‘เอกนัฏ’ เร่งปราบ อุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ ตั้งทีม ปฏิรูป มอก.

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เป็นปัญหาใหญ่ระดับประเทศ และสถานการณ์การค้าของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ซึ่งในวันนี้ต้องยอมรับว่า การใช้วิธีการเดิม ๆ นั้น ไม่ทันต่อการปราบปรามและแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย

ปัจจุบันกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปราบปรามการผลิต นำเข้า และจำหน่ายสินค้าผิดกฎหมายที่ไม่ผ่านมาตรฐาน มอก. อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง โดยเฉพาะ การจำหน่ายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ กำหนดรายการสินค้าที่ต้องเฝ้าระวังการลักลอบสวมสิทธิ์เป็นสินค้าไทยเพิ่มเติม เร่งปิดช่องโหว่ทางกฎหมายที่เอื้อต่อการสวมสิทธิ์ เพิ่มบทลงโทษแก่ผู้กระทำความผิด ตรวจสอบโรงงานต่างชาติฝ่าฝืนกฎหมาย ตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินทุนจดทะเบียน ทบทวนเงื่อนไขการส่งเสริมการลงทุนให้มีการจ้างแรงงานไทยและการใช้ปัจจัยการผลิตในประเทศ และยกระดับการติดตามตรวจสอบให้เป็นไปตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด


“ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา (ตุลาคม 2567- มีนาคม 2568) “ชุดตรวจการสุดซอย” ของกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ปราบปราม “อุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ” ซึ่งเป็นการกระทำความผิดหลากหลายรูปแบบ อาทิ โรงงานต่างชาติที่มีลักษณะเข้าข่ายเป็นนอมินี ซึ่งอยู่ในระหว่างการขยายผลร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การลักลอบนำเข้าสินค้าที่ไม่ผ่านมาตรฐาน โดยพฤติกรรมผู้กระทำความผิดมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ และไม่มีตัวตนในประเทศไทย การลักลอบสวมสิทธิ์ผลิตสินค้าที่กำหนดให้ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน และส่งออกโดยอ้างว่าเป็นสินค้าไทย การจำหน่ายสินค้าไม่ได้มาตรฐานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแพลตฟอร์มออนไลน์เชื่อมโยงกับกลุ่มทุนศูนย์เหรียญ โดยยึดอายัดสินค้าไม่ได้มาตรฐานกว่า 692.14 ล้านบาท” นายเอกนัฏ กล่าว

นายบรรจง สุกรีฑา รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา สมอ. ได้เสนอวาระเร่งด่วนให้บอร์ดพิจารณาแต่งตั้ง “คณะอนุกรรมการศึกษาการเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแลมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม” ทำหน้าที่ในการศึกษาการดำเนินการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแลมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ด้วยการพัฒนากระบวนการทั้งระบบ ตั้งแต่การกำหนดมาตรฐาน การตรวจสอบรับรอง และการกำกับดูแล เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและรองรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งจัดทำข้อเสนอแนะและแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแลผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมไทย และคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

นอกจากนี้ บอร์ดยังได้มีมติเห็นชอบร่างมาตรฐาน จำนวน 46 มาตรฐาน โดยแบ่งเป็นสินค้าควบคุม 2 มาตรฐาน ได้แก่ เคเบิลเส้นใยนำแสงโทรคมนาคมภายนอกอาคารชนิดแขวนในอากาศรับน้ำหนักตัวเองได้ และ เคเบิลเส้นใยนำแสงชนิด ADSS แขวนตามแนวสายไฟฟ้า และมาตรฐานทั่วไป จำนวน 44 มาตรฐาน เช่น ถุงพลาสติกบรรจุอาหาร ถุงพลาสติกบรรจุอาหารสำหรับอุ่นในไมโครเวฟ ยานยนต์ที่ใช้บนถนน – ส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์ระบบการใช้ก๊าซธรรมชาติอัดเป็นเชื้อเพลิง อนุภาคนาโนกักเก็บสารสกัดใบกระท่อม รหัสอักษรเบรลล์คอมพิวเตอร์สำหรับประเทศไทย เป็นต้น

พร้อมทั้งเห็นชอบรายชื่อมาตรฐานที่ สมอ. จะจัดทำเพิ่มเติมในปี 2568 อีก 160 มาตรฐาน ครอบคลุมกลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร อุตสาหกรรมหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ และอุตสาหกรรมส่งเสริมผู้ประกอบการ จากเดิมที่บอร์ดอนุมัติรายชื่อมาตรฐานไปแล้ว 611 มาตรฐาน รวมเป็น 771 มาตรฐาน

นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะอนุกรรมการฯ ชุดดังกล่าว จะประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความสามารถจากหลายหน่วยงาน เช่น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นต้น และจะเร่งเสนอรายชื่อคณะอนุกรรมการฯ เพื่อให้บอร์ดให้ความเห็นชอบ ในการประชุมครั้งต่อไป โดยจะนำร่องใน 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ต้องควบคุมกำกับดูแลเป็นพิเศษก่อน เนื่องจาก มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมภายในประเทศและความปลอดภัยของประชาชนในวงกว้าง ได้แก่ กลุ่มสายไฟ เหล็ก และเหล็กโครงสร้าง (Prefabrication) ยางล้อ และกลุ่มพลาสติก เพื่อเป็นต้นแบบในการขยายผล ไปยังกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ต่อไป.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password