รมว.ยธ. ‘ติมอร์-เลสเต’ เยี่ยมคารวะรมว.ยธ.ไทย ชมไทยต้นแบบกระบวนการยุติธรรมยึดปชช.เป็นศูนย์กลาง

รมว.ยุติธรรม “ไทย-ติมอร์ เลสเต” ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ หวังลดอาชญากรรม-ยาเสพติด พร้อมกล่าวชื่นชมไทยเป็นต้นแบบกระบวนการยุติธรรมยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง

(26 มิถุนายน 2568) ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงยุติธรรม แจ้งวัฒนะ ว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้การต้อนรับ ฯพณฯ ดร.ซือร์จีอู ดือ เจซุซ ฟีอร์นังดึช ดา กอซตา ออร์ไน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต และคณะ ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการ ณ กระทรวงยุติธรรม โดยรัฐมนตรีติมอร์-เลสเต ได้กล่าวชื่นชมประเทศไทยที่เป็นต้นแบบในการยกระดับกระบวนการยุติธรรม โดยยึดหลักนิติธรรมและมองประชาชนเป็นศูนย์กลาง

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กล่าวต้อนรับโดยเน้นย้ำถึงพหุวัฒนธรรมที่สำคัญและทำเลที่ตั้งที่โดดเด่นของติมอร์-เลสเต รวมถึงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างไทยกับประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่อดีตนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ ชินวัตร ได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของประธานสมาคมประชาชาติอาเซียนแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมาเลเซียเป็นประธานอาเซียนในปัจจุบัน

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ได้กล่าวถึงบทบาทของกระทรวงยุติธรรมไทยว่าเป็นหน่วยงานหลักที่ดูแลด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม โดยยึดหลักสิทธิมนุษยชนเป็นสำคัญ กระทรวงยุติธรรมมีหน่วยงานภายใต้กำกับดูแลมากมาย เช่น กรมบังคับคดี, กรมราชทัณฑ์, กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ, กรมคุมประพฤติ, กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน, กรมสอบสวนคดีพิเศษ และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งครอบคลุมกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ต้นจนถึงกระบวนการยุติธรรมหลังคำพิพากษา โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือ การมองประชาชนเป็นศูนย์กลางของกระบวนการยุติธรรม
“ประเทศไทยมีศูนย์ยุติธรรมชุมชนประมาณ 7,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการยุติธรรมชุมชนที่มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกัน แก้ไข และเยียวยาปัญหาของประชาชนที่เกิดขึ้นภายในชุมชน” พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กล่าว

ด้าน ฯพณฯ ดร.ซือร์จีอู ดือ เจซุซ ฟีอร์นังดึช ดา กอซตา ออร์ไน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมติมอร์-เลสเต ได้แนะนำตัวโดยกล่าวถึงประสบการณ์การทำงานเป็นทนายอาสาและบทบาทในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน การเดินทางมาเยือนไทยครั้งนี้ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง และได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทย พร้อมชื่นชมบทบาทสำคัญของประเทศไทยในภูมิภาคอาเซียน คณะของติมอร์-เลสเต ประทับใจกับการเยี่ยมชมกรมราชทัณฑ์ก่อนหน้านี้ และเชื่อมั่นว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับติมอร์-เลสเตจะยั่งยืน
ในฐานะประเทศเกิดใหม่ ติมอร์-เลสเตมีความประสงค์ที่จะเรียนรู้ประสบการณ์จากกระทรวงยุติธรรม ของประเทศไทย ในมิติทางกฎหมาย ทั้งกฎหมายแพ่งและอาญา ทั้งนี้ ติมอร์-เลสเตมีผู้ต้องราชทัณฑ์ประมาณ 700 คน จากประชากร 1.4 ล้านคน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความท้าทายที่คล้ายคลึงกันในด้านการจัดการปัญหาอาชญากรรม

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กล่าวว่าทั้งสองประเทศต่างมุ่งหวังที่จะลดปัญหาอาชญากรรม และหวังว่าจะมีการแลกเปลี่ยนและพัฒนาบุคลากรร่วมกันในอนาคต พร้อมทั้งเสนอให้หน่วยงานของกระทรวงยุติธรรมไทยได้มีโอกาสเดินทางไปเยือนและประชุมร่วมกันเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมที่ติมอร์-เลสเต
นอกจากนี้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ประเทศสมาชิกอาเซียนต้องร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหายาเสพติด แม้ประเทศไทยจะไม่ได้เป็นผู้ผลิต แต่เป็นเส้นทางผ่านที่สำคัญของการลักลอบขนยาเสพติด ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากมีการนำกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ทำให้ปัญหายาเสพติดรุนแรงขึ้น ซึ่งจะต้องเร่งแก้ไข ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหายาเสพติดจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะพื้นที่แหล่งผลิตที่อยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่ความขัดแย้งชายแดน
ในช่วงท้ายของการพบปะ ฯพณฯ ดร.ซือร์จีอู ดือ เจซุซ ฟีอร์นังดึช ดา กอซตา ออร์ไน ได้มอบผ้าพันคอลายท้องถิ่นของติมอร์-เลสเตให้กับพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ซึ่งได้มอบงานไม้แกะสลักฝีมือผู้ต้องราชทัณฑ์จากกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ก่อนที่จะถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึกและเดินทางกลับในเวลา 12.00 น.