“นอท กองสลากพลัส” รับสารภาพ! ขายสลากเกินราคา ไม่อยากเสียเวลา เพื่อให้คดีจบ

รับสารภาพแล้ว! “นอท กองสลากพลัส” ยอมรับ ขายสลากเกินราคาจริง เป็นคดีที่กองสลาก ไปเคาะประตูบ้านลูกค้า กว่า400พันคดีทั่วประเทศ โดยมีลุกค้าตนแค่ 300 ราย และ ไม่อยากเสียเวลา เพื่อให้จบเรื่อง

วันที่ 10 มีนาคม 2566 หลังอัยการคดีพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 1 นำสำนวน พร้อมนำตัว นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส พร้อมผู้บริหารบริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด และนิติบุคคล รวม 3 คน ส่งฟ้องศาลแขวงพระนครเหนือ

ล่าสุด นอท กองสลากพลัส ยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากตั้งแต่ 1 เม.ย.2564 ขณะนั้นยอมรับว่าขายสลากในรูปแบบเก่าโดยไม่ได้คิดบริการแยกออกจากค่าสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงตัดสินใจรับสารภาพ ถูกศาลพิจารณาสั่งปรับเป็นจำนวนเงิน 2,672,000 บาท จาก 510 กรรม โดยให้เหตุผลว่ายอมรับให้คดีจบ ๆ ไป ไม่อยากเสียเวลาเดินทางมาศาลบ่อย โดยคดีที่สำนักงานกินแบ่งรัฐบาลฟ้องดำเนินคดีกับตัวเอง ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี เป็นการฟ้องคนละส่วนกัน เนื่องจากระยะเวลาที่สั่งฟ้องได้คิดค่าบริการรูปแบบใหม่ แยกส่วนออกจากค่าสลากฯ จึงยังต่อสู้คดีนี้นั้นอยู่

ส่วนสำนวนคดีของตำรวจที่สั่งฟ้องตัวเองในครั้งนี้ นอท เผยว่าเป็นคดีเก่าที่ตำรวจเคยเข้าตรวจค้นแล้วเมื่อปี 2564 แต่กลับนำมาถูกรวบรวมในพยานหลักฐานใหม่โดยการไปไล่เคาะประตูบ้านลูกค้านำมาเป็นพยาน 384 คน จาก 4,000 กว่ารายการ ในส่วนของการจะเปิดแพลตฟอร์มขายลอตเตอรี่ออนไลน์ใหม่นั้นขอให้เป็นเรื่องของอนาคตตอนนี้อยู่ระหว่างต่อสู้ในหลาย ๆ คดีที่ตัวเองถูกสั่งฟ้อง

ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก “นอท พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์” ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “คดีที่ตัดสินวันนี้ คือคดีที่ตำรวจไปเคาะประตูบ้านลูกค้า 4,200 คดีทั่วประเทศ แต่มีลูกค้าผมให้ปากคำเพียง 300 กว่าคน ซึ่งเป็นคดีที่เกิดขึ้นเมื่อเดือน มีนาคม 2564 ซึ่งผ่านมาจะหมดอายุความแล้วในวันที่ 24 มีนาคมนี้แล้ว

ตอนนั้นผมขายสลากแบบมีค่าบริการ แต่เรารวมค่าบริการเข้าไปเลยโดยไม่ได้แจกแจงรายละเอียดให้ชัดเจน ซึ่งเราเคยโดนจับและปรับมาแล้ว 1 ครั้ง โดยตำรวจปรับกรรมละ 5,000 บาท รวม 250,000 บาท ไม่รู้ว่าด้วยสาเหตุอะไร ตำรวจถึงไปรื้อเรื่องนี้มาทำอีก ทั้งๆ ที่ไม่มีเจ้าทุกข์ และการสอบสวนก็ไม่รัดกุมเรียบร้อย

คดีนี้ถ้าผมจะสู้คงสู้ได้ แต่หลังจากที่คิดดูแล้ว คดีนี้ไม่ได้มีผลต่อคดีอื่นๆ ที่จำเป็นต้องพิสูจน์ว่ากองสลากพลัสไม่ได้ทำผิด ผมจึงตัดสินใจรับสารภาพเพื่อให้จบเรื่องนี้ไป จะได้มีเวลาไปทำคดีอื่นๆ ที่จำเป็น โดยศาลสั่งปรับผมเป็นจำนวนเงิน 2,672,000 บาท คดีนี้ใช้เวลาทำเพียง 1 เดือนกับ 10 วัน”

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password