คอตกเข้าคุก! ศาลไม่ให้ประกันตัวคดีโกงเงินสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯ 1.4 พันลบ.

อัยการฟ้อง “บัญชา” อดีต ปธ.คกก. ชุดที่ 53 สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯ ปมยักยอกทรัพย์ 1.4 พันล้านบาท เผย! ศาลเห็นเป็นคดีมีทุนทรัพย์สูง สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจแรง หวั่นจำเลยหนี หากปล่อยชั่วคราว สุดท้าย คอตกเดินเข้าคุกต่อ

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยกรณีที่ สำนักงานอัยการสูงสุดรับสำนวนคดีจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เกี่ยวกับคดีผู้บริหารคณะกรรมการดำเนินการ ชุดที่ 53 สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำกัด กระทำทุจริต ซึ่งเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมาทาง กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ส่งสำนวนคดีพิเศษที่ 140/2564 ที่สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำกัด ผู้เสียหาย ดำเนินคดีนายบัญชา ชลาภิรมย์ ผู้ต้องหา ความผิดฐานยักยอกทรัพย์, เป็นผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของผู้อื่นกระทำผิดหน้าที่ของตนด้วยประการใดๆ โดยทุจริตจนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินของผู้นั้น โดยได้กระทำในฐานเป็นผู้มีอาชีพหรือธุรกิจ อันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน มายังสำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด  ซึ่ง นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นผู้รับผิดชอบพิจารณาสำนวนคดีดังกล่าว

และ จากการพิจารณาสำนวนของอัยการสำนักงานคดีพิเศษ1 พิจารณาเเล้ว เห็นว่า ขณะเกิดเหตุ นายบัญชา ชลาภิรมย์ เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินการ ชุดที่ 53 ของสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์ฯ จำกัด ปฎิบัติหน้าที่จนเกิดความเสียหาย จำนวนรวมประมาณ 1,446 ล้านบาท เป็นเหตุให้สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับความเสียหาย

โดยคดีมีพยานหลักฐานพอฟ้อง

ซึ่งในวันนี้ (3 มี.ค.) พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 ได้นำตัวนายบัญชา ยื่นฟ้องส่งตัว เป็นจำเลยต่อศาลอาญา คดีหมายเลขดำที่ อ.600/2566 ในความผิดฐาน ยักยอก, เป็นผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของผู้อื่นกระทำผิดหน้าที่ของตนด้วยประการใดๆ โดยทุจริตจนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินของผู้นั้น โดยได้กระทำในฐานเป็นผู้มีอาชีพหรือธุรกิจ อันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน

โดยเรื่องนี้ น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด ได้รับรายงานผลการพิจารณาตรวจสอบสำนวนคดีดังกล่าวของ คณะทำงานสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 ซึ่ง สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ผู้รับผิดชอบคดีดังกล่าวแล้ว ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานภายในสังกัดสำนักงานอัยการสูงสุดทั้งในส่วนกลางและต่างจังหวัด ร่วมกันยกระดับการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนด้วยความเท่าเทียม ซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม และมีจิตสาธารณะ เพื่อให้การปฏิบัติงานในฐานะของการเป็นหนึ่งในองค์กรในสายธารแห่งกระบวนยุติธรรม เกิดประโยชน์สูงสุดแก่รัฐและประชาชนอย่างแท้จริง จำเลยที่พนักงานอัยการยื่นฟ้องในวันนี้จึงเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมมีสิทธิ์ต่อสู้คดีตามกฏหมายต่อไป

ทั้งนี้ ศาลอาญา ประทับฟ้องเป็นคดีดำอ. 600/2566 และสอบคำให้การจำเลยแล้วให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 8 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

ต่อมา ญาติยื่นหลักทรัพย์ ขอประกันตัวนายบัญชาระหว่างการพิจารณา โดย ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า  คดีนี้มีทุนทรัพย์จำนวนสูง  ความเสียหายทางเศรษฐกิจมาก หากปล่อยชั่วคราวเกรงจำเลยจะหลบหนี ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง จากนั้น เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จึงนำตัวนายบัญชาไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ต่อไป .

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password