ท่ามกลางสารพันปัญหาใหญ่…ทั้งปมสงครามภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง และปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังหาจุดลงตัวไม่เจอ ประเทศไทย ยังจะได้รับผลพวงจาก…สงครามการค้า โดยเฉพาะ การตั้งกำแพงภาษีของรัฐบาลสหรัฐฯ ในยุค ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์

บทสรุปของ “ทีมไทยแลนด์” ภายใต้การนำของ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ที่บินข้ามโลกไปประชุมร่วมกับตัวแทนรัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ก่อน วันนี้ ได้ข้อสรุปคือ…

การส่งออกของไทยยังคงต้องเจอกับกำแพงภาษีที่ 36% ซึ่งเป็นอัตราเดิมก่อนหน้านี้

หมายความว่า…ข้อเสนอของ “ทีมไทยแลนด์” ไม่โดนใจของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่างจากข้อเสนอของเวียดนาม ที่สุดท้าย อัตราภาษีที่สหรัฐฯจัดเก็บกับสินค้าที่ส่งมาจากประเทศเพื่อนบ้านของไทย อยู่ที่ 20%

3 ปัญหาใหญ่ข้างต้น ส่งผลกระทบต่อทั้งความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทย และภาคการส่งออกที่จะส่งผลกระทบในลักษณะ “ฉุด” ให้เศรษฐกิจไทย…ตกต่ำดำดิ่งมากยิ่งขึ้น!!!

จีดีพีปี 2568 ที่รัฐบาลไทย โดยเฉพาะ สภาพัฒน์ ซึ่งคาดหวังจะเห็นการเติบโตในระดับ 2% อัพ! ดูทรงแล้ว…ไม่น่าจะเป็นไปได้

ยิ่งในท่ามกลาง ปัญหาการเมืองในประเทศ ในวันที่ประเทศไทย มี “นายกรัฐมนตรี” ที่ไม่สามารถจะปฏิบัติหน้าที่ได้ ต้องอาศัย “รักษาราชการแทนนายกฯ” ปฏิบัติหน้าที่ไปพรางๆ

แล้วก็ไม่รู้ว่า…ปลายทางคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีที่ นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ยื่นคำร้องของ 36 ส.ว. กรณี “คลิปเสียงหลุด” เพื่อให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นนายกรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่?…จะเป็นเช่นใด?

ทว่า…ยามนี้ หลายฝ่ายชี้ไปในทิศทางเดียวกัน โอกาสที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะ “หลุด” จากตำแหน่ง…มีสูงถึงสูงมาก!!!

ความพยายามที่จะเตรียมจัดตั้ง “รัฐบาลชุดใหม่” แทนที่ “รัฐบาลแพทองธาร” จึงมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง

ในขณะที่ “ฝั่งตรงข้ามตัวจริง” ของ น.ส.แพทองธาร, รัฐบาลไทย และคนไทย อย่าง…นายฮุน เซน “ผู้นำจิตวิญญาณ” ของชาวกัมพูชา ก็ตกอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยงไม่ต่างกันนัก

หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ!!!

ไม่เพียงคะแนนนิยมในตัวของ นายฮุน เซน และบุตรชาย คือ นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา รวมถึง คนในตระกูล “ฮุน” จะตกต่ำดำดิ่งจนน่าใจหายมากที่สุด ตลอดการครองอำนาจยาวนานเกือบ 40 ปี

โดยเฉพาะจาก ปัญหาเศรษฐกิจในกัมพูชาที่ตกต่ำ และได้ฉุดให้ปัญหาปากท้องของพี่น้องเพื่อนร่วมชาติ ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

ภาพคฤหาสน์ใหญ่ สุดหรูหรา ราคาหลายพันล้านบาทของครอบครัว “ฮุน” ท่ามกลางเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก รวมอาหารการกิน ในระดับเกรด A ภายในคฤหาสน์ที่มีอย่างครบครัน ไล่ตั้งแต่…ห้องนอน ห้องกินข้าว ห้องนั่งเล่น ไปจนถึงสนามหญ้าและสระว่ายน้ำภายในบ้าน  แม้กระทั่ง สนามกอล์ฟส่วนตัวของ “ท่านผู้นำ”

ยิ่งมีภาพปรากฏ “ยกครอบครัว” ขึ้นเครื่องบินส่วนตัวฯ ของคนในตระกูล “ฮุน” ในท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจและความอดอยากยากแค้นของชาวกัมพูชา ในวันที่…นายฮุน เซน และนายฮุน มาเนต สั่งปิดชายแดน สั่งห้ามนำเข้าสินค้าจากฝั่งไทย สั่งตัดไฟฟ้าและสัญญาณอินเตอร์ที่เคยรับจากไทย รวมถึงสั่งห้ามนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปจากไทย

จนส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อวิถีชีวิตของชาวกัมพูชาในวันนี้

ไม่น่าแปลกใจ! ที่ชาวกัมพูชา ทั้งที่อยู่ในประเทศ และไปทำงานในต่างแดน จะเริ่มมองเห็นอาการ “เห็นแก่ตัว” ของนายฮุน เซนและครอบครัว “ฮุน” กันบ้างแล้ว

ประเดประดังด้วย “คำสาปส่ง” จากทั่วโลก เพราะ…ประเทศกัมพูชา ภายใต้การบงการของ นายฮุน เซน และครอบครัวตระกูล “ฮุน” กลายเป็น…แหล่งสแกมเมอร์ และคอลเซ็นเตอร์ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

สร้าง…เงินสกปรกจำนวนมหาศาล แต่ละปีมากกว่า 4-6 แสนล้านบาท

แถมยังเป็นแหล่งที่มีการ ละเมิดปัญหาสิทธิมนุษยชนมากที่สุด! อีกด้วย

การที่ทางการไทย ไล่ล่า นายก๊กอาน “เจ้าพ่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์” คนสนิทของนายฮุน เซน ที่มีฐานปฏิบัติงานในประเทศไทย เมื่อเช้าวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา

สะท้อนว่า…เรื่องราวเหล่านี้ ล้วนเกี่ยวพันกับ นายฮุน เซน, รัฐบาลของนายฮุน มาเนต และคนในตระกูล “ฮุน” รวมถึงเครือข่ายคนใกล้ชิด ว่า…อยู่เบื้องหลังขบวนการหลอกลวงและฉ้อโกงออนไลน์ อย่างยากจะปฏิเสธได้

สิ่งนี้…จึงท้าทาย “อำนาจ” ของ นายฮุน เซน และคนในตระกูล “ฮุน” อย่างที่สุด!!!

น่าสนใจใน ชะตาชีวิตหลังจากนี้ของ “2 ผู้นำ” ทั้งไทยและกัมพูชา ยิ่งนัก! ระหว่าง…น.ส.แพทองธาร ที่ยามนี้ อยู่ในห้วงของแรงกดดันจาก “นิติสงคราม” ในขณะที่ นายฮุน เซน ก็มีสภาพที่ไม่ต่างกันนัก หรืออาจจะหนักยิ่งกว่า

น.ส.แพทองธาร เลวร้ายสุด ก็แค่ “หลุด” หมายถึง…สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี ถูกตัดสินทางการเมือง และอาจมีคดีความติดตัวตามมา

แต่กับ นายฮุน เซน อาจถึงขั้น “ร่วง” กล่าวคือ…ไม่เพียงอำนาจในมือที่ถือไว้ยาวนานเกือบ 40 ปีจะหายไป หากยังทำให้ ครอบครัวตระกูล “ฮุน” อยู่ยาก ถึงขึ้น…ไม่มีแผ่นดินจะอยู่!!!

นอกจาก กระแสต่อต้านจากโลกภายนอก แล้ว ภายในยังมีสัญญาณไม่สู้ดี จากปรากฏการณ์ที่อาจนำไปสู่การทำ รัฐประหาร ยึดอำนาจจาก…ตระกูล “ฮุน”

ถึงขั้นที่ นายฮุน เซน ต้องชิงลงมือกับคนในกองทัพเสียก่อน

กระนั้น จากภาพความเป็น ที่ นายฮุน เซน และคนในครอบครัว “ฮุน” รวมถึงเครือข่ายคนใกล้ชิด ได้ครอบครอง ทรัพย์สิน…ที่มีและได้จากการฉ้อฉลเงินงบประมาณแผ่นดิน และเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ  ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา

รวมถึงจาก ธุรกิจสกปรก ทั้งจากการค้ามนุษย์ จากธุรกิจคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์

ในวันที่พวกเขา “หลุด” จากอำนาจ จะเพราะการยึดอำนาจจากคนในประเทศ หรือเพราะถูกแรงกดันจากต่างประเทศ ทว่า…ทรัพย์สินทั้งหมดจะต้องถูกยึดทรัพย์จนหมดสิ้น!!!

ที่สำคัญ…คดีความต่างๆ ที่จะมีตามมา ทั้งจากการฉ้อฉล, การอยู่เบื้องหลังธุรกิจผิดกฎหมาย โดยเฉพาะปัญหาใหญ่ นั่นคือ คำสั่ง “กำจัด” ศัตรูและคนเห็นต่างๆ ที่ สำนักข่าวต่างประเทศ อย่าง…อัล จาซีรา เคยนำคลิปเสียงที่พิสูจน์แล้วว่า…

มันคือเสียงของนายฮุน เซน จริงๆ

โทษหนัก! ก็น่าจะถึงขั้น “ประหารชีวิต”

น.ส.แพทองธาร อย่างมากก็แค่ “หลุด” แต่กับ นายฮุน เซน จะมากยิ่งกว่า…“หลุด” แต่จะถึงขั้น “ร่วง” ทั้งตัวเองและตระกูล “ฮุน” กันเลยทีเดียว!!!

มาลุ้นกันว่า…ระหว่าง “ร่วง” กับ “หลุด” อะไรจะเกิดก่อนกัน!!!.