อาการนายกฯเจนว้ายยยยยยยยยยยย!!???

ผ่านพ้นมายาวนานกว่า 13 ชม. (ณ 21.39น.) ของการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่มี พรรคประชาชนเป็นแกนนำ ในวันแรก 24 มี.ค.2568

“ไฮไลท์สำคัญ” ที่อยู่บนความสนใจของ “คอการเมือง” ไม่ได้ถูกโฟกัสไปที่การ “เปิดหัว” ของ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” หรือ “หัวหน้าเท้ง” แห่งพรรคประชาชน

หากแต่อยู่ที่…ตัวขุนพลคนดัง อย่าง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน หรือแม้แต่ ผู้อาวุโส “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เสียมากกว่า…

การอภิปรายของทั้ง 2 คน คือ หัวข้อที่ “คอการเมือง” และสังคมไทย ต่างพูดถึงและวิพากษ์วิจารณ์ต่อ…กับท่วงท่าของผู้ถูกอภิปรายฯ เช่น นายกฯเจนวาย (Gen Y) อย่างที่สุด

กับ นายวิโรจน์ ที่ได้เปิดข้อมูล…การทำนิติกรรมอำพรางของคนในครอบครัวชินวัตร ด้วยการออก ตั๋ว PN (promissory note) ความหมายคือ “เอกสารสัญญาว่าจะจ่าย” ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ที่ได้รับทรัพย์สินต่างกรรมต่างวาระ จากหลายคนในครอบครัวฯ ไม่ว่าจะเป็น…พี่สาว พี่ชาย ลุง ป้าสะใภ้ และแม่ รวมเป็นเงิน 4,434.5 ล้านบาท แต่แลกโดยการออกตั๋ว PN เสมือนเป็นหนี้สินที่มีต่อคนกลุ่มนี้

น.ส.แพทองธารไม่ต้องกังวลเลยว่าจะต้องมีภาระจ่ายดอกเบี้ยอะไร พี่สาว พี่ชาย ลุง ป้าสะใภ้ และแม่ ในกงสีก็เป็นเจ้าหนี้ที่แสนดีมากๆ ยอมนอนกอดกระดาษ 9 แผ่น โดยที่ไม่รู้ว่าเงิน 4,434.5 ล้านบาท จะได้คืนวันไหน” นายวิโรจน์ ระบุช่วงหนึ่งของการอภิปรายฯ ก่อนจะสรุปในเวลาต่อมาว่า…

ดังนั้น หากกงสีขายหุ้นให้ น.ส.แพทองธาร ในราคาพาร์หรือราคาทุน พี่สาว พี่ชาย ลุง ป้าสะใภ้ และแม่ ก็ไม่ต้องจ่ายภาษีรายได้บุคคลธรรมดาเลย สลึงเดียวก็ไม่กระเด็นออกจากกงสี และเมื่อคำนวณรวมแล้ว น.ส.แพทองธาร ใช้ตั๋ว PN สร้างหนี้ปลอม เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีการรับให้เป็นเงินสูงถึง 218.7 ล้านบาท

ส.ส.พรรคประชาชน รายนี้ ย้ำว่า…หน้าที่ของปวงชนชาวไทย ในมาตรา 50(9) ของรัฐธรรมนูญ ระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่า บุคคลมีหน้าที่เสียภาษีอากรตามที่กฎหมายบัญญัติ ลำพังแค่จะทำหน้าที่ในฐานะปวงชนชาวไทย น.ส.แพทองธาร ยังทำให้ดี ทำแบบตรงไปตรงมาไม่ได้ แล้วจะมีหน้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นเยี่ยงอย่างที่ดีของประชาชนคนไทยได้อย่างไร?

ตามมาตรา 160(4) ของรัฐธรรมนูญ ระบุเอาไว้ว่า นายกรัฐมนตรีจะต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมาตรา 160(5) นายกรัฐมนตรีจะต้องไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยมาตรฐานทางจริยธรรมตามมาตรา 160(5) นั้น ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 219 วรรคสอง กำหนดให้นำมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระรวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ.2561 มาใช้บังคับแก่คณะรัฐมนตรี โดยในหมวด 1 มาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นอุดมการณ์ ข้อ 7 ต้องถือประโยชน์ประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน

“พฤติกรรมการหนีภาษีการรับให้ 218.7 ล้านบาท ที่เอารัดเอาเปรียบประชาชน เอาเปรียบสังคม เอาเปรียบประเทศชาติ ล้วนชี้ชัดได้ว่า…บุคคลคนนี้มีจิตละโมบ ที่คอยคิดถึงแต่ประโยชน์ส่วนตน ไม่เคยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเลย นายวิโรจน์ ระบุ และว่า…

ข้อ 8 ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ เพื่อตนเอง หรือผู้อื่น การหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีของ น.ส.แพทองธาร นี่หรือการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต พฤติกรรมแบบนี้ คือ การใช้ช่องว่างทางกฎหมาย บลาๆๆๆๆๆ……..

สรุป! น.ส.แพทองธาร ไม่สมควรที่จะได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป

เขาอภิปรายอีกว่า “…ไม่ใช่แค่เป็นนายกฯไม่ได้ เป็นแค่คนปกติก็ยังเป็นไม่ได้ น.ส.แพทองธาร ไม่ใช่แค่ไม่มีศักดิ์ศรีที่จะลุก เดิน ยืน นั่ง ในทำเนียบรัฐบาล แม้แต่ตามถนนหนทาง ตามตรอกซอกซอย ในประเทศนี้ คนหนีภาษีฯ ก็ไม่มีหน้าที่จะเดินหน้าตั้ง คอตรง สู้หน้าประชาชนได้อีกต่อไป”  

ไม่เพียงแค่นั้น ส.ส.พรรคประชาชน ยังอ้างถึงภารกิจหลังจากนี้ ที่จะต้องทำการร้องไปที่ ป.ป.ช. มีอำนาจตามมาตรา 234 ของรัฐธรรมนูญ ในการไต่สวนและมีความเห็นต่อกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง และพิจารณาส่งสำนวน และความเห็นของ ป.ป.ช. ไปที่ศาลฎีกาต่อไป ตนเชื่อว่าพฤติกรรมเช่นนี้ น.ส.แพทองธาร ก็ไม่รอด

ห่วงก็แต่ สส. ที่จะยกมือไว้วางใจคนอย่าง น.ส.แพทองธาร ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป เพราะในหมวด 2 ว่าด้วยมาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นค่านิยมหลัก ข้อ 19 การคบหาสมาคมกับผู้ประพฤติผิดกฎหมาย หรือผู้มีความประพฤติ หรือผู้ที่มีชื่อเสียงในทางเสื่อมเสีย อันกระทบกระเทือนต่อความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนในการปฏิบัติหน้าที่ ก็อาจเข้าข่ายการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงได้เช่นเดียวกัน ถ้ามีคนไปร้อง สส.ที่ยกมือให้ น.ส.แพทองธาร ก็อาจจะเข้าปิ้งตายตกตามไปด้วย นายวิโรจน์ ระบุ

ท่ามกลางการประท้วงเป็นระยะๆ จาก สส.ฝ่ายค้าน รัฐบาล ไม่เว้นแม้กระทั้ง…การประท้วงจากคนทำหน้าที่…ประธานในที่ประชุมฯ

เฉพาะเคสท์ของ นายวิโรจน์ ลองไปฟังคำตอบจาก “นายกฯเจนวาย” กันดู…

น.ส.แพทองธาร กล่าวตอบโต้ตอนหนึ่ง ระหว่างลุกขึ้นชี้แจ้งในเวลาต่อมาว่า…ดิฉันขอยืนยันเจตนาทุกอย่าง ถูกต้องตามกระบวนการ การที่กล่าวหาว่านายกฯคนนี้หนีภาษี  ไม่ได้เป็นความจริงเลย เป็นเรื่องที่ตรงกันข้าม แม้ดิฉันอายุน้อยกว่าท่าน แต่ดิฉันมั่นใจว่าดิฉันเสียภาษีให้รัฐมากกว่าท่าน”  

ก่อนจะถูกสวนกลับทันที! จาก นายวิโรจน์ ประมาณนี้…“ท่านนายกฯ จะเสียภาษีมากกว่าใคร นั่นเป็นหน้าที่ของท่าน ผมมั่นใจว่าคนไทย 60 ล้านคน หรือมากกว่านั้น เสียภาษีน้อยกว่าท่านทั้งนั้นแหละครับ ประชาชนจะเสียมากหรือน้อย ทุกคนมีศักดิ์ศรีเท่ากัน ตราบใดที่เสียภาษีตามกฎหมายบัญญัติ ถือว่าถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ เสียภาษีมากแต่หาเทคนิคหลบเลี่ยง หนีภาษีต่างหากที่น่ารังเกียจ”

ไปดูอีกคน ที่แม้จะพูดไม่เก่ง ไม่มีวลีเด็ดดวง…เหมือนคนก่อนหน้านี้ แต่วลีหนึ่งเดียว “ใจบันดาลแรง” ก็ได้สร้างการจดจำในทางการตลาดทางการเมืองได้ดีนักแล แน่นอนว่า…สิ่งที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร อภิปรายในห้วงเวลาประมาณ 10 นาท ย่อมอยู่บนความสนใจไม่ต่างกัน

พล.อ.ประวิตร ระบุตอนหนึ่งระหว่างการอภิปราย ประมาณว่า…การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของนายกฯ ผิดพลาด ล้มเหลว, แก้ปัญหาไม่ตรงจุด ผิดที่ผิดทาง, ไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ซ้ำยังถอยหลังไปอีก จีดีพีไทยรั้งท้ายในกลุ่มอาเซียน, แล้วจะนำพาประเทศรอดพ้นได้อย่างไร?

ในฐานะที่ผมทำงานด้านความมั่นคงมาทั้งชีวิต ทราบดีว่างานความมั่นคงไม่ใช่เรื่องง่าย จำเป็นต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจและประสบการณ์หลายมิติอย่างมาก เห็นใจนายกฯ ที่ต้องมาเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องที่ท่านไม่มีประสบการณ์ แต่ความมั่นคงชาติเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ประเทศชาติไม่ใช่เวทีที่จะให้มือสมัครเล่นมาซ้อมมือได้”  

นอกจากนี้ ยังมีเรื่อง…การบริหารราชการแผ่นดิน ร่างกฎหมายประกอบธุรกิจสถานบันเทงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่รัฐบาลพยายามผลักดัน มีช่องโหว่ที่ทำให้เกิดการทุจริตเชิงนโยบายได้ เอาประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง กาสิโนจะนำชาติไปสู่ความหายนะ อันตรายอย่างที่สุด เพราะจะทำให้สังคมอ่อนแอ และเกิดธุรกิจสีเทาติดตามมาอีกมาก ทุกวันนี้การปล่อยปละละเลยส่งผลให้ประเทศไทยเป็นแหล่งฟอกเงิน ธุรกิจสีเทา ยาเสพติด อาชญากรรรม และพนันออนไลน์มากมาย

อีกประเด็นสำคัญ นายกฯ ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4) และ (5) ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ท่านทำนิติกรรมอำพราง ยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จเพื่อเลี่ยงภาษี อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ยังไม่นับการถือหุ้นอัลไพน์กอล์ฟ ทั้งที่รู้ว่าเป็นที่ดินธรณีสงฆ์ ไม่ควรแสวงประโยชน์ในทางที่ผิด นอกจากนั้น ปล่อยปละให้บุคคลในครอบครัวมากระทำให้เกิดผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่

“ทั้งหมดที่กล่าวไม่ใช่กล่าวหาด้วยอคติ แต่ตามหลักฐานข้อเท็จจริงทุกประการ ซึ่ง สส.พรรคพลังประชารัฐจะนำเสนอในรายละเอียดต่อไป ผมพูดไม่เก่งอาจไม่กระฉับกระเฉงเท่าหนุ่ม ๆ ผมจึงใช้ใจบันดาลแรง บริหารประเทศให้สำเร็จมาได้หลายอย่าง ท่านนายกฯ ยังเป็นหนุ่มสาว ยังแข็งแรง เชื่อว่าจะบริหารประเทศด้วยสติปัญญา อ่อนน้อมหนักแน่นมีหลักการ ยึดถือประโยชน์ประเทศชาติมากกว่าครอบครัวพวกพ้อง

คำตอบที่ได้รับ จาก น.ส.แพทองธาร ที่ประกาศตนเป็น “ผู้นำรุ่นใหม่” หรือเป็น “นายกฯเจนวาย” ก็คือ… “ที่ท่านผู้อาวุโสพูดเมื่อสักครู่ ไม่เป็นความจริงคะ ขอบคุณคะ”

ถอดความเชิงล้อไปกับคำชี้แจงของ พล.อ.ประวิตร เมื่อครั้งถูกอภิปรายฯในอดีตที่ว่า “ผมว่าที่ท่านพูดมาทั้งหมดนั้น ไม่เป็นความจริงครับ ขอบคุณครับ”

คำชี้แจงของ น.ส.แพทองธาร ในลักษณะนี้ ทางการเมืองถือว่า สร้างแต้มลบอย่างที่สุด! หากไม่เชื่อ…ลองเปิดหา ผลสำรวจความคิดเห็นของผู้คนที่ได้รับชมการถ่ายทอดสดการอภิปรายฯในครั้งนี้ จากสื่อค่ายใหญ่หลายสำนัก ดูก็ได้ ผลประจักษ์…ออกมาในทำนองเดียวกัน

กล่าวคือ…ประชาชน “ถูกใจ” กับการอภิปรายฯของพรรคฝ่ายค้าน มากกว่า 60% และมองว่า…“พอใช้” ในสัดส่วนใกล้เคียงกับความรู้สึก “แย่” อัตรา 19% : 21%

คอมเม้นเตเตอร์ “คนดัง” อย่าง…นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังอดไม่ได้ที่โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ก่อนจะให้คะแนนกับ…บุคคลการเมืองทั้ง 2 ฝั่ง เลือกเฉพาะคนเด่นๆ ที่น่าสนใจ หลังรับฟังการอภิปรายในครึ่งวันเช้า ประมาณนี้….

1. ผู้นำฝ่ายค้าน : นายณัฐพงษ์ ยังอภิปรายราบเรียบ โดยพยายามให้ครอบคลุมประเด็นแบบกว้าง ๆ  ยังไม่มีอะไรประทับใจมาก  ยังไม่สามารถอธิบายคำว่า ดีลแลกประเทศได้ชัดเจน ให้คะแนนได้แค่ 6.5 เต็ม 10

2. หัวหน้าพรรค พปชร. พลเอกประวิตร ประเด็นอภิปรายในเวลา 10 นาที คุมเนื้อหาได้ดี  ตีได้แรงในประเด็นไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีการทำนิติกรรมอำพราง มีการยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ ซึ่งเป็นการเปิดประเด็นให้แก่ผู้อภิปรายคนต่อไปได้อย่างสวยงาม ให้คะแนนความพยายามฝืนสังขารอภิปรายที่ทุกคนต้องลุ้นและปรบมือให้ตอนจบ 8 เต็ม 10

3. นายกรัฐมนตรี แพรทองธาร ชินวัตร ลุกขึ้นตอบไม่ถึงนาทีแบบไร้วุฒิภาวะ  สร้างมุกตลก โดยใช้คำพูดในอดีตของพลเอกประวิตรสั้น ๆ “ที่สมาชิกผู้อาวุโสกล่าวมานั้นไม่เป็นความจริง”  คงนึกว่าเฉียบคม  แต่เป็นตลกที่ดิสเครดิตตัวเองว่า เหมาะไปวิ่งเล่นกับลูกมากกว่าเป็นนายกรัฐมนตรี  ให้คะแนน 1 เต็ม 10

4. น.ส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ สส. เพชรบูรณ์  พรรคพลังประชารัฐ  อภิปรายราบเรียบแต่เนื้อหามีน้ำหนักในเรื่องการแจ้งบัญชีทรัพย์สินหนี้สินเป็นเท็จ  ซึ่งหากเป็นจริงจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ถูกถอดถอนจาก ปปช.ได้  มีการทำการบ้านมาอย่างดี  ให้คะแนน 7.5 เต็ม 10

5. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร พรรคประชาชน  อภิปรายในประเด็นการยื่นทรัพย์สิน หนี้สินเป็นเท็จ การทำนิติกรรมอำพราง และการหลีกเลี่ยงภาษีของนายกรัฐมนตรีและคนในตระกูลชินวัตร  เป็นประเด็นที่ขยายความต่อจากพลเอกประวิตร และ คุณพิมพ์พร เป็นผู้อภิปรายที่มีทั้งลีลาและเนื้อหา  แต่บางส่วนก็เล่นและส่อเสียดจนเกินงาม ให้คะแนน 8.5 เต็ม 10

ถึงตรงนี้…สังคมไทยและ “คอการเมือง” จะมองท่วงท่าการชี้แจงของ “นายกฯเจนวาย” ไว้อย่างไร? เชื่อว่า…คงมีคำตอบในใจกันแล้ว

จะถึงขั้นเป็น…นายกฯเจนว้ายยยยยยยยยยยย!!??? หรือไม่? ลองเม้นท์ตอบกันดูล่ะกัน 555!!!.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password