จับตาปลายฝนต้นหนาวนี้ ‘เสี่ยง-ไม่เสี่ยงยุบพรรค’ เหตุถูกครอบงำ ชี้! ถึงขั้น “นายกฯหยุดปฏิบัติงาน!”
อดีตคนกันเอง “จตุพร พรหมพันธุ์” ชี้! ปลาย ต.ค.-ต้น พ.ย. เป็นภาวะเสี่ยงของ “รัฐบาลแพทองธาร – พรรคเพื่อไทย” ระบุ! “นายกฯอิ๊ง” ถึงขั้นหยุดปฏิบัติหน้าที่ เหตุจาก 2 ใน 6 ข้อกล่าว “ชั้น 14 + ครอบงำพรรคฯ” ด้าน แกนนำเพื่อไทย “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” ไม่หวั่นปม กกต.รับคำร้องยุบ 6 พรรคร่วมฯ มั่นใจตอบได้ทุกข้อสงสัย ย้ำ! ทีมกฎหมายของ “ชูศักดิ์ ศิรินิล” รับมือไหว
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ประเมินสถานการณ์ของ “รัฐบาลแพทองธาร” และพรรคเพื่อไทย ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ส่วนตัว โดยประเมินว่า ในช่วงปลายตุลาคมต่อเนื่องถึงต้นพฤศจิกายน 2567 มีแนวโน้มสถานการณ์เปราะบางทั้งรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย อันเป็นผลมาจากการที่ศาลรัฐธรรมนูญจะได้คำร้อง 6 ประเด็นกล่าวหา อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยล้มล้างการปกครอง ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งอาจส่งผลวิกฤตถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กระทั่งต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยเฉพาะ 2 ประเด็นใหญ่ จากข้อกล่าวหาทั้งหมด กล่าวคือ กรณีการเข้าพักรักษาบนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ และการครอบงำ ครอบครองพรรคการเมืองของ อดีตนายกฯทักษิณ แม้ก่อนหน้านี้ แกนนำพรรคเพื่อไทยล้วนปรามาสว่า เป็นเรื่องเบาหวิว แต่ขณะนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุคำร้องการครอบงำพรรคเพื่อไทยมีมูล และจะพิจารณาเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการ กกต.ชุดใหญ่
กรณีดังกล่าว นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระบุว่า แม้ กกต. จะรับคำร้องยุบพรรคเพื่อไทย และ 6 พรรคร่วมรัฐบาล ยินยอมให้ อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร สอดคล้องกับที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความ ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ แต่พรรคเพื่อไทยไม่ได้กังวล หากดูจากรายละเอียดที่ถูกกล่าวหาแล้วไม่ตรงกับข้อเท็จจริง พรรคจึงไม่หนักใจ อย่างไรก็ตาม พรรคฯเองก็ต้องมี “ทีมกฎหมาย” ภายใต้การนำของ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าทีม ที่คอยแก้ต่างข้อกล่าวหาข้างต้น
ส่วนกรณี กกต.รับคำร้อง จากเหตุการณ์ที่แกนนำของ 6 พรรคร่วมรัฐบาล เดินทางไปยังบ้านจันทร์ส่องหล้าและร่วมวงรับประทานอาหาร อาจทำให้พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดถูกยุบไปด้วย นั้น นายประเสริฐ ระบุว่า ตรงนี้สามารถชี้แจงได้อยู่แล้ว พร้อมยอมรับว่ามีการพูดคุยกันภายในพรรคร่วมรัฐบาลต่อประเด็นดังกล่าว และทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทยมีการเตรียมชี้แจงไว้แล้ว ส่วนเรื่องที่นักการเมืองเจอกัน คงหนีไม่พ้นที่จะคุยเรื่องการเมือง การบริหารประเทศ และปัญหาของประชาชน โดยย้ำว่าผู้สื่อข่าวว่า “อย่าคิดมากว่าจะไปคุยกันเรื่องลับ หรือเรื่องอะไร”.