‘พาณิชย์’ ปูพรมตรวจเข้ม ‘ป้ายราคา – หัวจ่ายน้ำมัน’ ณ สถานีขนส่ง-ปั๊มน้ำมัน-ตลาดสด ป้องกันฉวยโอกาสช่วงสงกรานต์

ดีเดย์ 10 เม.ย.นี้ “อธิบดีกรมการค้าภายใน” นำทีมลุยตรวจป้ายแสดงราคาสินค้า พ่วงสอบความเที่ยงตรงของเครื่องชั่งน้ำหนัก ก่อนปูพรม ส่งทีมลงพื้นที่ตรวจราคาสินค้า-บริการช่วงสงกรานต์ คุมเข้มสถานีขนส่ง-ตลาดสด-ปั๊มน้ำมันทั่วประเทศ ป้องกันฉวยโอกาส หากพบการกระทำผิด ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่จะมาถึงนี้ มีประชาชนออกเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวจำนวนมาก รวมถึงมีการจับจ่ายใช้สอยสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นกว่าช่วงปกติ เพื่อรักษาความเป็นธรรมให้กับพี่น้องประชาชนให้ ได้ซื้อสินค้าและบริการในราคาที่ปกติ ห้ามเกิดการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าและค่าบริการต่างๆ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ กรมฯจึงได้จัด ชุดเจ้าหน้าที่ทั้งในกรุงเทพและปริมณฑล รวมถึงได้ประสานกับ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ออกตรวจสอบราคาสินค้าและบริการ ตั้งแต่วันที่ 8 – 15 เม.ย. ในจุดที่มีประชาชนใช้บริการจำนวนมาก ได้แก่ สถานีขนส่งหมอชิต 2 สถานีกลางบางซื่อ สถานีขนส่งสายใต้ สนามบินดอนเมือง จุดพักรถมอเตอร์เวย์ และตลาดสำคัญต่าง ๆ เช่น สำเพ็ง ตลาดธนบุรี ตลาดหนองมน ตลาดอ่างศิลา เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าและบริการสูงเกินควร พร้อมกำชับให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและค่าบริการให้ชัดเจน

“การตรวจสอบครั้งนี้ มุ่งเน้นใน 2 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านราคาสินค้าและบริการ ที่กำหนดให้ผู้ประกอบการต้องติดป้ายราคาให้ชัดเจนและขายตามราคาที่แสดง รวมถึงต้องระบุค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (ถ้ามี) ให้ครบถ้วน และด้านคุณภาพสินค้า ที่กำหนดให้สินค้าบรรจุหีบห่อต้องมีปริมาณครบถ้วนตามที่ระบุ และอุปกรณ์ชั่งตวงวัดต้องได้มาตรฐาน นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำการตรวจสอบสินค้าจำเป็น เช่น อาหาร เครื่องดื่ม และบริการขนส่งสาธารณะ เพื่อให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรม” อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวและย้ำว่า…
นอกจากนี้ ยังรวมถึง การตรวจสอบสถานีบริการน้ำมัน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการเติมน้ำมัน เนื่องจากเป็นช่วงที่ประชาชนเดินทางไป-กลับภูมิลำเนาและเดินทางไปท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ เป็นจำนวนมาก โดยกรมฯได้มอบหมายให้ เจ้าหน้าที่สายตรวจคุมเข้มการตรวจสอบมาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิงตามสถานีบริการ ตามเส้นทางการเดินรถที่เป็นรอยต่อของจังหวัดกรุงเทพฯและปริมณฑล มุ่งหน้าออกสู่ต่างจังหวัด และในเขตพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 – 10 เม.ย. ร่วมกับ กรมธุรกิจพลังงาน และหน่วยงานในพื้นที่ ครอบคลุมกว่า 16,000 หัวจ่ายทั่วประเทศ อีกทั้ง ยังได้รับความร่วมมือจาก บริษัทค้าน้ำมันที่สมัครเข้าร่วม “โครงการหัวจ่ายเชื้อเพลิงมาตรฐาน” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าได้รับปริมาณน้ำมันครบถ้วนตามมาตรฐานอีกด้วย

โดยในวันที่ 10 เม.ย.นี้ ตนจะนำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและบริการให้ชัดเจน ณ สถานีขนส่งหมอชิต 2 สถานีกลางบางซื่อ พร้อมทั้งตรวจความเที่ยงตรงของเครื่องชั่งน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระ ณ สนามบินดอนเมือง รวมถึงตรวจสอบความเที่ยงตรงของหัวจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท. (สำนักงานใหญ่) เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนอีกด้วย

”ขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน หากเจ้าหน้าที่พบการกระทำผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคา จะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ส่วนกรณี ขายสินค้าแพงเกินสมควรหรือกักตุนสินค้า มีโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากประชาชนพบเห็นการจำหน่ายสินค้าหรือบริการที่มีราคาสูงเกินสมควร หรือไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร.1569 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งผ่าน Line@MR.dit หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ” นายวิทยากร ระบุ
สำหรับ สถิติการร้องเรียนผ่านสายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน พบว่า 3 เดือนแรก (มกราคม-มีนาคม 2568) มีจำนวน 515 เรื่อง ลดลง 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่ที่มีการร้องเรียนผ่าน 1569 เป็นเรื่องของการไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า รองลงมา แสดงราคาไม่ตรงกับราคาที่จำหน่าย โดยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม และหากดูเฉพาะการร้องเรียนในเดือนมีนาคม 2568 พบว่า มีจำนวน 179 เรื่อง และหากเทียบเดือนมีนาคม 2565 มี 186 เรื่อง ซึ่งจำนวนเรื่องร้องเรียนที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ก็ยังเป็นเรื่องของการไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและบริการ.