พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. หอบ สำนวนสอบสวนกว่า 2 หมื่นหน้า ควรสั่งฟ้องมาเฟีย “ตู้ห่าว” กับ ลูกสมุน ให้อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งคดี มั่นใจพยานหลักฐานแน่นหนา เอาผิด เครือข่ายทุนจีนสีเทาได้

วันที่ 13 ม.ค.2566 เวลา 09.30 น.ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน สำนวนคดี นายชัยณัฐร์ หรือ ตู้ห่าว กรณ์ชายานันท์ นักธุรกิจชาวจีนกับพวก ผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติด , ฟอกเงิน ฯลฯ พร้อมคณะ เดินทางนำสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องนาย “ตู้ห่าว” กับพวกให้อัยการสูงสุดพิจารณา

ผบ.ตร.กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 26 ต.ค.65 ที่ บช.น.นำกำลังเข้าตรวจค้นผับจินหลิง ย่านยานนาวา ตรวจพบยาเสพติด จำนวนมากพร้อมอุปกรณ์การเสพหลายรายการ จึงยึดเป็นของกลางพร้อมจับกุมตัวผู้ต้องหาที่มั่วสุมเสพยา และจำหน่ายยาเสพติด นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมาศาลอาญากรุงเทพใต้ได้ออกหมายจับนายตู้ห่าวกับพวก ข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดและสมคบ และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในข้อหาร่วมกันฟอกเงินและมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมทั้งขยายผลสืบสวนจับกุมบุคคลผู้เกี่ยวข้อง

คดีนี้เป็นความผิดที่เกี่ยวเนื่องนอกราชอาณาจักร อัยการสูงสุดได้มอบหมายให้กับตนเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบร่วมกันทำการสอบสวนกับพนักงาน ในสังกัด 4 กองบัญชาการประกอบด้วย บช.น. บช.ก. บช.สอท. บช.ปส. และร่วมกับพนักงานอัยการทำการสอบสวนคดีนี้ ทั้งนี้ การสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว โดยมีการสอบสวนพยานบุคคล 444 ปาก สืบพยานล่วงหน้า 20 ปาก ตรวจยึดทรัพย์สินได้ 5,345 ล้านบาท มีพยานเอกสาร พยานนิติวิทยาศาสตร์ และอื่นๆ กว่า 67 แฟ้ม จำนวน 26,892 แผ่น สอบสวนผู้ต้องหา ทั้งหมด 43 คน แบ่งเป็นบุคคลธรรมดา 38 คน นิติบุคคล 5 ราย

ในส่วนของบุคคลธรรมดา 38 คน จับกุมดำเนินคดีแล้ว 20 คน ยังหลบหนี 18 คน ได้สั่งการให้เร่งรัดติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นนิติบุคคลอีกจำนวน 5 บริษัทแจ้งข้อหาดำเนินคดีแล้วเช่นกัน โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับสั่งการเน้นย้ำให้ดำเนินคดีตรงไปตรงไป ตามพยานหลักฐานอย่างเด็ดขาดกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำผิดของกลุ่มเครือข่ายทุนจีนสีเทา

“ผมในฐานะพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ พร้อมคณะพนักงานสอบสวน ได้นำสำนวนการสอบสวน มาส่งมอบให้พนักงานอัยการเพื่อพิจารณาต่อไป โดยมั่นใจสำนวนแน่นหนาครบถ้วน เพียงพอในการสั่งฟ้องเพื่อให้ศาลลงโทษผู้ต้องหาได้ ขอขอบคุณคณะพนักงานอัยการ ที่ร่วมทำการสอบสวนคดีนี้ ขอบคุณ ปปส. ปปง.ที่ร่วมสืบสวนและสนับสนุนข้อมูล ขอบคุณพี่น้องประชาชน สื่อมวลชนที่คอยติดตามและเป็นกำลังใจให้คณะทำงาน รวมทั้งคุณชูวิทย์ที่คอยสนับสนุนข้อมูล ทำให้คดีนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี” ผบ.ตร.กล่าว

โดยวันนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ที่เป็นคนเปิดเผยข้อมูลเบื้องลึกคดีนายตู้ห่าว และผับขินหลิง ได้เดินทางมาร่วมสังเกตูการณ์ด้วย พร้อมกล่าวขอบคุณ เป็นกำลังใจให้กับ ผบ.ตร.และคณะพนักงานสอบสวนทั้งหมดด้วย.