ผจก.กยศ. จูงมือ อธิบดีกรมคุมประพฤติ และบอร์ดผู้ทรงคุณวุฒิ กยศ. เข้าพบ “เจ้ากรมพระธรรมนูญ” ชี้แจงกรณีอัตราดอกเบี้ยและเบี้ยปรับของผู้กู้ยืม เผย! ข่าวดังกล่าวคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง! ยืนยันคิดดอกเบี้ยเพียง 1% ขณะที่เบี้ยปรับคิดแค่ 0.5% เท่านั้น

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) พร้อมด้วย นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุมประพฤติ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ได้ร่วมเข้าพบ พลเอก พิสิษฐ์ นพเมือง เจ้ากรมพระธรรมนูญ และพลตรี นิติน ออรุ่งโรจน์ ตุลาการพระธรรมนูญหัวหน้าคณะฝ่ายศาลทหารสูงสุด เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่มีข่าวในการประชุมแก้ไขปัญหาหนี้สินเงินกู้แก่บุคลากรภาครัฐ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ว่า มีกำลังพลจำนวนหนึ่งมีหนี้ กยศ. ต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 18 นั้น กองทุนฯขอชี้แจงว่าเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เนื่องจากปัจจุบันกองทุนคิดอัตราดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 1 และคิดอัตราเบี้ยปรับกรณีผิดนัดชำระเพียงร้อยละ 0.5 ตามกฎหมายใหม่มาโดยตลอด

ผู้จัดการ กยศ. ย้ำว่า จากกรณีที่มีข่าวในการประชุมแก้ไขปัญหาหนี้สินเงินกู้แก่บุคลากรภาครัฐ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่ามีกำลังพลจำนวนหนึ่งมีหนี้สินค้างมาจาก กยศ. ตั้งแต่ก่อนเข้ามารับข้าราชการซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ที่ต้องเสียดอกเบี้ยร้อยละ 18 จึงขอให้รัฐบาลใช้อัตราดอกเบี้ยผิดนัดเหลือร้อยละ 0.5 ตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาฉบับใหม่ให้มีผลในทางปฏิบัติโดยเร็วที่สุดนั้น กองทุนฯขอชี้แจงว่าข้อมูลดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อน เนื่องจากปัจจุบันกองทุนฯคิดอัตราดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 1 และอัตราเบี้ยปรับกรณีผิดนัดชำระร้อยละ 0.5 ตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566

“กองทุนฯยังพร้อมให้ความช่วยเหลือแก่บุคลากรภาครัฐที่เป็นผู้กู้ยืมทุกราย โดยได้เปิดให้มีการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อให้ผู้กู้ยืมผ่อนชำระเงินคืนกองทุนฯเป็นรายเดือนในอัตราเท่ากันทุกเดือน ให้ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 15 ปี เมื่อชำระหนี้เสร็จสิ้นตามสัญญาให้ส่วนลดเบี้ยปรับ 100% และปลดภาระผู้ค้ำประกันหลังจากทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ โดยเงินที่ผู้กู้ยืมชำระคืนมาทุกบาทจะเป็นทุนหมุนเวียนเพื่อส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษารุ่นน้องต่อไป” นายชัยณรงค์ กล่าวในที่สุด.