คลังแจงช่วยแก้หนี้นอกระบบถึง 31 ก.ค.รวมแล้วกว่า 1.58 หมื่นราย 756 ล้านบาท

“โฆษกกระทรวงการคลัง” แจงผลการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบให้กับคนไทย เผย! ความช่วยเหลือของ 2 แบงก์รัฐ “ออมสิน – ธ.ก.ส.” ห้วง 1 ธ.ค.2566 – 31 ก.ค.2567 ช่วยแก้หนี้นอกระบบไปแล้วกว่า 15,855 ราย ยอดอนุมัติรวม 756.23 ล้านบาท พร้อมเปิดช่องเจ้าหนี้ “นิติบุคคล” เข้าอยู่ในระบบร่วมธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ สนใจดูข้อมูลการยื่นคำขออนุญาตได้ที่ www.1359.go.th หรือโทรสายด่วน 1359 ระบุ! อนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้กับรายย่อยรวมเฉียด 4.4 ล้านบัญชี วงเงินรวมกว่า  4.24 หมื่นล้านบาท แนะลูกหนี้นอกระบบ ติดต่อรับความ ณ จุดให้คำปรึกษาปัญหาหนี้นอกระบบจาก 2 แบงก์รัฐ ทุกสาขาทั่วประเทศ

นายพรชัย  ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะ โฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผย ความคืบหน้าของการดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของกระทรวงการคลัง ว่า ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ โดยได้แถลงนโยบายเพื่อยกระดับให้การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติ  เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 และได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเชิงรุกเพื่อต่อสู้กับปัญหาดังกล่าว 

ในส่วนของกระทรวงการคลังได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินผ่านมาตรการสินเชื่อต่าง ๆ ได้แก่ โครงการสินเชื่อธนาคารประชาชน สินเชื่อเพื่อชำระหนี้สินนอกระบบ และสินเชื่อกองทุนหมุนเวียนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ยากจน รวมถึงมาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือและรองรับลูกหนี้นอกระบบที่ลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566)

โดย ผลการดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินของสถาบันการเงินเฉพาะกิจทั้งสองแห่ง ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 – 31 กรกฎาคม 2567 มีประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบได้รับอนุมัติให้ความช่วยเหลือทางการเงินไปแล้วจำนวน 15,855 ราย ยอดอนุมัติรวมทั้งสิ้น 756.23 ล้านบาท โดยจำนวนประชาชนที่ได้รับความช่วยเหลือเพิ่มขึ้นจากวันที่ 17 กรกฎาคม 2567 จำนวน 836 ราย หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.57 และเป็นยอดอนุมัติที่เพิ่มขึ้น 41.85 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 5.86

สำหรับ เจ้าหนี้นอกระบบ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายที่ต้องการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างยั่งยืน ตามที่กล่าวข้างต้น กระทรวงการคลังได้ส่งเสริมให้มีการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) เพื่อเป็นช่องทางให้เจ้าหนี้นอกระบบสามารถเข้ามาประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบให้แก่ประชาชนรายย่อย โดย นิติบุคคล (บริษัทจำกัดหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด) ที่สนใจประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์สามารถดูข้อมูลการยื่นคำขออนุญาตได้ที่ www.1359.go.th หรือโทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ และขอรับคำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาหนี้นอกระบบเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1359

ในส่วนของผลการดำเนินการเกี่ยวกับ การออกใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ โดยกระทรวงการคลัง ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2567 มีนิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ และเปิดดำเนินการแล้วสะสมสุทธิ 1,142 ราย ใน 75 จังหวัด และ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2567 มีการอนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้กับประชาชนรายย่อยสะสมทั้งสิ้น 4,395,922 บัญชี รวมเป็นวงเงิน 42,495.81 ล้านบาท ซึ่งประชาชนที่สนใจขอกู้สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ทั้ง 75 จังหวัด ได้ที่ www.1359.go.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1359

สำหรับประชาชนที่มีหนี้นอกระบบสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ณ จุดให้คำปรึกษาปัญหาหนี้นอกระบบของธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามได้ที่ สายด่วนของธนาคารออมสิน โทร. 1115 และ สายด่วนของ ธ.ก.ส. โทร. 0 2555 0555 นอกจากนี้ สามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาและความช่วยเหลือโดยตรงจากหน่วยงานของภาครัฐผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สายด่วน 1599 ศูนย์ดำรงธรรม สายด่วน 1567 ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม โทร. 0 2575 3344 และศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สายด่วน 1359

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องได้จัดทำเว็บไซต์ www.รู้เรื่องเงิน.com เพื่อเป็นศูนย์รวมข้อมูลในการเสริมสร้างความรู้และทักษะบริหารจัดการเงิน รวมทั้งช่องทางแจ้งเบาะแสและติดต่อกับหน่วยงานภาครัฐโดยตรง ซึ่งทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงความรู้ทางการเงินได้อย่างสะดวกและรวดเร็วจากแหล่งเดียว ทั้งนี้ เว็บไซต์ดังกล่าวเหมาะสำหรับประชาชนทุกช่วงวัยตั้งแต่วัยเรียน วัยทำงานไปจนถึงวัยเกษียณ โดยสามารถค้นหาความรู้จากหัวข้อที่สนใจได้ อาทิเช่น การทำความรู้จักผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน ความรู้การเงินดิจิทัล สิทธิและหน้าที่ของคนไทยด้านการเงิน มาตรการทางการเงินของภาครัฐ แนวทางการลงทุนเพื่อรองรับการเกษียณสุข เป็นต้น ซึ่งจะเป็นการช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของประชาชนได้อีกทางหนึ่งด้วย.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password