“ตร.ไซเบอร์” จับสาวแอบอ้าง “กรมที่ดิน” ตุ๋นติดตั้งแอปฯดูดเงิน ยึดเงินสดกว่า 2.7ล้าน

ตำรวจไซเบอร์ นำกำลังบุกจับสาวแอบอ้าง กรมที่ดิน หลอกเหยื่อติดตั้งแอปฯดูดเงิน พร้อมของกลางเงินสดกว่า 2.7 ล้านบาท ด้าน ผู้เสียหาย เผยเหตุทำหลงเชื่อ

วันที่ 17 ต.ค.2566 เวลา 11.30 น. ที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2 และ นายวสันต์ สุภาภา รองอธิบดีกรมที่ดิน แถลงผลจับกุมขบวนการหลอกผู้เสียหายถูกหลอกติดตั้งแอปพลิเคชันดูดเงิน อ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน สูญเงินในบัญชี รวมกว่า 2.13 ล้านบาท

พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า คดีนี้เป็นลักษณะของคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี คดีหลอกลวงให้ติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบในเครื่องโทรศัพท์ จากการตรวจสอบพบว่า เงินของผู้เสียหายได้ถูกยักย้ายถ่ายโอนไปยังบัญชีธนาคารของกลุ่มคนร้ายกว่า 4 บัญชี ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 5 นาที ส่วนในครั้งที่ 2 จำนวน 7 บัญชี ใช้เวลาประมาณ 11 นาที สูญเงินทั้งหมดประมาณ 2,130,000 บาท

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับกลุ่มขบวนการผู้ต้องหาทั้งสิ้น 10 ราย ในความผิด ร่วมกันลักทรัพย์ ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรจะรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือหรือความผิดอาญาอื่นใด”

โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ 8 ราย และอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัว 2 ราย ประกอบด้วย 1.น.ส.ภัทรวรรณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี 2.น.ส.จันติมา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี 3.น.ส.ศิรินทร์ทิพย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี 4.น.ส.พรศรี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี 5.นายวิชิต (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี

6.น.ส.รจนา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี 7.นายอาทิตย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี 8.นายธนากร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี 9.น.ส.วิชุตา (ขอสงวนนามสกุล) (อยู่ระหว่างติดตามจับกุม) 10.Miss A NITA สัญชาติกัมพูชา (อยู่ระหว่างติดตามจับกุม) ขณะจับกุมตัว น.ส.ภัทรวรรณ เจ้าหน้าที่ตํารวจยังสามารถตรวจยึดทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้มาจากการหลอกลวงเหยื่อ เป็นเงินสดรวมทั้งสิ้น 2,679,000 บาท พร้อมโทรศัพท์ 1 เครื่อง

ด้าน นายวสันต์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อกรมที่ดิน หลอกลวง 3 รูปแบบ ได้แก่ ปลอมแปลงหนังสือราชการ สร้างทำเว็บไซต์กรมที่ดินปลอม ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน และ โทรศัพท์หลอกลวงในรูปแบบต่างกัน เช่น เรื่องการจัดเก็บภาษีที่ดิน เรื่องการรังวัดที่ดิน ฯลฯ โดยจะหลอกให้เพิ่มเพื่อนผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ และให้กรอกข้อมูลส่วนตัว หรือสแกนใบหน้าเพื่อนำข้อมูลของผู้เสียหายไปใช้ในทางมิชอบ

ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำว่า กรมที่ดิน ไม่โทรหา ไม่ขอแอดไลน์ ไม่มีหน้าที่เก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และไม่มีหน้าที่อัปเดตข้อมูลอาคารชุด/หมู่บ้านจัดสรร หรือบริการธุรกรรมทางโทรศัพท์ หากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิดหรือมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานที่ดินทุกแห่งทั่วประเทศ หรือ Call Center กรมที่ดิน 0 2141 5555

น.ส.ชนกณัฐพิชญา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ถูกมิจฉาชีพโทรศัพท์อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน โดยปลายสายได้สอบถามถึงเรื่องภาษีที่ดินของตนเอง และแจ้งว่าจะต้องชำระค่าภาษีที่ดินที่ยังไม่มีการชำระ ก่อนที่จะส่งลิงก์ข้อมูลให้เข้าไปตรวจสอบ โดยระหว่างนั้นได้หลอกถามข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดถึงหมายเลขบัญชีธนาคารของตนเองจึงหลงเชื่อบอกข้อมูลไปและติดตั้งแอปพลิเคชันในโทรศัพท์ พร้อมทั้งดำเนินการตามกลวิธีต่าง ที่คนร้ายบอก กระทั่งรู้ตัวอีกทีว่าโทรศัพท์ของตนเองไม่สามารถใช้การได้ และเงินถูกโอนออกจากบัญชีธนาคารไป อย่างไรก็ตามขอบคุณตำรวจที่จับกุมคนร้ายและนำเงินมาคืนให้กับตน โดยคิดว่าจะไม่ได้คืนแล้ว.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password