TDRI ชงรัฐบาล4ข้อ ปรับโครงสร้างภาษี แนะทยอยขึ้น VAT ครั้งละ 1%
เปิด 4 ข้อเสนอ “TDRI” ปรับโครงสร้างภาษี แนะทยอยขึ้น VAT ครั้งละ 1% ถึงเพดาน 10% ใน 5 ปี ชี้ภาษีเงินได้ไม่ควรเป็น flat rate ไม่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ จี้เก็บภาษีบนฐานทรัพย์สิน
จากกรณีที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวถึงแผนการปรับโครงสร้างภาษี เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ประกอบด้วย
1.การปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ตาม Global Minimum Tax (GMT) ที่อัตรา 15% จากปัจจุบันไทยเก็บอยู่ที่ 20%
2.ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพื่อจูงใจการทำงานในประเทศไทย อาจมีการพิจารณาจาก 35% เหลือ 15%
และ 3.ปรับเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หรือภาษีบริโภค ซึ่งทั่วโลกมีการเก็บอยู่ที่อัตราระหว่าง 15-25% ในขณะที่ไทยเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% จากอัตราที่กำหนดไว้ 10%
ด้าน ดร.สมชัย จิตสุชน ผู้อํานวยการวิจัยด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ได้แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Somchai Jitsuchon ในประเด็นมาตรการภาษีดังกล่าว 4 ข้อ ได้แก่
1.การปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ควรเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปโดยไม่ประกาศล่วงหน้า เช่น ขึ้น 1% ก่อนแล้วหาจังหวะในอนาคตขึ้นทีละ 1% แต่ไม่ประกาศล่วงหน้า เพราะอาจทำให้เกิดการคาดการณ์เงินเฟ้อ (inflation expectation) โดยมีเป้าให้เพิ่มขึ้นถึง 10% ภายใน 5 ปี
2.ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่ควรเก็บเป็นอัตรา flat rate เนื่องจากจะไม่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำระหว่างผู้มีรายได้สูง-ต่ำ รวมทั้งควรพิจารณาลดการใช้มาตรการลดหย่อนภาษีที่ให้ประโยชน์กลุ่มรายได้สูง ขณะที่การคิดภาษีเงินได้จากดอกเบี้ยและปันผลอาจพิจารณาเป็น flat rate เพื่อง่ายต่อการคำนวณ
3.หากพิจารณาปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็น 15% จากปัจจุบัน 20% ควรยกเลิกสิทธิประโยชน์จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อดึงดูดการลงทุนจากทุกอุตสาหกรรมอย่างเท่าเทียม แล้วเปลี่ยนเป็นการใช้มาตรการในด้านอื่นๆ อาทิ การพัฒนาทักษะแรงงาน และการลดกฎระเบียบที่ไม่จำเป็น เพื่อลดการรับเงินใต้โต๊ะอีกด้วย
4.การพิจารณาเก็บภาษีบนฐานทรัพย์สิน เช่น Capital Gain, Windfall Tax
นอกจากนั้น ดร.สมชัย ยังระบุด้วยว่า “ที่สำคัญคืออย่าลืมเก็บภาษีบนฐานทรัพย์สิน ด้วยนะจ๊ะ (กินยาไรไปถึงลืมได้อ่ะ)”
“ข้อเสนอเรื่องภาษีของ รมต. คลัง ในภาพรวมนั้นจำเป็นเพราะรายได้ภาษีไทยต่ำไปมาก แต่ในรายละเอียดต้องปรับอีกเยอะ ที่สำคัญเหมือนท่านจะลืมแหล่งรายได้ภาษีที่สำคัญและควรจัดเก็บเพิ่มขึ้นอย่างมากคือภาษีจากฐานทรัพย์สิน ไม่ทราบทำไมถึง ‘ลืม’ ได้นะครับ” ดร.สมชัย ระบุ.
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงเสียงวิพากย์วิจารณ์แนวคิดการปรับโครงสร้างภาษี ในส่วนของภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือVAT จากเดิม 7% เป็น 15% ว่า รัฐบาลพยายามดูอยู่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงในเรื่องนี้ ก็รอให้สรุปชัดเจนก่อน ขณะนี้อยู่ในกระบวนการทำ ต้องคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเราประคองมาระยะหนึ่งแล้ว ต้องดูว่าจะเป็นไปต่อหรือไม่อย่างไร
เมื่อถามว่า สาเหตุที่ต้องขึ้นเป็นเพราะรัฐบาลถังแตกจากโครงการแจกเงินหมื่นใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับถังแตกหรือไม่ ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการที่ควร เพื่อให้การจัดการภาษีเกิดความยุติธรรมกับทุกฝ่าย นับเป็นหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับทุกส่วน กระทรวงการคลังต้องไปดู แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือ ทำอย่างไรไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน
นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปถามนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ท่านมีข้อมูลอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ ครม. ยังไม่ทราบรายละเอียด เพราะยังไม่ได้นำเข้าที่ประชุม แต่เชื่อว่าเมื่อนายพิชัย พร้อมและตัดสินใจได้ คงมีการชี้แจงที่ชัดเจน ยืนยันว่ารัฐบาลและน.ส.แพทองธาร คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน จะทำให้มีความเดือดร้อนน้อยที่สุด.