คลังเผย! แค่ 2 วัน ‘หน่วยงานรัฐ’ ชงสารพัดโปรเจ็กต์มาเกินวงเงิน 1.57 แสน ลบ.เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว

ปลัดคลัง เผย! หลายหน่วยงานรัฐ ชงโครงการมาให้คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจพิจารณาแล้ว พบยอดรวมวงเงินเกิน 1.57 แสนล้านบาท  ย้ำ! จะพิจารณาให้รอบคอบ มุ่งเลือกโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง และไร้ปัญหาทุจริต ยอมรับมีเวลาน้อย แต่ต้องเร่งให้กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและผูกพันงบประมาณให้เสร็จก่อน 30 ก.ย.นี้ ลั่น! นาทีนี้ ยังไม่มีแวว “ปัดฝุ่น” โครงการคนละครึ่ง

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2568 ที่ผ่านมา สำนักงบประมาณ ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการคลัง สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ฯลฯ มาหารือ หลังจากที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้ ชะลอโครงการเติมเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ระยะที่ 3 และ 4 ออกไปก่อน ซึ่งเป็นไปตามมติ คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 2/2568 ที่มี นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน การประชุมฯ เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2568 โดยให้นำวงเงินจำนวน 157,000 ล้านบาท ไปดำเนินการวางแผนเพื่อการขับเคลื่อนเศรฐกิจ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน 

เบื้องต้นมีหลายหน่วยงานได้เสนอโครงการและงบประมาณมาให้พิจารณาบ้างแล้ว เท่าที่เห็นพบว่าภาพรวมมูลค่าโครงการที่เสนอมาสูงกว่าวงเงินที่มี อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจำเป็นจะต้องเร่งรัดเพื่อพิจารณาโครงการที่แต่ละหน่วยงานเสนอมาโดยเร็วภายใน 2 สัปดาห์นับจากนี้ รวมถึงเร่งรัดการเบิกจ่ายเพื่อให้การลงทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายใต้การตรวจสอบที่เข้มงวดเพื่อป้องกันปัญหาการทุจริตในโครงการที่อาจจะมีตามมาในอนาคต

“ยอมรับว่าการใช้งบประมาณก้อนนี้ ต้องทำแข่งกับเวลา แต่จะทำอย่างไรให้โครงการออกมาได้ชัดและสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้เร็วที่สุด โดยไม่มีปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นตามมา ซึ่งขณะนี้ มีโครงการที่มีความพร้อมอยู่เป็นจำนวนมากที่จะถูกคัดมาดำเนินการ เพียงแต่ละเลือกดำเนินการอะไรก่อนหรือหลังนั้น รัฐบาลคงต้องดูในรายละเอียดอีกที” ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุ

ทั้งนี้ การดำเนินโครงการจากนี้ไป จะต้องเร่งรัดเพื่อจัดทำกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและผูกพันงบประมาณโดยจะต้องดำเนินการให้เสร็จก่อนวันที่ 30 ก.ย.2568 เบื้องต้น เชื่อว่าจะมีโครงการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและการบริโภคของภาคประชาชนรวมอยู่ด้วย ส่วน โครงการท่องเที่ยวคนละครึ่ง นั้น ต้องรอให้ทาง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้นำเสนอรายละเอียดโครงการมาให้พิจารณา แต่สำหรับ โครงการคนละครึ่ง ที่เป็นรูปแบบที่ภาครัฐออกให้ครึ่งหนึ่งและประชาชนออกอีกครึ่งหนึ่ง เหมือนที่เคยทำมาในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 และส่วนเป็นสำคัญของการกระตุ้นการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคของภาคประชาชนนั้น ขณะนี้ ยังไม่มีการหารือกันแต่อย่างใด.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password