กับชนชาติที่ ‘เกลียดชัง’ คนไทย – อยากสงบ! ต้องสยบให้ราบคาบเสียก่อนไหม?

“ผู้นำเขมร” สร้างหลักสูตรการเรียนการสอนให้เด็กเขมรรุ่นใหม่ “เกลียดชัง” คนไทย – ประเทศไทย กล่าวหาว่าเป็น…ผู้ยึดดินแดนและอารยธรรมไปจากเขมร! เมื่อสารตั้งต้นเป็นเช่นนี้ ก็อย่าหวังว่า…ปัญหาพรมแดน 2 ประเทศจะยุติ! หากคิดทำให้สงบ! ต้องสยบให้ราบคาบเสียก่อน ถ้ารัฐบาลชุดนี้ทำไม่ได้ ก็ควรเปิดทางให้ “รัฐบาลชุดใหม่” ทำหน้าที่ “คนไทยที่ดี” เร็วๆ
คนที่มี “ต้นทุนเครดิตต่ำ!” จะพูดหรือสื่อสารอะไรออกไป ก็มักไร้น้ำหนัก…ไม่มีคุณค่าในสายตาของคนส่วนใหญ่
ถ้าเป็นคนทั่วไป…ปัญหานี้ ก็ถือว่าหนักหนาสาหัสแล้ว แต่หากเป็นคนระดับ “ผู้นำประเทศ” แล้วตกอยู่ภาวะและสถานการณ์เช่นนี้แล้ว ต้องบอกว่า…สาหัสยิ่งกว่า และเป็นไปใน ระดับโคตรสาหัส
ไม่ว่าจะใน…โลกออฟไลน์และออนไลน์ กับกรณี ปัญหาพรมแดนไทย-กัมพูชา และท่าทีของ “รัฐบาลแพทองธาร” ต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะ…การสื่อสารจากคนเป็น “ผู้นำประเทศ” และ “รัฐบาล” ภายใต้การนำของ “นายกฯแพทองธาร”
ที่ถูกมองว่า…ทั้งล่าช้า ทั้งขาดความถี่ และตอบไม่ตรงประเด็น!!!
กับ ข้อกล่าวหาที่ทางฝั่งกัมพูชา โดยเฉพาะจาก “2 พ่อลูกตระกูลฮุน” อย่าง…นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและประธานองคมนตรี ในฐานะ “ผู้นำจิตวิญญาณ” ของชาวกัมพูชา และ นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรี ที่ได้กล่าวหาไทยมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น…
ไทยเป็นโจรขโมยดินแดนกัมพูชา, ไทยเป็นฝ่ายบุกรุกแดนและยิงทหารกัมพูชาก่อน และอื่นๆ อีกมากมาย
มีสักคำหรือสักครั้งไหม? ที่ นายกฯแพทองธาร “โต้กลับ” ข้อกล่าวหาที่รุนแรงเหล่านั้น…
ไม่แปลก! หากวันนี้…สังคมไทย จะ “ตีตรา” นายกฯแพทองธาร ตระกูลชินวัตร และพรรคเพื่อไทย โดยไม่ให้เข้ามานั่งอยู่ในใจของคนไทยอีกต่อไปแล้ว
แม้ “นายกฯแพทองธาร” จะยืนแถลงการณ์ โดยมี “กำแพงมนุษย์” รายรอบด้านหลัง ที่แม้ส่วนใหญ่ก็จะเป็น คนของพรรคเพื่อไทย เอง ยังดีที่ “ฝ่ายกองทัพ” และข้าราชการประจำบางส่วน ยืนให้เกียรติ เพื่อมิให้ภาพของการแถลงการณ์ใดๆ ดูด้อยค่าลงไปกว่านี้…
ล่าสุด กับการ แถลงภายหลังประชุมติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ บ้านพิษณุโลก เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2568 ก็เป็น “นายกฯแพทองธาร” ที่ออกมายอมรับเองว่า…
“สิ่งที่เรา (รัฐบาล) ทำน้อยกว่า คือ การสื่อสารออกสาธารณะ เพราะเราเคารพการเจรจาระหว่างประเทศ เราให้เกียรติทั้งสองประเทศ ทุกประเทศเมื่อมีการติดสารสื่อสาร ต้องยึดกรอบทวีภาคีเป็นสำคัญ”
ประเด็นที่สังคมไทย สงสัยและต้องการคำตอบจากคนเป็น “ผู้นำประเทศ” ในสถานการณ์นี้ ก็คือ…
1.นายกฯแพทองธาร และรัฐบาล ไม่รู้จักกำพืดและสันดานของ “ผู้นำเขมร” เลยหรือ? ไม่รู้หรือว่า…ท่าทีต่อการประชุมทวิภาคีในกรอบ JBC ครั้งล่าสุด ของ “ผู้นำเขมร” คืออะไร? และปลายทางแล้ว…พวกเขาต้องการอะไร? แค่ไหน?
2.การเคารพการเจรจาระหว่างประเทศ แม้กระทั่ง เคารพผู้แทนของประเทศที่เราต้องเจรจาด้วย ถือเป็น มารยาทการเมืองระหว่างประเทศ ที่ไทยและประเทศต่างๆ ทั่วโลก ต้องพึงประพฤติปฏิบัติ แต่การเจรจากกับพวกเขมร…กัมพูชา ประเทศที่ไม่เคยให้เกียรติประเทศไทยและคนไทย จำเป็นแล้วหรือ? ที่ไทยเราจะต้องให้เกียรติพวกเขา จนอาจทำลายเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีคนไทย
3.เหตุใด? การตอบโต้หรือชี้แจงข้อเท็จจริงจากฝั่งไทย จึงเป็นไปด้วยล่าช้า ไม่ทันการ และไม่ตอบให้ตรงประเด็น ก็ไม่น่าแปลกใจ เหตุใด? คนไทยจะมองพฤติกรรมทั้งหมดที่มี ล้วนเอื้อประโยชน์ต่อเป้าหมายในอนาคต ที่ก็ยังไม่รู้แน่ว่า…นายกฯแพทองธาร ต้องการอะไร???
ถึงนาทีนี้ เลิกเกรงใจ เลิกรักษามารยาทในทางการเมืองระหว่างประเทศกับพวกเขมร…กัมพูชาได้แล้ว
พวกเขาไม่ได้คิดว่า…ไทยเราเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ดี
การบุกรุกดินแดนไทย และการแอบอ้างเป็นเจ้าของโบราณสถานในหลายๆ แห่งตามแนวตะเข็บพรมแดน (นี่ยังไม่นับรวมการเคลม…วัฒนธรรมไทย ประเพณีไทย ชุดไทย มวยไทย อาหารไทย สารพัด) แล้วโพทนาไปทั่วโลก ทำนองว่า…
เป็นฝ่ายไทยที่รุกล้ำดินแดนและอธิปไตยของกัมพูชา โดยที่ รัฐบาลไทย ทำได้แค่…ทำแต่ปริบๆ ปากหาได้ขยับโต้ตอบและแก้ต่าง
เสมือนอมอะไรอยู่ในปาก!!??
ขนาดแรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในไทย พวกเขายังคิดว่า…เป็นบุญเป็นคุณ! เพราะหากไม่มีแรงงานเขมรแล้ว ประเทศไทย…จะไม่พัฒนาจนเจริญได้มาถึงวันนี้
ลองไปดู ตำรับตำราเรียนของนักเรียนชั้นประถมฯและมัธยมฯในกัมพูชา ดูก็ได้…ว่า สิ่งที่บรรจุอยู่ในหลักสูตรการเรียนการสอนของระบบการศึกษาในประเทศนี้ พวกคิดอย่างไรกับประเทศไทยและคนไทยกันแน่!!!
ใช่หรือไม่? ที่สอนให้เกลียดชังคนไทยและประเทศไทย เพราะ…ไปแย่งดินแดนของพวกเขามา แดนดินที่พวกเขาเพ้อฝันไปว่า…ครั้งหนึ่งเคยเป็น เขมรหรือกัมพูชา คือ จักรวรรดิที่เคยยิ่งใหญ่ ปกครองดินแดนแถบสุวรรณภูมิ แทบครบทั้งอนุทวีป
การที่ขนาดของประเทศกัมพูชาหรือแค่นี้ ก็เพราะ “คนไทยปล้นเอาไป!”
พวกเขาสอนกันว่า…คนไทยหรือเสียม (สยาม) มาจากจีนตอนใต้ มาเพื่อแย่งดินแดนของพวกเขาไป คนไทยเป็นพวกไร้อารยธรรม ที่มีและเห็นทั้งหมดนี้ คือ อารยธรรม/วัฒนธรรม ที่คนไทยปล้นไปจากเขมร
สักวัน…พวกเขาจะทวงคืนมันมา ทั้งดินแดน อารยธรรม/วัฒนธรรม ที่เป็นของคนไทย
ในเมื่อ…พวกเขมร…กัมพูชา ถูกสั่งสอนมาอย่างนี้ และสอนมายาวนาน ก็อย่าหวังใจเลยว่า…คนไทยและประเทศไทยในสายของ “คนในประเทศข้างบ้าน” (ลดระดับจากที่เคยเป็นประเทศเพื่อนบ้าน) จะถูกมองเป็น “ภาพบวก”
อย่าหวังใจเลยว่า…ทั้ง 2 ประเทศจะอยู่กับแบบสงบสุข!
การที่ประเทศไทยและกัมพูชา…จะอยู่กันได้แบบสงบสุข นั้น จำต้องจะต้องเปิดเหตุการณ์ “ปะทะ” กันอย่างรุนแรง…จนทุกอย่างสงบ…ราบคาบ เสียก่อน มันจึงจะสงบสุขได้!
กับ พวกเขมร…กัมพูชา อย่ามองด้วยสายตาที่เป็น “ภาพบวก”
ไม่จำเป็นจะต้องให้เกียรติ…มนุษย์สายพันธุ์นี้ สายพันธุ์ที่ รัฐบาล และ “ผู้นำประเทศ” สอนให้คนในประเทศ “จงเกลียดจงชัง” คนไทยและประเทศไทย
วันนี้…คนทั่วโลก และรัฐบาลหลายๆ ชาติ ต่างยืนข้างประเทศไทย หาก นายกฯแพทองธาร และรัฐบาลชุดนี้ ไม่กล้าแตะต้อง พวกเขมร…กัมพูชา และคนในตระกูล “ฮุน” ล่ะก็…
เปิดทางให้ รัฐบาลชุดใหม่ ได้เข้ามาทำหน้าที่ “คนไทยที่ดี” ให้ไว…ก็แล้วกัน!!!.