กรมศุลฯผุดหน่วยสุนัขตรวจจับแก๊งค้ายานรก-วัตถุอันตราย

กรมศุลกากรตั้งหน่วยสุนัขดมกลิ่น! รับมือแก๊งค้ายาเสพติดและลักลอบนำเข้าวัตถุอันตราย ที่พลิกแพลงกลวิธีตบตาจนท.รัฐไทย ตั้งเป้าช่วงแรกจัดหา 8 ตัวปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะสนามบิน ปักหมุดวางฤกษ์มงคล อาคารศูนย์ฝึกสุนัขเพื่อการศุลกากร บนพื้นที่เกือบ 3 ไร่ ย่านบางพลี สมุทรปราการ คาดเปิดใช้งาน ส.ค.นี้ พร้อมใช้เป็นแหล่งฝึกสุนัขดมกลิ่นในไทย

วันที่  8 พฤษภาคม 2566 ณ ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ, นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีวางฤกษ์มงคล (08.09 น.) อาคารศูนย์ฝึกสุนัขเพื่อการศุลกากร (Thai Customs Canine Training Center) ถึงการจัดตั้งศูนย์ฝึกสุนัขฯดังกล่าว ว่า ที่ผ่านมาพบการลักลอบนำเข้า ส่งออก และนำผ่านยาเสพติดและสินค้าอันตรายต่างๆ ผ่านช่องทางศุลกากร ไม่ว่าจะเป็นทางรถยนต์ รถไฟ เรือ อากาศยาน และพัสดุไปรษณีย์ ซึ่งกรมศุลกากรได้ทำการตรวจยึดยาเสพติดประเภทต่าง ๆ เช่น เฮโรอีน เมทแอมเฟตามีน เคตามีน และอื่นๆ ที่ซุกซ่อนในสินค้าที่ส่งออกไปยังต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น

อีกทั้ง ผู้ลักลอบนำยาเสพติดนำเข้าหรือส่งออกนอกประเทศมีการเปลี่ยนรูปแบบในการซุกซ่อนยาเสพติดที่หลากหลาย และซับซ้อนมากขึ้น ทำให้ยากต่อการตรวจค้น แม้กรมศุลกากรจะใช้เทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาช่วยในการดำเนินงาน แต่ก็มีข้อจำกัด จึงต้องหามาตรการและเครื่องมือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสกัดกั้นยาเสพติดให้ได้ผลดำเนินงานที่ดียิ่งขึ้น โดยได้นำสุนัขมาร่วมปฏิบัติงานด้านการสืบสวนและปราบปรามเกี่ยวกับการตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายโดยเฉพาะยาเสพติดและสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านศุลกากรของไทยให้มีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น

“หน่วยงานศุลกากรทั่วโลกก็ให้ความสำคัญกับการนำสุนัขเข้าร่วมปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามทางศุลกากรเช่นกัน เนื่องจากสามารถลดช่องว่างของการตรวจสอบที่สลับซับซ้อนของสารเสพติดต่าง ๆ ได้ และมีการหยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นเป็น WCO Global Canine Forum เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลและแบบอย่างการปฏิบัติที่ดี (Best Practice) โดยเฉพาะประเทศที่หน่วยงานศุลกากรมีการจัดตั้งหน่วยฝึกสุนัข ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย ซึ่งมีชื่อเสียงมากในการนำสุนัขมาร่วมปฏิบัติงาน” อธิบดีกรมศุลกากร ระบุและยอมรับว่า การนำสุนัขเข้าร่วมปฏิบัติงานฯของศุลกากรไทย อาจล่าช้าเมื่อเทียบกับหลายประเทศในอาเซียน แต่พัฒนาการจะเร็วเพราะดึงเอาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจากหน่วยงานอื่นมาร่วมงาน โดยมีเป้าหมายช่วงแรกจะเพิ่มจำนวนสุนัขให้ครบ 8 ตัว ส่วนใหญ่จะเป็นสุนัขสายพันธุ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ และอัลเซเชียน เนื่องจากมีปลายจมูกยาวเหมาะกับการดมกลิ่นเพื่อตรวจหายาเสพติดและวัตถุอันตรายต่างๆ

นายพชร กล่าวอีกว่า จากการศึกษาดูงานหน่วยงานฝึกสุนัข (Canine Training Center) ของศุลกากรต่างประเทศ พบว่าหลายประเทศนำสุนัขดมกลิ่นมาร่วมปฏิบัติงานป้องกันและปราบปราม การลักลอบหรือหลีกเลี่ยงสิ่งของผิดกฎหมาย ให้ผลการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพและมีหลายประเทศที่ยินดี ให้ความร่วมมือ รวมถึงให้คำแนะนำการนำสุนัขมาช่วยปฏิบัติภารกิจด้านการสืบสวนและปราบปราม โดยเฉพาะ ศุลกากรเกาหลีใต้ ได้มอบสุนัขตรวจค้นยาเสพติดสายพันธุ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ ให้กับกรมศุลกากร จำนวน 2 ตัวเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2566 และขณะนี้เจ้าหน้าที่ศุลกากรไทย 2 ราย อยู่ในระหว่างเข้ารับการฝึกอบรมการปฏิบัติงานร่วมกับสุนัขฯ ที่ได้รับมอบ ณ KCS Detector Dog Training Center เมืองอินชอน สาธารณรัฐเกาหลี

“ขณะนี้ อยู่ระหว่างการศึกษาระบบและจัดแบ่งช่วงเวลาทำงานของสุนัขดมกลิ่น เพื่อปรับให้สอดรับกับสภาพอากาศของเมืองไทย เนื่องจากสุนัขแต่ละตัวจะมีช่วงเวลาทำงานและหยุดพักตามหลักการสากล ซึ่งช่วงแรกคงต้องเน้นปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ท่าอากาศยานฯ เนื่องจากมีการปรับสภาพอากาศและอุณหภูมิในระดับที่สุนัขที่อาศัยอยู่ในเมืองหนาวคุ้นเคย แต่เราจะเน้นหาสุนัขภายในประเทศที่คุ้นชินกับสภาพอากาศของไทย มาเข้ารับการฝึกอบรมในศูนย์ฝึกสุนัขเพื่อการศุลกากรแห่งนี้ต่อไป” อธิบดีกรมศุลกากร กล่าว

สำหรับการก่อสร้างอาคารศูนย์ฝึกสุนัขเพื่อการศุลกากรบนเนื้อที่ 2 ไร่ 3 งาน แบ่งเป็นอาคารสำนักงานชั้นเดียว 1 อาคาร อาคารที่พักสำหรับสุนัขและสถานที่ฝึกสุนัขในร่ม ชั้นเดียว 1 อาคาร  และลานสนามหญ้าสำหรับการฝึกกลางแจ้ง คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณปลายเดือนมิถุนายน 2566 และจะสามารถดำเนินการปฏิบัติงานได้เต็มรูปแบบในเดือนสิงหาคม 2566

“กรมศุลกากรเชื่อว่าเมื่อมีสุนัขเข้าร่วมปฏิบัติงานด้านการสืบสวนปราบปรามเกี่ยวกับการตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมาย โดยเฉพาะยาเสพติดและสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด จะช่วยส่งเสริมและเพิ่มประสิทธิภาพการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด รวมถึงสินค้าที่เป็นอันตรายต่อสังคมและความมั่นคงของประเทศผ่านด่านศุลกากรได้เป็นอย่างดีต่อไป” อธิบดีกรมศุลกากร ย้ำ

อนึ่ง พิธีวางฤกษ์มงคล อาคารศูนย์ฝึกสุนัขเพื่อการศุลกากร นอกจากคณะผู้บริหารกรมศุลกากร อาทิ นางนันท์ฐิตา ศิริคุปต์ รองอธิบดีฯ นางกิจจาลักษณ์ ศรีนุชศาสตร์ รองอธิบดีฯ แล้ว ยังมี ผู้แทนศุลกากรของประเทศต่าง ๆ (Customs Attaché) เข้าร่วมพิธีฯ ดังกล่าวด้วย.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password