ดีเอสไอร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ปปง. บช.ก. และ ASCO แจงความคืบหน้าคดีหลักทรัพย์ มอร์ รีเทิร์น (MORE) พร้อมจับมือยกระดับความปลอดภัยในตลาดหุ้น

(วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม 2568) เวลา 13.00น. ณ หอประชุมศุกรีย์ แก้วเจริญ ชั้น 3 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมแถลงความคืบหน้าสำคัญคดีหลักทรัพย์บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) (MORE) และการยกระดับการทำงานร่วมกัน เพื่อตลาดทุนไทย ซึ่งจัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ได้แก่ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) งานดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อสื่อสารให้ผู้ลงทุนและสาธารณชนทั่วไปได้รับทราบถึงการประสานความร่วมมือขององค์กรที่เกี่ยวข้องในการยกระดับการป้องกันและป้องปรามการกระทำความผิดในตลาดทุน โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือสนับสนุนการดำเนินการคดีหลักทรัพย์ MORE จนส่งผลให้สามารถดำเนินการสืบสวน สอบสวน และมีการกล่าวโทษผู้ร่วมกระทำความผิดได้อย่างรวดเร็ว

“คดีหุ้น MORE เป็นพัฒนาการอาชญากรรมทางเศรษฐกิจอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ผู้กระทำผิดอาศัยความรู้ ความชำนาญเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ หรืออยู่ในแวดวงนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (Broker) รู้ขั้นตอนวิธีการซื้อขายจนชำนาญสามารถมองเห็นช่องโอกาสที่จะทุจริตได้ ความสำเร็จของเรื่องนี้เกิดจากการบูรณาการหลายหน่วยงานเพื่อยกระดับมาตรฐานการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ทำให้สามารถระงับยับยั้งความเสียหายของบริษัทหลักทรัพย์ทั้ง 10 บริษัท รวมความเสียหายประมาณ 4,500 ล้านบาท ที่จะต้องชำระให้กับผู้ขายหลักทรัพย์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ร่วมกระทำผิดด้วย โดยใช้มาตรการทางแพ่งของกฎหมายฟอกเงินในการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้มีคำสั่งให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินและนำมาเฉลี่ยคืนให้กับผู้เสียหาย และยังมีการดำเนินคดีอาญากับกลุ่มผู้ร่วมกระทำผิดด้วย ดังนั้น นอกจากที่ผู้กระทำผิดจะไม่ได้ทรัพย์สินตามที่ตั้งใจไว้แล้ว ยังอาจจะต้องรับโทษในทางอาญาในสถานหนักด้วย” พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าว.