‘เอกนัฏ’ ลุยพื้นที่ลอบฝังกากพิษ เกือบ 5 หมื่นตัน จ.ฉะเชิงเทรา

“เอกนัฏ” นำทีมลุยพื้นที่ลักลอบฝังกากพิษเกือบ 5 หมื่นตัน ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ประกาศกวาดล้างโรงงานเถื่อน ทุนสีเทา สั่งดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมขยายผลเส้นทางลักลอบขนย้ายโดยเฉพาะกลุ่มโรงงานรีไซเคิลกาก อีอีซี

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และหัวหน้าชุดตรวจการณ์สุดซอย หรือ “ทีมสุดซอย” กระทรวงอุตสาหกรรม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา หลังได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ หลังชาวบ้านร่วมกับกรมทรัพยากรน้ำบาดาลขุดสำรวจน้ำใต้ดิน แล้วพบของเหลวสีดำ ถุงบิ๊กแบ็คที่ใส่ขยะกากอุตสาหกรรม ส่งกลิ่นเหม็นรุนแรง สร้างผลกระทบกับสุขภาพและสภาพแวดล้อม

นายเอกนัฏ กล่าวว่า จากรายงานทราบว่าทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้ดำเนินโครงการติดตามคุณภาพน้ำในพื้นที่ลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม และจ.ฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง จึงใช้วิธีการเจาะติดตั้งบ่อสังเกตการณ์ เผื่อว่าในอนาคตพื้นที่เฝ้าระวังมีปัญหาสารเคมีรั่วไหลออกมา ก็จะสามารถติดตามตรวจสอบได้ทันสถานการณ์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทราบว่าพื้นที่แห่งนี้เคยมีการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม จึงเลือกที่จะมาขุดสำรวจตรวจสอบว่าในปัจจุบันมีลักษณะเป็นอย่างไร
โดยในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม เดิมที่ดินแห่งนี้ ทางอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทราและกรมโรงงานอุตสาหกรรมเคยดำเนินคดีกับเจ้าของที่ดินเกี่ยวกับการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมไปแล้วเมื่อปี 2565 หลังจากเกิดเหตุไฟไหม้ ทางกรมโรงงานอุตสาหกรรมจึงเข้ามาตรวจสอบ และพบกากอุตสาหกรรมหลายประเภท ทั้งมีการลักลอบฝัง และกองกากอุตสาหกรรมอันตรายปริมาณมากเอาไว้อย่างผิดกฎหมายจำนวนมาก จึงให้ดำเนินการกำจัดและขนย้ายออกนอกพื้นที่

“วันนี้ได้มาตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าภายในที่ดิน 11 ไร่แห่งนี้ ยังมีกากอุตสาหกรรมซ่อนอยู่จำนวนมากซึ่งกรมโรงงานฯ ได้ทำการคำนวณคร่าวๆ ว่าหากขุดลงไปไม่ต่ำกว่าสามเมตร อาจจะเจอกากอุตสาหกรรมซ่อนอยู่กว่า 47,399 ตัน ซึ่งจะทำการสอบสวนต่อไปว่าเหตุใดการกำจัดกากอุตสาหกรรมในที่ดินแห่งนี้จึงไม่เป็นไปตามคำสั่ง และจะทำการสอบสวนไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องด้วยว่ามีส่วนรู้เห็นหรือละเว้นหรือไม่” นายเอกนัฏกล่าว
นายเอกนัฏ กล่าวเพิ่มเติมว่า เบื้องหลังของการขนย้ายลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมนี้ คาดว่าเป็นการทำเป็นกระบวนการ ซึ่งต้องใช้ความร่วมมือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษเนื่องจากมีความเชื่อมโยงและซับซ้อน ส่วนเจ้าของที่ดินก็ต้องถูกดำเนินคดี ตอนนี้ทางกระทรวงอุตสาหกรรมอยู่ในช่วงของการที่จะผลักดันกฎหมายฉบับใหม่คือ พรบ.จัดการกากอุตสาหกรรม เพื่อจัดระบบใหม่ จัดการช่องโหว่ทางกฎหมาย และการดำเนินคดีจะมีบทลงโทษที่รุนแรงขึ้น เพื่อจัดการกับธุรกิจสีเทาสีดําให้หมดไป
และหลังจากนี้จะต้องขยายผลการเชื่อมโยงเส้นทางว่ามีการลักลอบขนย้าย นํากากอุตสาหกรรมจากพื้นที่อื่น มากองทิ้งไว้ที่นี่ด้วยหรือไม่ และมอบนโยบายกรมโรงงานอุตสาหกรรมออกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่องตั้งและขยายโรงงานรีไซเคิลทั่วประเทศ และสั่งชุดสุดซอยตรวจเข้มโรงงานรีไซเคิลทั้งหมดโดยเฉพาะในพื้นที่เศรษฐกิจอีอีซีที่มีการตั้งโรงงานหนาแน่น.

You may also like
