กยศ.ชี้!  ‘5 นศ.คุกเข่าร่ำไห้’ รับเงินกู้ตามปกติ เผย! สถานศึกษาสกัดแผนตรวจสอบข้อมูลทุกทาง

กยศ. ลงพื้นที่สถานศึกษาพบนักศึกษามาคุกเข่าร่ำไห้วอนอย่าตัดเงินกู้ยืม เผยทั้ง 5 ราย ได้เงินกู้ตามปกติมาจนถึงปัจจุบัน ยืนยันไม่ได้ระงับการให้กู้ยืมเงิน แจ้งสถานศึกษาขอพบผู้กู้ จำนวน 517 ราย เพื่อตรวจสอบรายละเอียด แต่มาพบเพียง 5 ราย และจะไปพบนักศึกษาทุกศูนย์การเรียนรู้ วันนี้ยังอยู่ในพื้นที่รอพบนักศึกษาเพิ่มเติม โดยกองทุนพร้อมให้โอกาสทุกคน ย้ำนักศึกษาผู้กู้ยืมรายเก่าที่เคยที่ได้รับอนุมัติเงินกู้ยืมจะได้กู้ยืมเรียนจนจบการศึกษาอย่างแน่นอน

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า กองทุนฯได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินงานของสถานศึกษาแห่งหนึ่ง จากกรณีที่เป็นข่าวนักศึกษาร้องสื่อมวลชนเรื่องเงินกู้ยืม โดยมี นายบุญชวัฒน์ ปัญญาแดง ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ และสื่อมวลชนท้องถิ่นร่วมลงพื้นที่ แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปดูการเรียนการสอน ซึ่งก่อนหน้านี้ กองทุนฯได้มีหนังสือแจ้งสถานศึกษาเรื่องกำหนดการลงพื้นที่และขอพบนักศึกษาผู้ขอกู้ยืมจำนวน 517 ราย เพื่อตรวจสอบข้อมูล แต่ในวันที่นัดหมายดังกล่าวมีนักศึกษาเข้ามาพบเจ้าหน้าที่เพียง 5 ราย ตามภาพที่เป็นข่าว

จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบข้อมูลของนักศึกษา พบว่า ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ได้รับเงินกู้ยืมตามปกติมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ไม่ได้มีการตัดสิทธิ์หรือระงับการกู้ยืมแต่อย่างใด โดยในปีการศึกษา 2566 ภาคเรียนที่ 1 กองทุนฯได้โอนเงินค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพให้กับนักศึกษาทั้ง 5 รายแล้ว สำหรับภาคเรียนที่ 2 อยู่ระหว่างรอสถานศึกษานำส่งเอกสาร และยังมีบางรายที่ยังไม่ได้ยื่นแบบยืนยันการเบิกเงินในระบบ

สำหรับในวันนี้กองทุนฯยังอยู่ในพื้นที่เพื่อรอพบนักศึกษา และจะไปทุกศูนย์การเรียนรู้เพื่อจะได้ช่วยเหลือและชี้แจงในประเด็นที่นักศึกษามีข้อสงสัยเกี่ยวกับเงินกู้ยืมต่อไป ขอให้มั่นใจได้ว่าหากนักศึกษารายใดอยากเรียนต้องได้เรียน และขอยืนยันว่านักศึกษาผู้กู้ยืมรายเก่าที่เคยที่ได้รับอนุมัติเงินกู้ยืมจะได้กู้ยืมเรียนจนจบการศึกษาอย่างแน่นอน” ผู้จัดการกองทุนฯ กล่าวในที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม จากการติดตามคณะเจ้าหน้าที่ของ กยศ.ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินงานของสถานศึกษาดังกล่าว นั้น พบว่า ตัวแทนของสถานศึกษาข้างต้นไม่ค่อยจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของ กยศ.สักเท่าใด โดยอ้างกับสื่อมวลชนว่า เจ้าหน้าที่ของ กยศ.เดินทางมาแบบกระทันหันไม่ทันตั้งตัว โดยทำหนังสือและส่งมาให้กับสถานศึกษาใยวันที่ 9 มกราคมและนัดหมายมาเดินทางในวันที่ 11 มกราคม ซึ่งถือว่ากระชั้นชิดมาก อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของ กยศ.ยืนยันว่าได้มีการประสานงานก่อนหน้านี้มาตลอด การออกหนังสือเป็นเพียงการยืนยันถึงการเดินทางอย่างเป็นทางการเท่านั้น

โดยตัวแทนของสถานศึกษาดังกล่าวได้กลับขึ้นตัวอาคาร จากนั้นราว 15-20 นาที จึงได้นำนักศึกษาทั้ง 5 คน มาพบกับเจ้าหน้าที่ของ กยศ. กระทั่ง ปรากฏภาพ “คุกเข่า” พร้อมคำพูดในบางประโยคที่เหมือนนัดหมายกันมา หลังได้สัญญาณจากใครบางคน ตามที่ปรากฏเป็นข่าวก่อนหน้านี้

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า จากปฏิกิริยาของตัวแทนของสถานศึกษาดังกล่าว และพฤติกรรมของนักศึกษาทั้ง 5 คน รวมถึงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนท้องถิ่นบางคนที่แสดงอาการเหมือนจะข่มขู่เจ้าหน้าที่ของ กยศ. ทำให้ผู้สื่อข่าวจากส่วนกลาง และจากศูนย์ข่าวของสถานีโทรทัศน์อย่างน้อย 2 ช่องในภาคอีสาน เห็นตรงกันว่า เหมือนจะมีการเตรียมการ เพื่อประสานและทำงานอย่างสอดรับกันจนผิดสังเกตุ จนอดสงสัยไม่ได้ว่าภาพที่นักศึกษาทั้ง 5 คน พร้อมใจกันคุกเข่าและร้องขอโอกาสทางการศึกษา ทั้งที่ไม่ได้ถูกตัดสิทธิและได้รับเงินกู้ยืมมาอย่างต่อเนื่อง เป็นการวางแผนจัดฉากวางแผนทำลายชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของ กยศ.หรือไม่?

ประกอบกับการที่ตัวแทนของสถานศึกษาดังกล่าว ปฏิเสธจะให้ตัวแทน กยศ.และสื่อมวลชนไปดูการเรียนการสอน รวมถึงไม่ยอมนัดหมายให้นักศึกษาของสถาบันอีกกว่า 500 มาพบเจ้าหน้าที่ของ กยศ. และอื่นๆ นั้น เป็นการจงใจที่จะไม่ให้ความร่วมมือกับ กยศ.หรือไม่

ทั้งนี้ จากการลงพื้นพบว่า มีจำนวนนักศึกษาที่เข้ามาเรียนในสถานศึกษาแห่งนี้น้อยมาก ซึ่งจากการสอบถามผู้ค้าอาหารในปั้มน้ำมัน ปตท.ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 100-200 เมตร ได้รับข้อมูลว่า นักศึกษาที่นี่มีไม่มาก ส่วนใหญ่จะขี่รถจักรยานยนต์มารับประทานอาหารที่ร้านของตน กลุ่มละ 3-4 คน เฉลี่ยวันละประมาณ 2-3 กลุ่ม ทั้งนี้ โดยภาพรวมถือว่าสถานศึกษาแห่งมีจำนวนนักศึกษาที่เดินทางมาเข้าเรียนน้อยมากจนน่าใจหาย.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password