“รมช.คลัง” แจงแจกเงินหมื่นเฟส 2 ให้คนอายุ 60 ปี ต้องนำหารือในเวทีประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจก่อน มั่นใจ! GDP ไทยในไตรมาส 4/2567 โตเกินคาด วิ่งระหว่าง 4.3 – 4.4% แน่!

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึง เศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้ายปี 2567 ว่า ดีเกินคาด จากการประเมินล่าสุดเชื่อว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของไทย จะขยายตัวอยู่ในช่วงระหว่าง 4.3 – 4.4% โดยไม่ต้องปรับคาดการณ์ GDP ใหม่ เพราะอยู่ในช่วงประเมินตามกรอบเดิม เนื่องจากการบริโภคได้ปรับตัวดีขึ้น โดยในภาคอุตสาหกรรม ตัวเลขการผลิตรถจักรยานยนต์ดีขึ้น การส่งออกปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะการแจกเงิน 1 หมื่นบาทเฟส 1 แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและกลุ่มผู้เปราะบางในช่วงที่ผ่านมา สามารถจะกระจายเม็ดเงินลงไปสู่ระบบเศรษฐกิจ

“ถือว่าไตรมาสที่ 4/2567 โตขึ้นเยอะกว่าไตรมาส 3/2567 ที่โตอยู่ที่ 2.6% ซึ่งขณะนั้น หลายพื้นที่ยังคงประสบปัญหาน้ำท่วม และการเมืองก็ไม่นิ่ง มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล แต่ในช่วงไตรมาสสุดท้าย ถือเป็นช่วงที่ประชาชนจะออกมาจับจ่ายใช้สอย อีกทั้งโครงการดิจิทัลวอลเลตก็ส่งผลอย่างมากในการกระจายเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจ ส่วนเรื่องที่ว่าไตรมาสแรกปี 2568 จะโตได้ถึง 5% หรือไม่ต้องมองบริบทต่างๆที่เกี่ยวข้องหลายอย่าง ซึ่งต้องมองกันต่อไป” รมช.คลัง ระบุ

ส่วน ความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเลต เฟส 2 ซึ่ง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นพูดบนเวทีหาเสียงเลือกตั้ง อบจ.จังหวัดอุดรธานี โดยระบุว่า จะมีการแจกเงินดิจิทัลฯ เฟส2 ให้ผู้มีอายุ 60 ปีด้วย นั้น นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อน ซึ่งต้องพิจารณาต่างๆ ให้ครอบคลุม การจะให้สิทธิ์ผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอพทางรัฐไว้ทั้งหมด ทั้งนี้ ไม่มีรัฐบาลไหนยืนอยู่ได้ด้วยมุมมองระยะสั้น ต้องมีมุมมองในการกำหนดมาตรการระยะสั้น ระยะกลางและยาว ซึ่งกระทรวงการคลังมีมุมมองในการดึงเม็ดเงินลงทุนใหม่จากต่างประเทศ และวางแนวทางให้กรมธนารักษ์นำที่ราชพัสดุออกมาให้ภาคเอกชนเช่าดำเนินการ.