น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ จะเดินทางกลับจาก สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงประเทศไทย ในวันนี้ (8 กุมภาพันธ์ 2568) ก่อนหน้านั้น 1 วัน เป็น พรรคฝ่ายค้าน นำโดย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะ “ผู้นำฝ่ายค้าน” ในสภาผู้แทนราษฎร ได้แถลงข่าว ภายหลังนัดหมายประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อเตรียมการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151

ดีเดย์! 27 กุมภาพันธ์ 2568 หรืออีกไม่ถึง 20 วันข้างหน้านี้เอง ส่วนจะได้ 5 วันอย่างที่ พรรคประชาชน คาดหวังเอาไว้หรือไม่นั้น? อีกเดี๋ยว…คงจะได้รู้

แต่อย่างที่รู้ๆ กัน แทบไม่เคยครั้งไหน? ที่ พรรคฝ่ายค้าน…เปิดศึกซักฟอก งัดสารพัดข้อมูล “ลับลวงพราง” ออกมาแฉ แล้วทำให้รัฐบาลยอม “ยกธงขาว” ประกาศยุบสภาฯกันไป

จะมีก็แต่…พรรคร่วมรัฐบาล “เล่นกันเอง” และสิ่งนี้…ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต

ครั้งนี้ก็เช่นกัน การจะเปิดแผล “รัฐบาลแพทองธาร” ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งจะมีขึ้นในเร็วๆ นี้ บรรดา “คอการเมือง” ต่างเชื่อขนมกินล่วงหน้ากันไปแล้ว ทำนอง…

อิมพอสซิเบิ้ล…ไม่มีทางเป็นไปได้!!!

แต่บนเส้นทางความเป็นไปไม่ได้นั้น ก็ไม่แน่ว่า…ภาพลักษณ์ของ “รัฐบาลแพทองธาร” และองคาพยพรอบข้างกายของ น.ส.แพทองธาร จะยังบริสุทธิผุดผ่องกันต่อไปได้

ลองฝ่ายค้าน…ที่มีแกนนำคือ พรรคประชาชน ซึ่งเคยฝากผลงานอันเลื่องชื่อในอดีต นับแต่…ยุคพรรคอนาคตใหม่ จนถึงพรรคก้าวไกล ย่อมการันตีได้ว่า…

ชักกระบี่ย่อมมีเลือดศัตรูอาบ! ฉันใดก็ฉันนั้น

งั้นเรา…ลองไปสำรวจดูแนวคิดของ แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน กันดูบ้าง…

งานนี้…“เดอะเท้ง” นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ตนยืนยันในหลักการในการทำงานร่วมกันของฝ่ายค้าน ที่จะยึดมั่นเคารพหลักการและอุดมการณ์ของแต่ละพรรคที่แตกต่างกันได้ แต่ความเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านแตกต่างกับการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งจุดนี้…สิ่งที่พวกเราทำในกลไกการทำงานผ่าน คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เพื่อตรวจสอบและถ่วงดุลรัฐบาล

โดยขณะนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ทำการตกลงกันถึงเนื้อหาในการอภิปรายแล้ว เนื่องจากแต่ละพรรคมีเนื้อหาที่มีความเข้มข้น จึงมอบหมายให้ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒนสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ในฐานะ “ประธานวิปฝ่ายค้าน” เป็นผู้ประสานงานเจรจาเบื้องต้นกับฝ่ายรัฐบาลว่า จะขอเวลาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจไว้ที่ 5 วัน โดยหวังงว่ารัฐบาลจะไม่จะปิดกั้นการตรวจสอบถ่วงดุลจากพรรคฝ่ายค้าน เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน

“ช่วงเวลาครึ่งเทอมที่ผ่านมาของการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลชุดนี้ ต้องยอมรับข้อเท็จจริงว่าไม่ใช่เฉพาะรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพียงเท่านั้น แต่เป็นการบริหารราชการแผ่นดินที่ต่อเนื่องตั้งแต่รัฐบาลของพรรคเพื่อไทย” นายณัฐวุฒิ ระบุและย้ำว่า…

มีหลายประเด็นที่เราได้หารือร่วมกันแล้วพบว่า รัฐบาลชุดนี้บริหารราชการแผ่นดินขาดประสิทธิภาพ ปล่อยปละละเลยปัญหาสังคมในหลายเรื่อง รวมถึงประเด็นที่ส่อเค้าจะมีผลประโยชน์ทับซ้อน การบริหารราชการแผ่นดินที่ไม่ได้เป็นไปตามธรรมาภิบาลของระบอบประชาธิปไตย ที่ผู้มีอำนาจในรัฐบาลควรจะต้องถูกตรวจสอบถ่วงดุล และชี้แจงได้ในระบบรัฐสภา แต่ส่วนในรายละเอียดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนอาจจะยังเปิดเผยมากไม่ได้

“พวกเราคิดว่าหากมีประเด็นเนื้อหาใดที่ประชาชนรวมถึงส่วนราชการ มีข้อมูลเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชั่นภายในรัฐบาล เราก็พร้อมเปิดกว้าง และสามารถส่งมาให้พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ทุกพรรค” แกนนำฝ่ายค้าน ย้ำ

เท่าที่ฟัง พรรคร่วมฝ่ายค้าน แถลงข่าว มีโอกาสสูงที่งานนี้ จะพาดพิงไปถึง “คนนอกสภา” โดยเฉพาะคนที่ประกาศตนเป็น “สทร.” อย่าง…นายทักษิณ ชินวัตร “พ่อของนายกฯแพทองธาร”

เช่นกัน รัฐมนตรีบางคน? ใน “รัฐบาลแพทองธาร” ก็อยู่ในข่ายถูกซักฟอกด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะ “เจ้ากระทรวงใหญ่ๆ” ที่มีงบประมาณเยอะๆ และอยู่ในข่าย “ต้องสงสัย?” ว่า…อาจมีเอี่ยวในพฤติการณ์ที่จะเข้าข่ายทุจริต หรือมีผลประโยชน์ทับซ้อน  

ทั้งนี้ เป้าหมายสูงสุดของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ…รอบนี้ นายณัฐพงษ์ ระบุว่า มันคือการตีแผ่ความจริงให้ประชาชนได้เห็นว่าการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลชุดนี้ ขาดความชอบธรรมอย่างไร? สิ่งนี้…จะสะท้อนไปถึงการบริหารราชการแผ่นดิน ที่ทำให้ปัญหาของประชาชนไม่ได้รับการแก้ไขด้วย

เอาแค่เบาะๆ ก็พอจะ เรียกแขก…เรียกน้ำย่อยกันได้บ้าง?

ส่วนวันจริง…งานจะดี มีข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ พอจะเล่นงาน รัฐบาล, นายกฯแพทองธาร หรือ รัฐมนตรีคนใด? ได้หรือไม่? อีกไม่กี่วัน…คงได้รู้กันชัดๆ!!!.