DSI ไล่ล่า ‘บินลิง วู’ นายทุนจีน ไชน่า เรลเวย์ เชื่อยังกบดานในไทย

อธิบดีดีเอสไอ แจงคืบหน้าคดีฮั้วประมูล สตง. ส่งข้อมูลให้อำนาจ ป.ป.ช. เป็นผู้ไต่สวนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำผิด ส่วนคดีนอมินีเร่งล่าตัว “บินลิง วู” นายทุนจีน เชื่อยังกบดานในไทย

วันนี้ (30 พ.ค.) ณ ห้องรับรองกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคารเอ) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าคดีโครงการก่อสร้างอาคาร สตง. ถล่ม ว่า ในคดีพิเศษที่ 32/2568 ความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 (คดีนอมินี) บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด พนักงานสอบสวนคดีพิเศษนำตัว 4 ผู้ต้องหาส่งอัยการเรียบร้อยแล้ว ส่วนกรณี “นายบินลิง วู” นายทุนชาวจีน ผู้ต้องหารายสุดท้ายตามหมายจับคดี นอมินี ขณะนี้ชุดสืบสวนสะกดรอยและการข่าวกำลังเร่งติดตาม และผู้ต้องหาอาจเข้ามอบตัวก็ได้ แต่ตอนนี้มีข้อมูลว่ายังอยู่ในประเทศไทย ส่วนพิกัดหรืออาจข้ามชายแดนไปแล้วนั้น ยังไม่สามารถบอกได้ ถ้าหากเจ้าตัวรู้เกรงว่าจะหลบหนี
พ.ต.ต.ยุทธนา เผยว่า ในส่วนคดีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (ฮั้วประมูล) ได้แยกคดีอยู่ระหว่างการสอบสวน เพราะมีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชนร่วมกระทำผิด ซึ่งที่ผ่านมามีบุคคลกล่าวโทษเจ้าหน้าที่รัฐ จึงส่งข้อมูลให้ ป.ป.ช. พิจารณาไต่สวน กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ เพราะกฎหมายให้เป็นอำนาจของ ป.ป.ช. ส่วนจะเป็นเจ้าหน้าที่หรือผู้บริหาร สตง. หรือไม่ ขอยังไม่ลงในรายละเอียด
ด้าน ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เผยว่า คดีตึก สตง. ถล่มแยกเป็น 2 คดี คือ คดีนอมินี ส่งสำนวนและนำตัว 4 ผู้ต้องหา เป็น 3 คนไทย และ นายชวนหลิง จาง กรรมการบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 ส่งอัยการเรียบร้อยแล้ว ยังเหลือ นายบินลิง วู ที่อยู่ระหว่างการหลบหนี และ คดีฮั้วประมูล ซึ่งแยกเลขคดีพิเศษออกมา อยู่ระหว่างการสอบสวนเร่งดำเนินการ มีการเรียกสอบพยานหลายรายได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานอย่างถูกต้องและรวดเร็ว เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้ชี้แจง.