“จาตุรนต์” เร่งได้ตรงวันฉลองเศร้า “15 ปีสลายคนเสื้อแดง” ที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ ประกาศเดินหน้าคลอดกฎหมายยกเลิกคำสั่ง คสช.ฯ เข้าสู่สภาฯ พิจารณาวาระ 2-3 ในสมัยหน้า เผย! มีกฎหมายเผด็จการมากถึง 55 ฉบับ มุ่งยกเลิก 23 ฉบับ อีก 22 ฉบับ อาจต้องตรากฎหมายใหม่แทนที่ หรืออาจแก้ไขเพิ่มเติม

เมื่อช่วงสายวันนี้ (10 เม.ย.2568)  นายจาตุรนต์ ฉายแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะ ปธ.กมธ. วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ยกเลิกประกาศ และคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่หมดความจำเป็น และไม่เหมาะสมกับการปัจุบัน พ.ศ…. ให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภา ว่า จากการทำงานของ กมธ.ชุดนี้ ตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา ได้พิจารณาโดยใช้หลักการของคณะรัฐมนตรีที่เสนอให้ยกเลิกประกาศคำสั่ง คสช. ทั้งหมด 23 ฉบับ ที่หมดความจำเป็น หรือไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันเสร็จสิ้นแล้ว และพร้อมที่จะเสนอเข้าสู่สภาฯ เพื่อพิจารณาในวาระ 2 และ 3 ในต้นสมัยประชุมสภาฯหน้า โดยคาดว่าจะผ่านการพิจารณาของทั้งสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา

ทั้งนี้ จากการทำงานของ กมธ.ชุดนี้ ได้รับความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ร่วมกันพิจารณาอย่างถี่ถ้วนรอบคอบ ทำให้สามารถยกเลิกคำสั่ง คสช. ได้ถึง 55 ฉบับ ทำให้เหลือคำสั่ง คสช.ที่ยังค้างไว้ 22 ฉบับ ซึ่งใน 55 ฉบับ ที่ กมธ.ยกเลิกนั้น ครอบคลุมหลากหลาย โดยเฉพาะ คำสั่งละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก (ประกาศคสช.ฉบับที่ 49/2557) ความผิดสำหรับการสนับสนุนทางการเมือง ซึ่งคำสั่งนี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญที่ให้การชุมนุมเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน ทั้งการกำหนดโทษทางอาญา ก็ขัดต่อหลักนิติธรรมอย่างมาก หรือ คำสั่งที่เพิ่มอำนาจให้เจ้าหน้าที่ราชการ ในการละเมิดประชาชน (คำสั่งคสช 13/2559 เรื่องการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดบางประการ) ที่เป็นภยันอันตรายต่อความสงบเรียบร้อย หรือบ่อนทำลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ซึ่งคำสั่งนี้มีผลให้อำนาจกับข้าราชการไม่ต่างจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่สามารถเรียกบุคคลมารายงานตัว จับกุมหรือเข้าไปในเคหสถาน เพื่อตรวจยึดทรัพย์สินและควบคุมตัวบุคคลได้ไม่เกิน 7 วัน ถือเป็นการสร้างปัญหาร้ายแรง และส่งผลต่อการปฏิบัติงานของหน่วยงานนั้นๆ ดังนั้น กมธ. จึงเสนอให้พิจารณายกเลิกในทันที

นายจาตุรนต์ ยอมรับว่า การพิจารณาของกมธ. กระทำได้อย่างจำกัด เป็นผลให้มีประกาศ/คำสั่ง คสช.ที่พิจารณาให้คงไว้ 22 ฉบับ เนื่องจากบางฉบับมีเนื้อหาซับซ้อน ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน หรือเป็นเรื่องนโยบายทางบริหาร รวมถึงบางฉบับจำเป็นต้องตรากฎหมายใหม่ขึ้นมาทดแทน หรือแก้ไขเพิ่มเติมกฏหมายที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบันให้สอดคล้องเสียก่อน จึงจะยกเลิกคำสั่งเหล่านั้นได้ ดังนั้น คำสั่ง คสช.ที่คงค้างไว้จึงเป็นงานของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงรัฐสภาที่จะต้องล้างมรดกนี้ให้สำเร็จไปด้วยกัน

วันเดียวกัน อีกด้านหนึ่ง ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา คณะประชาชนทวงความยุติธรรม 2553 จัดกิจกรรม “15 ปี รำลึก เมษา-พฤษภาคม 53” โดยมี นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)  นพ.เหวง โตจิราการ อดีตแกนนำ นปช. รวมถึง ตัวแทนพรรคการเมืองจากพรรคประชาชน รวมถึง นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า เข้ารวมงาน โดยมีการประกอบพิธีทางศาสนา การวางพวงหรีดเพื่อเป็นการสดุดี และอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับในเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ สมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2553.