DSI หยิบ AI จำลองเหตุการณ์จับพิรุธ ‘ฮั้ว สว’ อึ้ง!!พบจับกลุ่มสุมหัวเป็นขบวนการ

อธิบดีดีเอสไอ พร้อมคณะ ลงพื้นที่เมืองทองธานี ใช้ AI ช่วยวิเคราะห์ จับพิรุธฮั้วเลือก สว.67 ระดับประเทศ พบจับกลุ่มก้อน-จุดทิ้งโพย-จุดเข้าออกสุมหัวเป็นขบวนการ

วันนี้ (25 เม.ย.) เวลา 17.45 น. ณ อาคาร Impact forum hall 4 เมืองทองธานี จ.นนทบุรี นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) , พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ รองอธิบดีดีเอสไอ , พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค , นายระวี อักษรศิริ ผอ.กองคดีการฟอกเงินทางอาญา ร่วมกันเข้าสังเกตการณ์ ตรวจสถานที่คัดเลือก สว. ระดับประเทศ และจำลองเหตุการณ์เพื่อประกอบการสอบสวนคดีพิเศษในคดีฟอกเงิน สว. (คดีพิเศษที่ 24/2568) และใช้ประกอบการไต่สวนของ กกต. โดยมี พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว แกนนำกลุ่ม สว. สำรอง ได้ชี้แจงการเลือก สว. ในขั้นตอนต่างๆ

พ.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า ตามที่มีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ และพยานที่เป็นผู้สมัครที่เป็นผู้ร้องเรียนพาชี้จุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นห้องที่เป็นการเลือกระดับประเทศ และมีการกล่าวหามีการพบโพย มีการรวมตัว และภาพพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด โดยจะสามารถนำมาวิเคราะห์ รวมถึงจำลองสถานการณ์ เพื่อเวลาเรียกพยานมาชี้แจงจะได้ทราบ และสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงกับพยานหลักฐานบุคคล และวัตถุ รวมถึงหลักฐานจากผู้เชี่ยวชาญ ที่มีการตั้งข้อสังเกตถึงคะแนนซ้ำๆ กันได้

พ.ต.ต.ยุทธนา เผยว่า ส่วนการใช้เทคโนโลยีเอไอ เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์นั้น ยังไม่ขอลงรายละเอียดในเชิงเทคนิค แต่จะใช้เทคนิค AI มาวิเคราะห์ ซึ่งหากได้ภาพทุกคนที่เข้ามาในพื้นที่ ทั้งผู้สมัครและผู้เข้าร่วมว่า ใครอยู่จุดใดและมีพฤติกรรมอย่างไร ก็จะสามารถจับ และวิเคราะห์ได้ทั้งหมดเพื่อพิจารณาว่าเป็นไปตามพยานอื่นๆ หรือไม่ โดยการใช้ AI จะมีความเป็นวิทยาศาสตร์ และเป็นหลักฐานที่มีความหนักแน่น

พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า การลงพื้นที่เพื่อจำลองเหตุการณ์ในวันนี้จะเป็นประโยชน์ เพื่อให้ทราบว่าจุดเกิดเหตุใดและอยู่ในจุดไหนบ้าง รวมถึงยังมีภาพจากกล้องวงจรปิดมาประกอบ หรือมีการพบโพยในห้องน้ำจุดใด โดยหลังจากนี้ก็จะมีการกลับไปเปรียบเทียบ พยานหลักฐานทั้งหมดว่า เพียงพอแล้วที่จะทำให้ข้อเท็จจริงกระจ่างหรือไม่ ซึ่งโพยที่พบก็ถือเป็นหลักฐานที่เจ้าหน้าที่สอบสวนจะนำไปพิจารณา แต่ยังไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียดเช่นเดียวกัน

พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวถึงขั้นตอนการดำเนินคดีอาญาว่า จะต้องรอพิสูจน์ให้ชัดเจนว่ามีคนใดบ้างที่กระทำความผิด ซึ่งจะต้องมีการพิสูจน์พยานหลักฐานให้มีความชัดเจนก่อนมีการแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนที่ไปร่วมกับ กกต. ในการตรวจสอบนั้น ก็จะแยกเป็นความผิดที่เกิดขึ้นกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. เพื่อพิสูจน์การเลือก สว.ไม่เป็นธรรม โดยทั้ง 2 ส่วนไม่จำเป็นจะต้องเสร็จสิ้นพร้อมกัน 

“ส่วนภาพนิ่งที่มีการถ่าย และส่งต่อกันจะเป็นประโยชน์หรือไม่นั้น อยู่ในระหว่างการวิเคราะห์ว่าสอดคล้องกับบัตรลงคะแนนที่เป็นไปตามโพยที่พบหรือไม่ และจะมีการใช้สูตรคำนวณ เพราะหากการลงคะแนนเป็นไปตามโพย มีการลงคะแนนซ้ำๆ ในหลายบัตร ก็อาจจะต้องมีการวิเคราะห์ว่า มีการกระทำจัดตั้งเป็นกลุ่มบุคคล เพื่อทำให้การเลือกไม่เป็นโดยสุจริตหรือไม่ ซึ่งเป็นไปตามหลักสถิติ และหากได้ AI มาช่วยในการวิเคราะห์ และไปสอดคล้องกับพยานหลักฐานอื่นๆ ก็จะทำให้พยานหลักฐานมีน้ำหนักมากขึ้น แต่หากไม่ตรงก็จะเป็นการหักล้างกัน จึงยืนยันได้ว่า ดีเอสไอพิสูจน์ข้อเท็จจริงด้วยความตรงไปตรงมาด้วยการนำหลักวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย”

พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวเสริมว่า สำหรับองค์ประกอบอื่นๆ เช่น การเดินทางมาพร้อมกัน พักด้วยกัน หรือการใส่ชุดเหมือนกัน จะมีการนำมาพิจารณาด้วยหรือไม่นั้น ยืนยันว่าจะมีการนำมาพิจารณาด้วยทั้งหมด ซึ่งหากมีหลักฐานใดๆ ก็สามารถนำมาพิจารณาได้ทั้งหมด

พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวด้วยว่า สำหรับการรับเรื่องร้องทุกข์จาก สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี และ สภ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ซึ่งมีผู้กล่าวหาในความผิดฐานอั้งยี่ มาเพื่อดำเนินการสอบสวนรวมสำนวนในคดีพิเศษดังกล่าวแล้วนั้น ตามคำร้องทุกข์กล่าวโทษพบว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน มีการกล่าวหาว่าคนกลุ่มนี้มีพฤติกรรมตั้งเป็นคณะบุคคล เป็นสมาชิก และมีการประชุมกัน ปกปิดวิธีการเพื่อกระทำการบล็อกโหวตเลือกตั้ง ทำให้ตำรวจท้องที่ได้ส่งเรื่องให้พิจารณารับเป็นเรื่องคดีพิเศษต่อเนื่องเกี่ยวพัน ซึ่งมีแต่หมายเลขลำดับประจำตัวของผู้สมัคร ยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามีรายชื่อของบุคคลที่เป็น สว. ปัจจุบันหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว แกนนำกลุ่ม สว.สำรอง ได้เดินอธิบายให้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เกี่ยวกับขั้นตอนในวันเลือกตั้ง สว.67 ระดับประเทศ พร้อมชี้แจงตั้งแต่การเดินเข้าประตู มีการแบ่งกลุ่มเลือกตั้งตามแต่ละช่องที่กำหนด พร้อมแสดงบัตรของผู้สมัครแต่ละคน โดยบริเวณด้านหน้าของแต่ละกลุ่มจะมีคูหาและกล่องหยอดบัตร ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ประจำคอยตรวจสอบความถูกต้อง ก่อนหยอดบัตรตามลำดับผู้สมัคร รวมถึงมีกล้องวงจรปิดคอยบันทึกอยู่ตลอดเวลา

พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า การเลือกสว. ในรอบเช้า ยังไม่พบความผิดปกติเพราะต่างคนต่างมาแต่พบว่าบางท่านมีคะแนนค่อนข้างสูง จากการสังเกตมีบางกลุ่มใส่เสื้อสีเดียวกันและมีการถือแฟ้มเข้ามาคอยบันทึกผลการลงคะแนนในช่วงเช้าผู้ไม่ได้รับการคัดเลือกจะต้องออกจากภายในห้อง Impact forum hall 4 เมืองทองธานี ทำให้เหลือ 40 คนสุดท้ายจะต้องคัดเลือกแบบไขว้กลุ่มอาชีพในช่วงบ่าย และมีการเริ่มพบความผิดสังเกตเนื่องจากมีโพยที่แอบอยู่ในเอกสาร สว.3 พบว่ามีการลอกกันและร้องเรียนกับคณะกรรมการเกิดขึ้น

พล.ต.ท.คำรบ ยังได้โชว์เอกสารที่ระบุเป็นโพยฮั้วเลือก สว. ที่ตกอยู่ในห้องน้ำ เมื่อช่วงเช้าวันเลือกตั้งระดับประเทศ โดยกล่าวว่า ผู้สมัคร สว. ระดับประเทศที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดน่าจะขยำทิ้งไว้ในห้องน้ำแต่ไม่ลงถัง คนที่เข้าห้องน้ำต่อจึงเก็บได้ แล้วถ่ายรูปส่งมาในไลน์ เมื่อแกะดูพบว่าคะแนนตรงกันกับ สว. ที่ได้รับเลือกทุกกลุ่ม นอกจากนี้ ยังมีโพยฉบับที่ 2-3 ตามมาแต่ละตัวเลขตรงกันหมด รวมเป็น 10 กว่าโพย กลุ่ม 1-20 อาชีพ มีรายชื่อครอบคลุมประมาณ 7 เบอร์ ในแต่ละกลุ่มอาชีพซึ่งรวมแล้วเป็น 140 คน ผลปรากฏว่าตรงตามโพล เป็น สว.ตัวจริง 138 รายชื่อ ซึ่งในวันนี้ดีเอสไอนำกล้อง CCTV มาตรวจสอบแต่อาจยังไม่ครอบคลุม จึงมีการประสานงานกันต่อว่าจะขอร้องให้ กกต. เปิดหีบ เพื่อดูบัตรที่อยู่ในกล่อง โดยเฉพาะในรอบสุดท้ายที่มีการเลือกไขว้จะรู้ว่าที่มาของ สว. ที่ได้ 70-80 คะแนน มีที่มาอย่างไร

เมื่อถามว่ามีเสียงสะท้อนว่า สว.สำรองก็ฮั้วเหมือนกันแต่ไม่ชนะ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พล.ต.ท.คำรบ กล่าวทันทีว่า”ไม่เป็นไร ใครมีพยานหลักฐานก็ขอให้เอามาเปิดเผยได้ เพราะเรื่องนี้มันกล่าวหากันได้หมด สว. สำรองบางส่วนก็มีปัญหา โดยดีเอสไอก็ตรวจสอบด้วยเหมือนกัน ไม่ต่ำกว่า 2-3 คน ทั้งที่ฮั้วและไม่ฮั้ว แต่ได้คะแนนมาโดยไม่สุจริตเที่ยงธรรม

ส่วนกรอบเวลา 1 ปี ที่ กกต. ต้องตรวจสอบคุณสมบัติ สว. ตัวจริงตอนนี้ใกล้ครบเวลาแล้ว กังวลหรือไม่ พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า “การตรวจสอบดังกล่าวเป็นระเบียบภายในที่ต้องส่งให้บอร์ด กกต. ภายใน 1 ปี ซึ่งข้อเท็จจริงยังไม่พบว่าตามกฎหมายเกิน 1 ปีได้หรือไม่ ที่ผ่านมาประชาชนยังไม่ได้ฟังจาก กกต. ชัดเจนว่า 1 ปีสามารถขยายได้หรือไม่ ซึ่งตนคิดว่า 1 ปีควรจะจบได้แล้ว”.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password