กรมศุลกากร แจงข้อเท็จจริง! หลังยึดซาก “สุกร-ไก่”ล็อตใหญ่ นำเข้าผิดกฎหมาย

อธิบดีกรมศุลกากร แจง หลังจับกุม ซาก “เนื้อสุกร-ขาไก่” ล็อตใหญ่ 128,400 กก. มูลค่ากว่า 22 ล้านบาท ชี้ ไม่มีเอกสารนำเข้าถูกต้อง สั่งยึดตรวจสอบที่ พร้อมตั้ง กก.สอบ ปมกระแสข่าว จนท.มีเอี่ยวทุจริต

วันที่ 31 ส.ค. 2566 นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวถึงกรณีที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าววานนี้ (30 ส.ค.)โดย มีการนำเอกสารหลักฐาน การนำเข้าซากสัตว์ 4 ตู้คอนเทนเนอร์ แจ้งความดำเนินคดีที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ให้ดำเนินการตรวจสอบผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หลังพบหลักฐานจากการเข้าตรวจค้นห้องเย็น ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2565 โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) พบการสำแดงเอกสารอันเป็นเท็จโดยสำแดงเป็นเม็ดพลาสติก แต่ภายในเป็นเนื้อสุกรแช่แข็ง ถูกนำเข้ามาจากต่างประเทศโดยผิดกฎหมาย และไม่ผ่านการเสียภาษีศุลกากร นั้น

กรมศุลกากร ขอชี้แจงว่า สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2565 เจ้าหน้าที่ กรมศุลกากร ได้ขอหมายค้นของศาล จ.สมุทรสาคร ตรวจค้นห้องเย็นในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร โดยเป็นการสนธิกำลังร่วมกัน ระหว่าง เจ้าหน้าที่ศุลกากร เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคบ. ผลการตรวจค้น พบซากสัตว์แช่แข็ง (เนื้อสุกรและขาไก่) นำเข้าจากต่างประเทศ 128,400 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 22 ล้านบาท ภายในห้องเย็น และ บางส่วนบรรทุกอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ บน รถยนต์บรรทุกพ่วงคันดังกล่าว โดยไม่มีเอกสารหลักฐานการผ่านพิธีการศุลกากร ไม่มีใบอนุญาตให้นำ หรือ เคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ภายใน เข้าใน หรือออกนอกเขตโรคระบาด เขตโรคระบาดชั่วคราว หรือเขตเฝ้าระวังโรคระบาด (ร.3) และไม่มีใบอนุญาตนำเข้า ส่งออก หรือ นำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์ ที่ต้องได้รับใบอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ (ร.6 และ ร.7) มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งได้ยึดของกลางทั้งหมดดำเนินคดีตามกฎหมาย

กรมศุลกากร ขอให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายศุลกากร และ พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการสอบสวนและขยายผล

ส่วนกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่า เจ้าหน้าที่ศุลกากร เกี่ยวข้องกับการนำเข้าหมูเถื่อนนั้น กรมศุลกากร ได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่ามีเจ้าหน้าที่ผู้ใดปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต หรือปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง หรือกระทำให้เกิดความเสียหายต่อราชการหรือไม่ ทั้งนี้ กรมศุลกากรได้ดำเนินการตามกรอบอำนาจหน้าที่และขั้นตอนของกฎหมายแล้ว

อธิบดีกรมศุลกากร ยืนยันว่า กรมศุลกากรยังคงให้ความสำคัญในการจับกุมผู้ที่ลักลอบนำเนื้อสุกรและชิ้นส่วนสุกรมีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายในราชอาณาจักรไทยอย่างต่อเนื่องในทุกกรณี เพื่อให้ประชาชนปลอดภัยจากสารปนเปื้อนและเชื้อ ASF อีกทั้ง ยังเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรไทยว่าสินค้าสุกรจะดำเนินไปตามกลไกทางการตลาดอย่างแท้จริง.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password