้รัฐธรรมนูญ 2540 ใช้พลางก่อน ชี้! ต้องรีเซ็ตการเมืองให้ ปชช.ตัดสินใจ

วันนี้ (30 ส.ค.2568) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเงื่อนไขการสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคประชาชน ว่า สิ่งที่พรรคประชาชนต้องการ คืออยากให้มีการทำประชามติ เพื่อแก้รํฐธรรมนูญทั้งฉบับโดยให้มีสสร.ที่มาจากการเลือกตั้ง และให้ยุบสภาฯภายใน 4 เดือนหลังรัฐบาลชุดใหม่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาฯ นั้น ทั้งหมดที่เป็นปัญหาในวันนี้ของการเมืองไทยคือรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ทำให้ระบบการเมืองผิดเพี้ยน

ดังนั้น การจะแก้ปัญหานี้ต้องรีเซ็ตระบบการเมืองใหม่ทั้งระบบ เราจึงเห็นด้วยว่าต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นอุปสรรค แต่การแก้รัฐธรรมนูญโดย สสร.ต้องใช้เวลา ดังนั้น ตนจึงเสนอว่า การทำประชามติที่จะถามเรื่องแก้รัฐธรรมนูญแล้ว อยากให้เพิ่มเติมไปว่าระหว่างรอ สสร. ให้ใช้รัฐธรรมนูญ 2540 ที่ทุกฝ่ายมองตรงกันว่าเป็นประชาธิปไตยที่สุด มาใช้ไปพลางก่อนจะดีหรือไม่ รวมไปถึงการยุบสภาฯภายใน 4 เดือนก็ไม่ใช่ปัญหาหากกระบวนการที่ว่ามาเดินหน้าได้ยุบก่อน 4 เดือนยังได้เลยเราไม่ขัดข้อง

รวมไปถึงที่มี กลุ่มการเมืองบางส่วนไม่สะบายใจเกี่ยวกับปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา เรื่องเอ็มโอยู 43 และ 44 ตนเสนอว่า ให้นำเรื่องนี้เข้าไปไว้ในประชามติให้ประชาชนตัดสินใจว่าจะยกเลิกหรือไม่ เพื่อเป็นการยุติความขัดแย้งของคนในชาติ ซึ่งสิ่งที่ตนพูดมานั้นเพื่อทำให้เสถียรภาพของประเทศต่อนานาชาติเกิดจริง เมื่อจะทำประชามติควรนำหลายเรื่องที่เป็นข้อโต้แย้งในเชิงวิกฤติมาให้ประชาชนตัดสิน

เมื่อถามว่า กระบวนการพูดคุยกับพรรคประชาชน ไปถึงไหนแล้ว นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้มีคณะประสานพูดคุยกัน ตอนนี้มีบางส่วนพูดคุยไปบ้างแล้ว แต่การจะเปิดการพูดคุยอย่างเป็นทางการคงต้องให้การพูดคุยหลังบ้านได้ข้อสรุปที่ชัดเจนก่อน ซึ่งขั้นตอนขณะนี้เป็นสิ่งที่ดีเพราะความคิดอุดมการขชองพรรคประชาชนและเพื่อไทยไม่ได้ต่างกันมากนัก.