ใช่! แมสฯไม่ขาดแคลน แต่ ATK ขาดตลาด…หาซื้อไม่ได้! ‘รัฐบางอิ๊ง’ มีปัญญาแก้ปัญหาคนไทยไหม?

หักหน้า “รองโฆษกรัฐบาล” หลังสื่อลงพื้นที่สำรวจ ไม่พบมี AKT ชุดตรวจไวรัสโควิด-19 ขาย! หวั่น! เอกชนกักตุนสินค้า ก่อนปรับขึ้นราคาขายหน้าร้าน หลังไวรัสตัวร้ายกลับมาแพร่ระบาดรอบใหม่ ขณะที่ รัฐบาลยืนยัน “หน้ากากอนามัย” ไม่ขาดแคลน เตือนคนขายอย่าฉวยโอกาส ขึ้นราคา สั่งหน่วย ฉก.ลงจับกุมข้อหาขายเกินราคาควบคุม ชี้โควิดยังคงอยู่ ขอหมั่นดูแลสุขภาพ กินร้อนช้อนกลาง
สถานการณ์การกลับมาระบาดครั้งใหม่ของไวรัสโควิด-19 ควบคู่กับ การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ในปัจจุบัน ท่ามกลางการเริ่มต้นของฤดูฝนแห่งปี และการเปิดภาคเรียนเทอมแรกของปีการศึกษา 2568 ได้มีการถามอุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัสทั้ง 2 โรคจากประชาชนคนไทย ทว่า หลายรายได้รับการปฏิเสธจากร้านยาและร้านค้าที่เคยจำหน่ายอุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัสข้างต้น ว่า ไม่มีของ, ของหมด, ขาดตลาด และสารพัดเหตุผลอื่นๆ
แม้ก่อนหน้า กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จะออกมายืนยันถึง การนัดหมายประชุมหารือเร่งด่วนร่วมกับผู้ประกอบการภาคเอกชนกลุ่มต่างๆ เมื่อ 2 วันก่อนหน้านี้ กระทั่ง ได้มีการออกมายืนยันหนักแน่นถึง การมีเพียงพอของอุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัส ไม่ว่าจะเป็น เจล/แอลกอฮอลล์ล้างมือ หน้ากากอนามัย ชุดตรวจหาเชื้อโควิดฯ (ATK) ฯลฯ และ ราคาจำหน่ายที่จะไม่มีการปรับขึ้น เพื่อเอารัดเอาเปรียบประชาชน รวมถึง การสั่งผลิต และ/หรือ นำเข้าล็อตใหม่ที่จะมีขึ้นตามมาหลังจากนี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการขาดแคลน และ การปรับขึ้นราคาขายอุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัส ดังกล่าว

ล่าสุด “รัฐบาลแพทองธาร” โดย นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในวันนี้ (23 พ.ค.2568) ยืนยันว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันพบว่ายังมีการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อยู่บ้างทำให้ประชาชนมีความกังวลเรื่องหน้าการอนามัยขาดแคลน ซึ่งรัฐบาล โดย กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้ติดตามสถานการณ์ การจำหน่ายชุดตรวจโควิด-19 (ATK) หน้ากากอนามัย และแอลกอฮอล์ล้างมือ จากโดยมี ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ห้างค้าส่งค้าปลีก ผู้ประกอบการกว่า 20 รายอย่างใกล้ชิด ขอยืนยันว่ามีสินค้าพอเพียงและราคาปกติ ไม่มีการปรับขึ้น มีแต่การลดราคาและโปรโมชันต่อเนื่อง ขอประชาชนอย่าเป็นกังวล
ปัจจุบันกำลังการผลิตหน้ากากอนามัยอยู่ที่ 50-60% ของความสามารถทั้งหมด และสามารถเพิ่มได้ และวัตถุดิบหลักในการผลิตยังคงเพียงพอ ส่วน ATK ยังต้องนำเข้าทั้งหมด แต่สินค้ามีเพียงพอสำหรับจำหน่ายและมีการนำเข้าเพิ่มเติมต่อเนื่อง รองรับความต้องการของประชาชน ซึ่งประชาชนยังคงหาซื้อสินค้าได้จากหลายช่องทาง เช่น ห้างค้าส่ง ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาเก็ต ร้านขายยา และแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้งนี้ ผู้บริโภคควรเปรียบเทียบราคาก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า เนื่องจากราคาจะขึ้นอยู่กับชนิด ยี่ห้อ และคุณภาพของสินค้า
“ยืนยันข่าวลือเกี่ยวกับการขาดแคลนหน้ากากอนามัยไม่เป็นความจริง ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ามี ATK หน้ากากอนามัย และแอลกอฮอล์ล้างมือเพียงพอ ย้ำเตือนร้านค้าที่กักตุนสินค้า หรือขายเกินราคามีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ข้อหาขายเกินราคาควบคุม มาตรา 25 (1) และมาตรา 25 (5) ไม่แจ้งต้นทุนซื้อขายสต๊อก มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มาตรา 28 มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ข้อหาขายแพงเกินสมควร (มาตรา 29) มีอัตราโทษจำคุก ไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากพบการฉวยโอกาสหรือกักตุนสินค้า ราคาสูงเกินจริง สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 หรือไลน์ @MR.DIT” นายอนุกูล กล่าว
ล่าสุด ผู้สื่อข่าว “ยุทธศาสตร์ออนไลน์” ลงพื้นที่ย่าน ถนนศรีนครินทร์, ถนนอ่อนนุช และถนนพัฒนาการตัดใหม่ เพื่อสอบถามถึง การจำหน่าย ATK จากร้านยาที่เคยวางจำหน่ายสินค้าดังกล่าว แต่ได้รับคำตอบในแนวทางเดียวกันว่า “ของหมด” “ไม่มีของ” “ของขาดตลาด” “รอล็อตใหม่” “สั่งไปแล้วรอส่งมาให้” และอื่นๆ ซึ่งสะท้อนว่า สิ่งที่หน่วยงานภาครัฐ และรองโฆษกรัฐบาล ยืนยันหนักแน่นว่า อุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัส โดยเฉพาะ AKT มีอย่างเพียงพอนั้น ข้อเท็จจริงคือ ในบางพื้นที่ โดยเฉพาะที่สื่อฯได้ทำการสำรวจข้างต้น พบว่า สินค้าในกลุ่มดังกล่าวไม่มีจำหน่าย และอาจนำไปสู่การปรับขึ้นราคาขายในอนาคตอันใกล้ได้
แจ้งพิกัดกันขนาดนี้ ก็ไม่รู้ว่า…หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง จะขยันตามหาข้อเท็จจริงกันหรือไม่? อย่างไร?.