‘ทวี สอดส่อง’ ไม่กังวลปม คปท.ร้องเรียน ‘ทักษิณ’ ป่วยทิพย์

รมว.ยุติธรรม มองกลุ่ม คปท.ร้องเรียน ปมการรักษาตัว “ทักษิณ” ถือเป็นสิทธิ์ ย้ำยินดีให้ตรวจสอบทุกเรื่อง
วันนี้ (11 ก.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) เปิดเผยกรณี เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) , กองทัพธรรม และ ศปปส. เข้าร้องเรียนสำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินคดี รมว.ยธ. กรณีช่วยเหลือ นายทักษิณ ชินวัตร ไม่ให้นอนเรือนจำและส่งรักษาตัวโรงพยาบาลตำรวจ ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ว่า เป็นสิทธิ์ที่สามารถร้องเรียนได้แต่ยืนยันทำตามกฎหมายและกระบวนการ ส่วนรายละเอียดต้องเคารพในกระบวนการตรวจสอบ ยินดีให้ความร่วมมือ
เมื่อถามว่ากรณี คปท. มายื่นเรื่อง รมว.ยธ. ตรวจสอบนายทักษิณ หลายครั้งแต่ยังเพิกเฉย และยืนยันว่านายทักษิณ ป่วยวิกฤต ด้าน พ.ต.อ.ทวี เผยว่า รายละเอียดต่างๆ ได้มีการปรากฏไว้แล้ว เนื่องจากในคำพิพากษา ไม่มีการไปพาดพิงบุคคลอื่น เราก็คงขอเอาคำพิพากษา มาดูยินดีให้มีการตรวจสอบ
เมื่อถามว่าการคุมขังนอกเรือนจำอาจใช้มาตรการนี้กับนายทักษิณหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี เผยอีกว่า การคุมขังนอกเรือนจำอยู่ในอำนาจของกฎหมายกรมราชทัณฑ์ ส่วนใหญ่ตนไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว ติดตามจากข่าวเหมือนกันเพราะตอนนี้ ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม ก็ห้ามแม้แต่ญาติยังเยี่ยมไม่ได้ ในระยะเวลา 5 วันแรก
ส่วนได้รับรายงานจากกรมราชทัณฑ์ นายทักษิณ อยู่ภายในเรือนจำเป็นอย่างไรบ้าง อาการป่วย สุขภาพร่างกายจิตใจเป็นอย่างไร และอยู่แดนใด พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ตนได้ฟังจากข่าวแต่ยืนยันกรมราชทัณฑ์ต้องดูแลผู้ต้องขังทุกคนในเรื่องสุขภาพ ซึ่งเรือนจำมีระบบดูแลอยู่แล้ว
ต่อข้อถามว่าระเบียบขั้นตอนเป็นไปตามกฎของราชทัณฑ์เลยหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี ยืนยัน เป็นไปตามกฎเกณฑ์ เพราะกรมราชทัณฑ์เป็นหน่วยงานที่มีกฎหมายเฉพาะ และตั้งแต่ก่อตั้งมาก็ไม่เคยมีลักษณะนี้ เมื่อมีเรื่องลักษณะนี้ก็ต้องถอดบทเรียน ตนก็อยากให้กรมราชทัณฑ์ได้ถอดบทเรียน ส่วนอาการป่วย นายทักษิณ ตนยังไม่ได้รับรายงาน
เมื่อถามกรณีการพักโทษได้ มีระยะเวลาคุมขังมากเป็นเวลานานเท่าใด พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตามกฎหมายกรมราชทัณฑ์ว่ามีเกณฑ์ลักษณะอย่างไร ซึ่งทุกอย่างอยู่ในกฎหมายราชทัณฑ์ทั้งหมด เมื่อเกิดลักษณะอย่างนี้ ทางกรมราชทัณฑ์ต้องดูอย่างรอบคอบ เพราะตนมาดำรงตำแหน่งตอนนั้น นายทักษิณ ก็เข้ามาอยู่ภายในเรือนจำ และรัฐบาลเข้ามาสมัย นายทักษิณ มีคำพิพากษาศาลแล้ว แต่เชื่อว่ารัฐบาลปฏิบัติตามกฎหมายระเบียบ ซึ่งต้องขอนำคำพิพากษาและคำวินิจฉัยมาอ่านดู
ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่านายทักษิณ มีคำพิพากษาในลักษณะที่เป็นตัวการในกรณีดังกล่าวจะสามารถ ขอพักโทษทั้งที่ต้องกรณีเช่นนี้ได้หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี เผยว่า ต้องสอบถามทางราชทัณฑ์ เพราะเป็นอำนาจของเรือนจำ เนื่องจากต้องดูแลตามสิทธิ์ผู้ต้องราชทัณฑ์ เป็นหน้าที่การดูแลตามเจตนารมณ์ของเรือนจำทุกแห่ง หากมีความแออัด อย่างเรือนจำในกรุงเทพ เช่นเรือนจำกลางคลองเปรม เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง หรือ ทัณฑสถานหญิงกลาง และ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ มีผู้ต้องขังไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นคน แต่ทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เรือนจำก็ต้องดูตรงนั้น
เมื่อถามว่ากรณี นายทักษิณ จะเข้าสู่กระบวนการการพักโทษ จะต้องโทษจำคุกอย่างน้อย 6 เดือนหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า ใช่และต้องไปดูระเบียบของราชทัณฑ์ ส่วนกรณีพิเศษ เช่น เจ็บป่วย ก็ต้องได้รับการรักษา
เมื่อถามว่าขณะนี้ทาง กรมราชทัณฑ์ ไม่มีบุคคลใดออกมาให้ข้อมูล นายทักษิณ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เป็นการปกปิดข้อมูลหรือไม่ เพราะผู้ต้องขังทั่วไป ให้ข้อมูลได้ปกติ พ.ต.อ.ทวี ชี้แจงว่า กรมราชทัณฑ์ ไม่มีหน้าที่ให้ข้อมูล ทำไมต้องเอาหน้าที่ไปประจานคนนั้นคนนี้ เดี่ยวจะไปถามทางกรมราชทัณฑ์ เพราะมีโฆษกราชทัณฑ์
ส่วนกรณี นายทักษิณจะต้องจำคุก 1 ปีตามคำพิพากษาล่าสุด หรือจะต้องรับโทษคดีเก่าที่ยังไม่ได้จำคุกด้วยหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี ระบุว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องเก่า แต่เรื่องใหม่จะต้องผ่านกระบวนการการสอบสวน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อ พ.ต.อ.ทวี ขอยุติการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน สื่อมวลชนได้พยายามสอบถามว่า กรณีระเบียบการคุมขังนอกเรือนจำนั้น ผู้ต้องขังหรือครอบครัวของผู้ต้องขัง สามารถยื่นคำร้องขอได้หรือไม่ หรือเป็นหน้าที่เฉพาะของเรือนจำที่จะดำเนินการเท่านั้น ปรากฏว่า พ.ต.อ.ทวี ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าวแต่ได้ส่งยิ้มให้สื่อแทน ก่อนลงลิฟต์ออกจากอาคารเดินทางกลับ.