“ซีพี ออลล์ – เซเว่น อีเลฟเว่น” โดนอีกแล้ว! รอบใหม่นี้ กลุ่มมิจฉาชีพ เล่นใหญ่…มาในรูปแบบใหม่ แอบใช้เอกสารปลอมของบริษัทหลอกลวงประชาชน เตือน! อย่าได้หลงเชื่อ ไม่แน่ใจเช็คข้อมูลได้ทางเฟซบุ๊กทางการของบริษัท (www.facebook.com/cpall7) แนะอย่าดูดาย หากสงสัย แจ้งตำรวจไซเบอร์ ช่วยอีกแรง!

เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ มักมาพร้อมกับกลโกงที่ก้าวหน้าเสมอ!!!

แล้วประชาชนคนทำมาหากินอย่างเราๆ จะเท่าทันเล่ห์เหลี่ยมและกลโกงเหล่านี้…ได้แค่ไหนกัน?

ขบวนการ “กลฉ้อฉลออนไลน์” ที่เกิดขึ้นและเติบใหญ่มากขึ้นทุกขณะในทุกวันนี้ แม้จะสืบรู้ถึงตัวการที่อยู่เบื้องหลัง คือ “นักธุรกิจสีเทา/ดำ” ชาวต่างชาติ ที่ใช้ประเทศเพื่อนบ้านของไทยเป็นฐานบัญชาการ “กลฉ้อฉลออนไลน์” ทำการหลอกลวงสารพัด

กระนั้น การขจัดปัญหาที่ต้นทางก็ไม่ใช่เรื่องง่าย นั่นเพราะฐานบัญชาการอันเป็นที่มั่นสำคัญของขบวนการหลอกลวงออนไลน์ อยู่นอกเหนือเขตอำนาจของรัฐไทย

รูปแบบ “กลฉ้อฉลออนไลน์” ในปัจจุบัน มีมากมายหลากหลายรูปแบบ และ หน่วยงานภาครัฐของไทย ไม่ว่าจะเป็น…หน่วยงานปราบกลโกง เช่น สำนักงาน ป.ป.ช. ปปง. ป.ป.ป. ป.ป.ท. ฯลฯ หรือแม้แต่ “เรคกูเรเตอร์” อย่าง…กระทรวงการคลัง แบงก์ชาติ สำนักงาน กลต. และสำนักงาน คปภ.

แม้กระทั่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เอง ก็ไม่พ้นจะถูกแอบอ้างชื่อ เพื่อนำไปหลอกลวงต่อ กับ…นิติบุคคล และ/หรือ บุคคลที่ 3 จนกลายเป็นความเสียหายตามมาเป็นจำนวนมาก

หน่วยงานภาครัฐ ยังโดน!!! ประสานอะไรที่ บริษัทเอกชนขนาดใหญ่จะไม่ถูกแอบอ้างชื่อ เพื่อนำข้อมูลเท็จเหล่านั้น ไปทำการหลอกลวง “เหยื่อเป้าหมาย” ต่ออีกทอดหนึ่ง

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ ก็เป็นหนึ่งในนั้น และถูกกระทำเช่นนี้มาแล้วหลายครั้งหลายหน

ล่าสุด บมจ.ซีพี ออลล์ ได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชน โดยระบุว่า…

“บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) แจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังมิจฉาชีพที่แอบอ้างชื่อบริษัท ผู้บริหาร และเอกสารปลอมแปลงเกี่ยวกับบริษัทในรูปแบบต่างๆ โดยพบการปลอมแปลงเอกสารต่างๆ เช่น ใบเสนอสินค้า หนังสือรับรองการเป็นสมาชิกของบริษัท และเอกสารแจ้งเปลี่ยนเลขบัญชีหมุนเวียน เพื่อหลอกลวงและชักชวนให้หลงเชื่อทำให้เกิดความเสียหาย

ซีพี ออลล์ ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพ และโปรดตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนตัดสินใจใดๆ และจะดำเนินการตามกฎหมายสำหรับผู้ปลอมแปลงเอกสารและหลอกลวงประชาชนผ่าน Social Media ต่างๆ ให้ถึงที่สุด

ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเฟซบุ๊กทางการของบริษัท (www.facebook.com/cpall7)” 

ก่อนหน้านี้ บมจ.ซีพี ออลล์ ก็เคยตกเป็นเหยื่อให้ กลุ่มมิจฉาชีพ ได้ใช้แอบอ้าง…ชื่อและโลโก้ของบริษัท รวมถึง ชื่อของผู้บริหารระดับสูง มาแล้วหลายครั้ง และทุกครั้ง…ก็ต้องออกมาประกาศเตือนประชาชน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายตามมา…

ทว่าล่าสุด มิจฉาชีพกลุ่มนี้ พลิกแพลงกลโกงแบบใหม่ ด้วยการใช้ เอกสารปลอมแปลงที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ มาเพิ่มน้ำหนักความน่าเชื่อถือเข้าไปอีก และนั่น…จึงเป็นความจำเป็นที่ประชาชนจะต้องระมัดระวังตัวเองให้มากที่สุด!

กรณีของ บมจ.ซีพี ออลล์ นั้น นับเป็นความโชคดีที่บริษัทฯ สามารถจะรับรู้สภาพปัญหาและพยายามหาทางแก้ไขได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที ก่อนที่จะกลายเป็นความเสียหายตามมา ตรงนี้ “ยุทธศาสตร์ออนไลน์” ต้องขอชื่นชม

และจะชื่นชมมากกว่านี้ หากสามารถดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายอย่างจริงจังและลงลึกกับมิจฉาชีพกลุ่มนี้ได้

สำหรับ ประชาชนหรือบริษัทห้างร้านที่กำลังจะถูกหลอกลวง นั้น หากได้รับการติดต่อในเรื่องหนึ่งเรื่องใดด้วยการแอบอ้าง…ชื่อและโลโก้ของบริษัท ชื่อผู้บริหาร หรือเอกสารสำคัญ เกี่ยวกับ ใบเสนอสินค้า หนังสือรับรองการเป็นสมาชิกของบริษัท และเอกสารแจ้งเปลี่ยนเลขบัญชีหมุนเวียน มาเพื่อการติดต่อแล้วล่ะก็

ให้สงสัยและตั้งคำถาม “ตัวโตๆ” กับตัวเองเสียก่อนว่า “นี่มันเป็นเรื่องจริงหรือไม่?”

จากนั้น ทำตามคำแนะนำของ บมจ.ซีพี ออลล์ นั่นคือ…ทำการตรวจสอบหรือสอบถามข้อมูลทางเฟซบุ๊กทางการของบริษัท (www.facebook.com/cpall7) ในทันที!!!

และหากพบความผิดปกติเกิดขึ้น ได้โปรดช่วยกันบันทึกภาพและเสียงของคนร่วมขบวนการ “กลฉ้อฉล” เหล่านี้ ไม่ว่ามันจะมาในรูปแบบไหน?…จะส่งคนมาติดต่อ หรือติดต่อผ่านช่องทางออนไลน์ ก็ตาม

ข้อมูลเหล่านี้…ถือเป็น “หัวใจและหลักฐานชิ้นสำคัญ” ต่อการจะส่งต่อไปให้ “หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” ได้นำไปดำเนินการต่อ เพื่อเป้าหมายปลายทางในการ “กระชาก”หน้ากาก – กลโกงของเหล่ามิจฉาชีพ ที่ชอบ “หากินบนความเดือดร้อนของประชาชน” เหล่านี้ ต่อไป

หากพบเห็นพฤติกรรมผิดปกติ! ที่สงสัยว่า…มันอาจจะเข้าข่ายเป็น “กลฉ้อฉล – หลอกลวง” แล้วล่ะก็ ขออย่าได้ปล่อยผ่าน “นิ่งเฉย…ดูดาย” และทำตัวเป็นพวก “เตมีย์ใบ้” แต่จงช่วยส่งสารและกระจายข้อความ ภาพและเสียง รวมถึงหลักฐานการติดต่อประสานงานใดๆ ก็ตาม มาให้เจ้าหน้าที่รัฐ

นึกอะไรไม่ออก…ง่ายที่สุด ก็แจ้งไปยัง…ตำรวจไซเบอร์ โดย โทรสายด่วน 1441 หรือ 081-866-3000 หรือสามารถแจ้งความออนไลน์ได้ที่ https://thaipoliceonline.com

ซึ่งทาง พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ “โฆษกตำรวจไซเบอร์” ย้ำว่า…ณ ขณะนี้ ยังไม่มีช่องทางไลน์ทางการ มีเพียง แชทบอท @police1441 ไว้ปรึกษา คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งคอยให้บริการตอบคำถามประชาชน ตลอด 24 ชั่วโมง เท่านั้น.