DSI เร่งสางปม ‘คุกฮาเร็ม’ สอบเส้นเงินจนท. ปล่อยจีนเทาแผ่อิทธิพลในคุก

“อธิบดีดีเอสไอ” มอบกองคดีความมั่นคง สืบสวนปม “คุกวีไอพี-แก๊งจีนเทา” ขยายผลเส้นทางการเงิน-ผู้เกี่ยวข้อง ส่วนเมียพิธีกร ก. ล็อคคิวเยี่ยมวันอาทิตย์ ยังไม่ได้รับข้อมูล

จากกรณี พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย ผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม , กรมราชทัณฑ์ , กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เข้าตรวจสอบภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร หลังชุดปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นเรือนจำฯ พบผู้ต้องหากลุ่มทุนจีนสีเทา พร้อมนางแบบชาวจีน 2 ราย และสิ่งอำนายความสะดวกต่างๆ บริเวณห้องผู้คุมที่มีการแปลงสภาพห้อง ก่อนเก็บหลักฐานไปตรวจสอบ เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา

วันนี้ (23 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้มีการมอบหมายการสืบสวนดังกล่าวต่อกองคดีความมั่นคง เพื่อดูว่าเข้าลักษณะคดีพิเศษในกรณีใด ประกอบด้วย 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1.พิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้นที่ไหน อย่างไร มีใครเกี่ยวข้องโดยมีพยานหลักฐานใดยืนยันบ้าง 2.เจ้าหน้าที่คนใดเป็นตัวการ หรือช่วยเหลืออำนวยความสะดวก รวมทั้งขยายผลหากมีผู้มีอิทธิพลคนใดช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง 3.กลุ่มหรือเครือข่ายผู้ต้องขังชาวต่างชาติที่ซื้อบริการถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับเรื่องใด และพัวพันกับคดีข้ามชาติอื่นๆ อีกหรือไม่ ซึ่งเชื่อว่ามีทรัพย์สินที่หมุนเวียนใช้ในการกระทำความผิดจำนวนมาก โดยจะวิเคราะห์จากเส้นทางการเงินเพื่อยืนยันข้อเท็จจริงประกอบการสืบสวนต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับแดนขังภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ที่มีกลุ่มผู้ต้องขังจีนเทาอยู่นั้น จะมีด้วยกัน 3 แดน คือ แดน 2 แดน 4 และ แดน 8 ซึ่งเป็นแดนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและอยู่ด้านในสุด มีผู้ต้องขังกว่า 900 คน ทั้งยังอยู่ติดกับแดนสูทกรรม และอีกส่วนหนึ่ง คือ โรงงานช่างไม้ ซึ่งหมดสภาพความเป็นโรงงานไปแล้ว จึงอาจถูกใช้เป็นที่ซ่องสุมของผู้ต้องขังจีนเทา ซึ่งชุดตรวจค้นจะต้องตรวจค้นแดน 8 อย่างระมัดระวัง เพราะอาจมีของต้องห้ามบางอย่างที่ผู้ต้องขังจีนเทาอาจฝังไว้ในดินแล้วนำมาใช้ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตรวจค้นได้ ส่วนเรื่องการตรวจสอบเส้นทางการเงิน อาจเป็นเรื่องที่ซับซ้อนเล็กน้อย เพราะต้องยอมรับว่าส่วนใหญ่ล้วนใช้บัญชีม้า (บัญชีบุคคลอื่น) หรือใช้นอมินีในการรับเงินแทนตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพฤติกรรมส่วนตัวของ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ที่ชื่นชอบเดินทางไปมาเก๊า สามารถใช้ตรวจสอบคู่ขนานกับข้อมูลเรื่องห้องลับใต้บันไดและเรื่องทุจริตได้ด้วย เพราะถ้าหากเกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกันก็มีแนวโน้ม แรงจูงใจของการไปมาเก๊าคืออะไร และห้องมีการปรับปรุงสภาพเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างไร และเกิดขึ้นในสมัย ผบ.มานพ หรือไม่ หรือเกิดขึ้นก่อนมาเข้ารับตำแหน่ง เพราะถ้าหากมีการปรับปรุงในยุคของ ผบ.มานพ จริงๆ ก็จะต้องขยายดูต่อว่าใช้เงินแหล่งใดมาปรับปรุงห้องดังกล่าว เพราะเงินที่จะใช้จะมีแค่งบประมาณของกรมราชทัณฑ์ หรือเงินพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังของกองพัฒนาพฤตินิสัย (กพน.) ซึ่งถ้าไม่ใช่เงินจากแหล่งราชการเช่นนี้ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะดูต่อว่า “เป็นเงินจากผู้ต้องขังจีนเทาอุปถัมภ์หรือไม่”
รายงานข่าวเปิดเผยว่า คณะกรรมการตรวจสอบฯ ได้ประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ตรวจสอบการเดินทางไปต่างประเทศของ นายมานพ อดีตผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ที่มีกระแสข่าวว่าชื่นชอบเดินทางไปมาเก๊า คู่ขนานกับการตรวจเส้นทางการเงิน โดยมีประด็นต้องสงสัยว่า ที่นอกจากไปเล่นพนันหรือไม่ อาจเป็นสถานที่รับมอบเงินจากกลุ่มเส้นเทา เพื่อหลบเลี่ยงเส้นเงินจำนวนมาก และยังพบว่ากลุ่มจีนเทาได้มอบรถหรูให้ นายมานพ อดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ใช้ตลอดช่วงดำรงตำแหน่งด้วย
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถาม พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ เพิ่มเติมกรณีเพจออนไลน์เผยแพร่ประเด็นภรรยาของอดีตพิธีกร ก. คดี ดิไอคอน ต้องจ่ายเงิน 4 หมื่นบาทเพื่อล็อคคิวเข้าเยี่ยมในวันอาทิตย์ ด้วยว่า ประเด็นดังกล่าวอยู่ระหว่างตรวจสอบ เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงาน ณ ขณะนี้.






