ให้ข่าวกันมั่วสุดๆ สำหรับโครงการ แจกเงินหมื่นเฟส 3 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือจะเรียกกันแบบชนิด โฟกัส ก็ต้องบอกว่าเป็น เฟสแรกสำหรับการแจกเงินหมื่นผ่านระบบดิจิทัล วอลเลต

ตามข่าว ตั้งแต่ คนให้ข่าวระดับ…นายกรัฐมนตรี รองนายกฯและรมว.คลัง ยัน “2 รมช.คลัง” ที่ต่างก็ยืนยันตรงกัน

แจกเฟส 3 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หมายถึง…เป็น เฟส1/1 ของโปรเจ็กต์ “ดิจิทัล วอลเลต” ทดลองระบบกับวันรุ่น อายุ 16-20 ปีก่อน

ฟังคนให้ข่าว…บอกทำนอง คนในกลุ่ม แจกเงินหมื่นผ่าน ระบบ “ดิจิทัล วอลเลต” เฟส1/1 เพราะคนกลุ่มนี้ รู้และเข้าใจเทคโนโลยีมากกว่าคนกลุ่มอื่น

คำถามคือ แน่ใจนะว่า…คนอายุ 21 ปี จนถึงอายุ 30, 40 ปี หรือมากกว่านั้น จะรู้และเข้าใจเทคโนโลยีน้อยกว่าคนอายุ 16-20 ปี

น้อยกว่า…จนกระทั่ง ต้องยื้อเวลาแจกเงินหมื่นให้กับคนกลุ่มนี้ที่เหลืออีกกว่า 20 ล้านคน ออกไปก่อน

นี่คือ “มั่ว 1”

ส่วน “มั่ว 2” นั่นเพราะ…คนให้ข่าว ต่างพูดและให้ข่าวกันไม่เคลียร์ ประเด็นคุมเข้มกับร้านค้าบางประเภท กำหนดให้เป็น ร้านค้าใหญ่ที่มุ่งเน้นขายเฉพาะ “8 สินค้าต้องห้าม” อาทิ สถานบริการน้ำมัน สถานบริการ ร้านอาหาร ร้านขายสลาก ร้านขายสุรา ร้านขายบุหรี่ ฯลฯ กล่าวคือ…ร้านใหญ่ประเภทนี้ ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ แจกเงินหมื่นผ่าน ระบบ “ดิจิทัล วอลเลต” เฟส1/1

ตรงนี้…สังคมไทยเข้าใจได้

แต่พอมาประเด็น…ร้านค้าเล็ก หรือร้านโชห่วย ที่มีสินค้าขายหลากหลาย และในนั้น…มีสินค้าในกลุ่ม “8 สินค้าต้องห้าม” โดยเฉพาะ เหล้า เบียร์ บุหรี่ น้ำมันบรรจุขวด อาหาร ล็อตเตอรี่ วางขายรวมกับสินค้ากลุ่มอื่นๆ

ยังจะให้ขายกันได้อยู่หรือไม่?

เท่าที่ฟัง… “2 รมช.คลัง” ทั้ง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล ให้สัมภาษณ์นักข่าว แม้กระทั่ง ล่าสุด ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อช่วงสายวันนี้ (11 มี.ค.)

สังคมไทยยังคงสับสน???

ดูเหมือน…หากเป็นร้านค้าเล็ก และ/หรือ ร้านโชห่วย สามารถจะขายสินค้าในกลุ่ม “8 สินค้าต้องห้าม” ได้

คำถามคือ ได้จริงหรือไม่?

เรื่องที่รัฐบาล โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เคยแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ว่าจะแจกเงินหมื่นผ่านระบบ “ดิจิทัล วอลเลต” แต่เอาเข้าจริง การแจกใน 2 เฟสแรก คือ แจกให้กับ กลุ่มผู้ถือบัตรคนจน และกลุ่มคนพิการกว่า 14 ล้านคน และเฟส 2 คนอายุ 60 ปีอัพ อีกกว่า 3 ล้านคน นั้น

ล้วนแจกเป็นเงินสด โอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกติดกับเลขบัตรประชาชน

สรุป! แจกให้คนราว 18 ล้านคนเป็นเงินสด ไม่ใช่จ่ายผ่านระบบ “ดิจิทัล วอลเลต” แถมการใช้จ่าย ก็แตกต่างอย่างสิ้นเชิง! กับสิ่งที่รัฐบาลเคยแถลงเอาไว้ต่อรัฐสภา

มารอบนี้ ยังพูดไม่ชัด! สุดท้าย…จะห้ามหรือไม่ห้าม? การซื้อ/ขายใน “8 สินค้าต้องห้าม” ผ่าน ร้านค้าเล็ก และ/หรือ ร้านโชห่วย

ก็ไม่แปลกใจหาก ฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยเฉพาะ “นายกฯแพทองธาร” ถึงประเด็นความเบี่ยงเบนจากสิ่งที่เคยแถลงนโยบายเอาไว้

ชนิดสุดขั้วและสุดมั่ว!!!

นี่ยังไม่พูดถึงว่า…โครงการแจกเงินหมื่นที่กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้ตามที่แถลงโม้เอาไว้อย่างมากมาย จะขัดกับแผนยุทธศาสตร์ 20 ปีหรือไม่?

หาก ฝ่ายค้านสามารถจะเชื่อมโยงและชี้ให้เห็นประเด็นความผิดพลาดในการบริหารราชการ และดำเนินนโยบายที่ผิดพลาด ขัดกับสิ่งที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา รวมถึงขัดแย้งกับแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี ได้แล้วล่ะก็

นึกไม่ออกเหมือนกันว่า…ชะตากรรมของ “รัฐบาลแพทองธาร” จะเป็นเช่นใด?