“โฆษกกรมสรรพสามิต” แจงแผนเดินหน้าปราบปรามสินค้าออนไลน์หนีภาษี เผย! จนท.กรมฯ ใช้เทคโนโลยีไอที สืบสวนเชิงลึก พบการกระทำผิดบน “แพลตฟอร์มออนไลน์” ชื่อดัง ก่อนวางแผนรวบผู้กระทำผิด พร้อมน้ำหอมหนีภาษีของกลางเกือบ 1 แสนขวด ค่าปรับกว่า 19 ล้านบาท

ดร.นิตยา โสรีกุล รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะ โฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการศูนย์ปราบปรามสินค้าออนไลน์ กรมสรรพสามิต (Excise Online Suppression Center) ได้เข้าตรวจค้นและจับกุม น้ำหอมต่างประเทศผิดกฎหมาย จำนวน 96,120 ขวด พร้อมผู้ต้องหา 1 ราย ได้ที่โกดังสินค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.บางพลีใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังสืบสวนพบการกระทำผิด โดย ผู้ต้องหาได้นำน้ำหอมต่างประเทศผิดกฎหมายดังกล่าวไปจำหน่ายบนแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์ชื่อดังแห่งหนึ่ง จนนำไปสู่การจับกุมในที่สุด

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สรรพสามิตแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 203 มีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษี และมาตรา 204 มีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษี แห่ง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 ประมาณการค่าปรับ 19,137,640 บาท ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว เพื่อดำเนินคดีต่อไป

โฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวอีกว่า การจับน้ำหอมต่างประเทศมิชอบด้วยกฎหมายสรรพสามิตล็อตใหญ่ครั้งนี้ เป็นผลจากการที่กรมสรรพสามิตได้ดำเนินงานในเชิงรุก ด้วยศูนย์ปราบปรามสินค้าออนไลน์ (Excise Online Suppression Center) สืบค้นการกระทำผิดบนช่องทางออนไลน์ ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานตามนโยบายของ ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต ที่ให้ความสำคัญกับการปราบปราม ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการปราบปรามในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการสืบค้นช่องทางการกระทำความผิดรูปแบบใหม่ จนถึงการบูรณาการการทำงานร่วมกัน ทั้งหน่วยงานภายในองค์กร และหน่วยงานภายนอกองค์กร เพื่อจับกุมขบวนการผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าหนีภาษีหลุดลอด เพราะอาจเป็นสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย จนอาจส่งผลต่อความสุขภาพของพี่น้องประชาชน อีกทั้งยังสร้างความเสียหายต่อผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริต และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ 

อนึ่ง หากประชาชนท่านใดทราบเบาะแสหรือพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิต สามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสายด่วน 1713 หรือตรวจสอบและสแกน QR Code ที่แสดงบนแสตมป์สรรพสามิต เพื่อแจ้งเบาะแสได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออีเมล์ excise_hotline@excise.go.th.